สาวใช้ร้ายเดียงสา

21.0K · จบแล้ว
Mrs.Lily
20
บท
21.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นิยายอีโรติกสำหรับสาวใสซ่อนเสียว ‘แก้วตา’ สาวน้อยวัย 18 ปี เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเป็นคนรับใช้บ้านคนรวย และลูกชายเจ้านายก็หล่อจนแก้วตาใจสั่น เธอเก็บเขาเข้าสู่ความฝันสุดสยิว โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังกลายเป็นเหยื่ออันโอชะ ‘วิน’ จิตรกรหนุ่มผู้คลั่งไคล้เสพเซ็กซ์ เขาเชื่อว่าภาพวาดอีโรติก ย่อมเกิดจากพลังแห่งเซ็กซ์ขับเคลื่อน ยามที่ผู้คนมองภาพวาดของเขาจะถูกกระตุ้นทันที เพราะแต่ละภาพนั้นถูกเคลือบด้วยน้ำเสพสม วินยื่นข้อเสนอให้แก้วตามาเป็นนางแบบของเขา ด้วยเงื่อนไข เปลือยทั้งร่าง แต่ไม่แตะตัว ใครจะทนได้!!!

นิยายปัจจุบันคนรับใช้

EP.1

‘แก้วตา’ ควักธนบัตรที่พับซ้อนเป็นแผ่นเล็กๆ ออกจากกระเป๋าใบจิ๋วก่อนจะยื่นให้กับพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่พาเธอมาส่งถึงบ้านเป้าหมายโดยไม่แวะข้างทางตามคำตักเตือนของเพื่อนบ้าน

‘ระวังนะมึงอีแก้ว! ไปถึงกรุงเทพฯ หน้าตาบ้านนอกอย่างมึงน่ะ ไอ้พวกวินมอเตอร์ไซค์จะเอาไปล่อ มึงจะถึงสวรรค์ก่อนจะถึงบ้านเจ้านาย’

จะเรียกว่าคำตักเตือนก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่า ‘พวกปากหมา’ เห็นใครได้ดีไม่ได้ ต้องเที่ยวแขวะเที่ยวปรามเหมือนหวังดี แต่แท้จริงคือประสงค์ร้าย

ได้ฟังดังนั้นเธอก็ได้แต่ยิ้มพร้อมหันไปบอกพ่อแม่ว่าไม่ต้องห่วงเพราะเธอดูแลตัวเองได้แน่ จะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง จะตั้งใจทำงานและส่งเสียเงินกลับมาให้พ่อแม่ได้ใช้สอย ได้เก็บหอมรอมริบไว้ใช้หนี้ และจะได้มีเงินเก็บไว้ส่งเสียให้น้องได้เรียนสูงๆ และหากเจ้านายท่านเมตตา เธอเองก็อาจได้เรียนหนังสือต่อเท่าที่รายได้จะพอไปไหว

แต่เด็กสาวที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเธอและกำลังเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง การเดินทางคนเดียวจากภาคอีสานมาลงที่สถานีขนส่งหมอชิตตอนตี 5 และต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาที่บ้านนายจ้างทันที ในยามแสงสลัวแบบนี้ ก็แทบไม่มีความปลอดภัยใดๆ เลย

แต่ความจนไม่ทำให้เธอมีตัวเลือกมากนัก เมื่อแม่ติดต่อป้าพิศเพื่อนของแม่ว่ามีงานบ้านหรือมีงานอะไรพอจะแนะนำให้เธอไปทำได้หรือไม่ ป้าพิศก็ตอบกลับมาในทันทีว่าที่บ้านเจ้านายของป้าพิศที่กรุงเทพฯ กำลังต้องการเด็กรับใช้เพิ่ม

‘แก้วจะไปไหมลูก’

น้ำเสียงปรานีและสายตาของแม่ที่มองมาไม่ใช่ว่าเป็นงานคนรับใช้แล้วเธอจะทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะตั้งแต่เด็กจนโต เธอกับครอบครัวไม่เคยต้องจากกันไปไหนไกลเกินว่าวันสองวันเลย แต่ครั้งนี้หากเธอตัดสินใจลงไปทำงานที่กรุงเทพฯ นั่นจะหมายถึงว่า เธอจะมีรอบกลับมาเยี่ยมบ้านไม่ต่างจากเพื่อนบ้านคนอื่นๆ นั่นคือต้องเป็นวันหยุดเทศกาลเท่านั้น เธอถึงจะกลับมาบ้านได้

เธอสอบถามถึงค่าแรงที่เจ้านายของป้าพิศจะให้ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำบวกกินอยู่เบ็ดเสร็จนั่นถือว่าดีกว่าที่เธอจะทำงานรับจ้างในละแวกบ้านแน่ เธอจึงตัดสินใจทันทีว่าจะทำ แม้สายตาของแม่จะมีแต่ความห่วงใยและไม่เห็นด้วยเลยที่เธอจะลงไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ตาม

‘แม่ไม่ต้องห่วงแก้วนะ แก้วจะใช้ความรู้ที่พ่อแม่และครูสอน เอาตัวรอดให้ได้จ้ะ แก้วจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแน่ แม่เชื่อมั่นใจตัวแก้วนะ แก้วจะทำให้ได้’

คำพูดนั้นเธอจะถือเป็นสัญญาที่ต้องทำให้ได้ และไหวพริบแรกเพื่อเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ทันทีที่เหยียบย่างสู่พื้นแผ่นดินกรุงเทพฯ ก็คือ...

‘ป้าพิศเหรอจ๊ะ แก้วมาถึงหมอชิตแล้วจ้ะ กำลังจะขึ้นพี่วิน อ้อ... ต้องดูป้ายทะเบียนด้วยเหรอจ๊ะ จ้ะ จ้ะ ฮะ... ขอเบอร์โทรศัพท์กับชื่อของพี่วินด้วย จ้ะ เดี๋ยวแก้วถามพี่วินแป๊บหนึ่ง’

นั่นเธอแกล้งโทร.ลม โทร.แล้ง ทำทีเป็นคุยกับป้าพิศ จากนั้นก็ทำหน้าใสซื่อ ถามชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของพี่วิน รวมทั้งบอกเลขทะเบียนรถ ดั่งว่าญาติผู้ใหญ่อยากให้มั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งพี่วินก็บอกแต่โดยดี นั่นอาจเพราะความไว้วางใจในคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ ดังนั้นการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อกันคือดีสุด

และเธอก็ไม่ลืมจะถามพี่วินว่าจากหมอชิตไปถึงบ้านของเจ้านายใช้เวลากี่นาที ก่อนจะกรอกเสียงมั่นใจบอกป้าพิศในมโนว่า ‘อีกสิบนาทีเจอกันจ้ะป้า ป้าเปิดประตูบ้านรอหนูได้เลย’

และพี่วินก็พาเธอมาถึงจุดหมาย ตามเวลาที่กำหนดจริงๆ

ฟ้าเริ่มสางจนเห็นแสงสีส้มรางเลือนที่ขอบฟ้า นกบนคาคบไม้พากันตื่นส่งเสียงพูดคุยกันจิ๊บจั๊บ แก้วตาหันมองที่มาของเสียงก่อนจะยิ้ม นี่คือการเริ่มวันใหม่ เธอเองก็เช่นกัน นี่คืองานใหม่ ที่อยู่อาศัยใหม่ และชีวิตใหม่ที่เธอไม่เคยคุ้นมาก่อน แต่สัญญากับพ่อแม่ไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ดี จะไม่ให้เป็นไปตามคำหวังดีประสงค์ร้ายของเพื่อนบ้านที่แสนดีอย่างแน่นอน