บท
ตั้งค่า

EP.1

‘แก้วตา’ ควักธนบัตรที่พับซ้อนเป็นแผ่นเล็กๆ ออกจากกระเป๋าใบจิ๋วก่อนจะยื่นให้กับพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่พาเธอมาส่งถึงบ้านเป้าหมายโดยไม่แวะข้างทางตามคำตักเตือนของเพื่อนบ้าน

‘ระวังนะมึงอีแก้ว! ไปถึงกรุงเทพฯ หน้าตาบ้านนอกอย่างมึงน่ะ ไอ้พวกวินมอเตอร์ไซค์จะเอาไปล่อ มึงจะถึงสวรรค์ก่อนจะถึงบ้านเจ้านาย’

จะเรียกว่าคำตักเตือนก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่า ‘พวกปากหมา’ เห็นใครได้ดีไม่ได้ ต้องเที่ยวแขวะเที่ยวปรามเหมือนหวังดี แต่แท้จริงคือประสงค์ร้าย

ได้ฟังดังนั้นเธอก็ได้แต่ยิ้มพร้อมหันไปบอกพ่อแม่ว่าไม่ต้องห่วงเพราะเธอดูแลตัวเองได้แน่ จะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง จะตั้งใจทำงานและส่งเสียเงินกลับมาให้พ่อแม่ได้ใช้สอย ได้เก็บหอมรอมริบไว้ใช้หนี้ และจะได้มีเงินเก็บไว้ส่งเสียให้น้องได้เรียนสูงๆ และหากเจ้านายท่านเมตตา เธอเองก็อาจได้เรียนหนังสือต่อเท่าที่รายได้จะพอไปไหว

แต่เด็กสาวที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเธอและกำลังเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง การเดินทางคนเดียวจากภาคอีสานมาลงที่สถานีขนส่งหมอชิตตอนตี 5 และต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาที่บ้านนายจ้างทันที ในยามแสงสลัวแบบนี้ ก็แทบไม่มีความปลอดภัยใดๆ เลย

แต่ความจนไม่ทำให้เธอมีตัวเลือกมากนัก เมื่อแม่ติดต่อป้าพิศเพื่อนของแม่ว่ามีงานบ้านหรือมีงานอะไรพอจะแนะนำให้เธอไปทำได้หรือไม่ ป้าพิศก็ตอบกลับมาในทันทีว่าที่บ้านเจ้านายของป้าพิศที่กรุงเทพฯ กำลังต้องการเด็กรับใช้เพิ่ม

‘แก้วจะไปไหมลูก’

น้ำเสียงปรานีและสายตาของแม่ที่มองมาไม่ใช่ว่าเป็นงานคนรับใช้แล้วเธอจะทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะตั้งแต่เด็กจนโต เธอกับครอบครัวไม่เคยต้องจากกันไปไหนไกลเกินว่าวันสองวันเลย แต่ครั้งนี้หากเธอตัดสินใจลงไปทำงานที่กรุงเทพฯ นั่นจะหมายถึงว่า เธอจะมีรอบกลับมาเยี่ยมบ้านไม่ต่างจากเพื่อนบ้านคนอื่นๆ นั่นคือต้องเป็นวันหยุดเทศกาลเท่านั้น เธอถึงจะกลับมาบ้านได้

เธอสอบถามถึงค่าแรงที่เจ้านายของป้าพิศจะให้ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำบวกกินอยู่เบ็ดเสร็จนั่นถือว่าดีกว่าที่เธอจะทำงานรับจ้างในละแวกบ้านแน่ เธอจึงตัดสินใจทันทีว่าจะทำ แม้สายตาของแม่จะมีแต่ความห่วงใยและไม่เห็นด้วยเลยที่เธอจะลงไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ตาม

‘แม่ไม่ต้องห่วงแก้วนะ แก้วจะใช้ความรู้ที่พ่อแม่และครูสอน เอาตัวรอดให้ได้จ้ะ แก้วจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแน่ แม่เชื่อมั่นใจตัวแก้วนะ แก้วจะทำให้ได้’

คำพูดนั้นเธอจะถือเป็นสัญญาที่ต้องทำให้ได้ และไหวพริบแรกเพื่อเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ทันทีที่เหยียบย่างสู่พื้นแผ่นดินกรุงเทพฯ ก็คือ...

‘ป้าพิศเหรอจ๊ะ แก้วมาถึงหมอชิตแล้วจ้ะ กำลังจะขึ้นพี่วิน อ้อ... ต้องดูป้ายทะเบียนด้วยเหรอจ๊ะ จ้ะ จ้ะ ฮะ... ขอเบอร์โทรศัพท์กับชื่อของพี่วินด้วย จ้ะ เดี๋ยวแก้วถามพี่วินแป๊บหนึ่ง’

นั่นเธอแกล้งโทร.ลม โทร.แล้ง ทำทีเป็นคุยกับป้าพิศ จากนั้นก็ทำหน้าใสซื่อ ถามชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของพี่วิน รวมทั้งบอกเลขทะเบียนรถ ดั่งว่าญาติผู้ใหญ่อยากให้มั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งพี่วินก็บอกแต่โดยดี นั่นอาจเพราะความไว้วางใจในคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ ดังนั้นการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อกันคือดีสุด

และเธอก็ไม่ลืมจะถามพี่วินว่าจากหมอชิตไปถึงบ้านของเจ้านายใช้เวลากี่นาที ก่อนจะกรอกเสียงมั่นใจบอกป้าพิศในมโนว่า ‘อีกสิบนาทีเจอกันจ้ะป้า ป้าเปิดประตูบ้านรอหนูได้เลย’

และพี่วินก็พาเธอมาถึงจุดหมาย ตามเวลาที่กำหนดจริงๆ

ฟ้าเริ่มสางจนเห็นแสงสีส้มรางเลือนที่ขอบฟ้า นกบนคาคบไม้พากันตื่นส่งเสียงพูดคุยกันจิ๊บจั๊บ แก้วตาหันมองที่มาของเสียงก่อนจะยิ้ม นี่คือการเริ่มวันใหม่ เธอเองก็เช่นกัน นี่คืองานใหม่ ที่อยู่อาศัยใหม่ และชีวิตใหม่ที่เธอไม่เคยคุ้นมาก่อน แต่สัญญากับพ่อแม่ไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ดี จะไม่ให้เป็นไปตามคำหวังดีประสงค์ร้ายของเพื่อนบ้านที่แสนดีอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel