4
“ก็ได้ค่ะ”
เธอรับคำไม่อยากเอาแต่ใจมาก กลัวเขาไล่กลับบ้าน
“เธอนอนห้องนี้ก็แล้วกัน”
ณัฐบอกเด็กสาวที่ทำท่าร่าเริงเกินเหตุ ยังกับมาพัก รีสอร์ทสุดหรูในบรรยากาศชั้นยอด
“ขอบคุณมากๆ นะคะ”
ณัฐเดินกลับห้อง แต่พอจะปิดประตูเขาก็เห็นว่าเธอเดินตามมาด้วย เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“มีอะไร”
“ไม่มีเสื้อผ้าใส่ค่ะ อุปกรณ์อาบน้ำก็ไม่มี”
“อ้อ... รอเดี๋ยว”
ณัฐหัวหมุนเล็กน้อยเขาไม่เคยมีเพื่อนร่วมบ้านเป็นผู้หญิง
“ผ้าเช็ดตัว สบู่อาบน้ำ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เสื้อผ้ากลับไปเอาที่บ้านนะ ฉันไม่มีให้”
“ใส่ของอาณัฐก็ได้”
“มันตัวใหญ่มาก”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอยิ้มแป้น
เขาถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะไปหยิบเสื้อยืดและกางเกงแพรให้เธอ ถ้าเป็นกางเกงเอวยืดหรือพอดีตัวเธอคงใส่ไม่ได้ แต่ถ้าเอวผูกน่าจะใส่ได้
“ขอบคุณนะคะอาณัฐ”
“ยังกับรู้จักกันมานานเลยเนอะ”
เขาประชด เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ณัฐจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จ เขาทำท่าจะทิ้งตัวลงนอนประตูห้องก็ถูกเคาะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
“มีอะไร”
เขาเปิดประตูออกไปแต่เจอกับความว่างเปล่า จึงขมวดคิ้วเข้าหากัน
“แบร๋....” เธอโผล่หน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา
“เฮ้ย! ทำอะไรยัยเด็กบ้า”
เขาทำเสียงดุ
“อาณัฐตกใจด้วย กลัวผีเหรอคะ”
“เล่นพิเรนทร์อะไร ไปนอนได้แล้ว”
เขาทำเสียงดุอีก แต่เด็กสาวตรงหน้าไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“โกรธเหรอคะ”
เธอทำหน้าสำนึกผิด แต่ก็เดินเข้ามาในห้องเขาแบบไม่ได้รับเชิญ ณัฐมองคนตัวเล็กกว่าที่ใส่เสื้อผ้าของเขาดูรุ่มร่าม
“ออกไปได้แล้วอาจะนอน”
“พรุ่งนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอคะ ตื่นสายบ้างก็ได้”
“อาไม่ชอบตื่นสาย”
“ว่าจะชวนดูหนังกันเสียหน่อย”
“อาเหนื่อย ทำงานมาทั้งวันจะนอนแล้ว”
“ใจร้ายจัง”
เธอเดินไปนั่งบนเตียงเขา พอณัฐเดินเข้าไปหา ร่างอวบก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงหน้าตาเฉย
“กลับไปนอนที่ห้องตัวเองเลย”
“เตียงของอาณัฐนุ่มจังเลยค่ะ น่านอน ดูสิเด้งดึ๋งๆ”
“เป็นสาวเป็นนางเข้ามาในห้องผู้ชายได้ยังไงกัน”
“โอ๊ย! นี่มันปีพ.ศ.อะไรแล้วคะ หนูดีไม่ถือหรอกค่ะ อาณัฐอย่าคิดมากเลย หนูดีไม่ใช่ผู้หญิงสมัยกรุงศรีอยุธยานะคะ”
“นั่นแหละ พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไงให้รักนวลสงวนตัว”
“แล้วผู้ชายล่ะคะ รักนวลสงวนตัวเพื่อผู้หญิงหรือเปล่า ผู้ชายเห็นแก่ตัวทุกคน ตัวเองมีอะไรกับผู้หญิงได้ไม่ซ้ำหน้า แต่พอผู้หญิงมีบ้างก็หาว่าไม่ดี ต้องจิ้นต้องบริสุทธิ์”
“ใครบอกว่าผู้ชายคิดแค่ว่าผู้หญิงต้องบริสุทธิ์”
ณัฐเดินไปปิดประตู เขาขึ้นนอนบนเตียง ศีรษะพิงกับหมอนเอาไว้
เพราะวันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวัน เลยอยากพัก
“อาณัฐเป็นผู้ชายที่ไม่คิดแบบนั้นเหรอคะ”
เธอถามอย่างอยากรู้
“แบบไหน” เขาถาม ก่อนหาวฟอดๆ
“ก็เรื่องต้องมีแฟนบริสุทธิ์ผุดผ่อง”
“อาไม่ได้เทิดทูนพรหมจรรย์ขนาดนั้น”
“แสดงว่าอาณัฐก็เสียตัวแล้วสิคะ”
เด็กสาวถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ใช่เรื่องที่เด็กควรรู้” เขาจิ้มหน้าผากเธอ
“แบบนี้ทุกที ไม่ใช่เรื่องที่เด็กควรรู้ ผู้ใหญ่น่ะไม่ดี ชอบปิดบังซ่อนเร้น ไม่อยากให้รับรู้ แล้วไงคะ เดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นท้องกันเต็มบ้านเต็มเมือง”
“ถ้ารู้ว่าไม่ดีก็อย่าไปทำ ว่าคนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อน”
“หนูดีเอาตัวเองรอดอยู่แล้ว ในห้องเรียนยังไม่มีใครกล้าหือกับหนูดีเลย หนูดีเป็นหัวหน้าแก๊ง เอ๊ย! หมายถึงหัวหน้าห้อง”
“แสบน่าดูนะเรา ใครเป็นครูประจำชั้นคงปวดหัว”
“ไม่เลยค่า หนูดีเป็นที่รักของคุณครูทุกคน”
“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณพ่อกับคุณแม่แย่งกันบริจาคเงินให้โรงเรียนทุกปี”
“อ้อ... เข้าใจแล้ว”
“บางทีคุณพ่อกับคุณแม่ก็เลี้ยงลูกด้วยเงิน”
“ไม่เลี้ยงด้วยเงินจะให้กินแกลบหรือไง เดี๋ยวนี้ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
เธอนั่งขัดสมาธิกอดอก ปากยื่น หน้าตูม มองเขาเขม็ง
“แล้วยังไง”
ณัฐเสียงอ่อย ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรผิดไป
“อาณัฐไม่เคยมีลูกไม่เข้าใจหรอกค่ะ”
“อ้าว... แล้วเราเคยมีลูกกับเค้ารึไง”
“ไม่เคยมีค่ะ แต่ในฐานะลูกคนหนึ่ง ก็ต้องการความรักจากพ่อแม่ อาณัฐไม่ต้องการเหรอคะ ความรักจากพ่อแม่น่ะ”
“มันก็ใช่นะ แต่บางทีเขาก็ทำงานยุ่ง เลยไม่มีเวลาให้เรา”
“ไม่จริงค่ะ หนูดีเถียงใจขาดดิ้นเลย”
