3
“ยุ่งเรื่องคนอื่น”
เขาดุ เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“แล้วอาณัฐยังจิ้นอยู่ไหมคะ”
“แค่กๆๆๆ”
คราวนี้ณัฐสำลักน้ำ เขาแสบจมูกแสบคอไปหมด ยัยเด็กบ๊องนี่ ถามอะไรเซียวนักนะ แก่แดดแก่ลมจริงๆ
“สำลักอีกแล้ว แสดงว่ายังจิ้นอยู่”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
“ปีนี้อายุสิบแปดแล้วค่ะ ไม่เด็กแล้ว”
“ก็ถือว่ายังเด็กนั่นแหละ” เขาทำเสียงดุ
“ผู้ใหญ่ชอบหาว่าเราเป็นเด็ก จริงๆ เราโตแล้ว แถมยังทำอะไรประเจิดประเจ้อ พอเราถามก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก ชิ!”
เธอทำปากยื่น
“มีปัญหากับที่บ้านเหรอ”
“หนูนะเหรอ ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย มีแต่คนอื่นมีปัญหากับหนูตลอด”
นุดีเบ้ปาก นึกถึงเมียใหม่พ่อ ผัวใหม่แม่ก็ระอาไม่อยากอยู่บ้าน เธออยากไปอยู่กับตายายไม่ก็ปู่ย่า แต่บิดามารดาก็แย่งไปรับเธอกลับมา จริงๆ ไม่ได้อยากรับเธอมาดูแลหรอก แค่อยากเอาชนะ
ถ้าเธอไปอยู่กับตายาย บิดาก็ไปรับ บอกว่าไม่ต้องรบกวนถึงตากับยาย ยังไงผมก็ดูแลลูกผมได้ เหอะ!
ถ้าเธอไปอยู่กับปู่ย่า แม่ของเธอก็จะวิ่งแร่ไปรับ บอกว่าลูกหนู... หนูเลี้ยงได้ เชอะ!
กรรมเลยตกมาอยู่กับเธอคนเดียว กลับมาอยู่บ้านก็หงอยอยู่คนเดียว ไปเที่ยวกับเพื่อนก็ยังเบื่อหน่าย
เธออาจจะไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ เสียงดังๆ หรือออกไปไหนมาไหนนอกบ้านมากนัก นอกจากไปเรียน เพราะมันทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ชอบนอนอยู่บ้านมากกว่า ถ้าบิดามารดาไม่พาใครกลับมา มันก็สงบสุขสำหรับเธออยู่มาก
“กินเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน เดี๋ยวมืดค่ำพ่อแม่จะเป็นห่วง”
“โอ๊ย! ไม่หรอกค่ะ ทะเลาะกันเสร็จ ป่านนี้ออกจากบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่รู้จะกลับมาอีกทีตอนไหน หนูนอนบ้านอาณัฐ พ่อแม่ยังไม่ว่าเลย”
“แค่กๆๆๆ”
ณัฐสำลักเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เด็กเดี๋ยวนี้ไม่รักนวลสงวนตัวเสียบ้างเลย มานอนบ้านผู้ชายได้ยังไง เขากับเธอเพิ่งรู้จักกัน ไว้ใจเขาขนาดนั้นเลยเหรอ
“สำลักทำไมคะอา คิดว่าหนูจะทำมิดีมิร้ายอาหรือไง”
“ก็คิดอยู่”
“หนูไม่ทำอะไรอาง่ายๆ หรอกค่ะ ถ้าอาไม่อ่อยหนู”
“เหลวไหล”
“แน้! หน้าแดงทำไม”
เธอจับผิดเขา ณัฐหันไปตักปลากะพงนึ่งมะนาว
“รีบกินรีบกลับไปซะ”
“ไม่เอาค่ะ จะนอนที่นี่”
“เป็นเด็กเป็นเล็ก มานอนบ้านผู้ชายได้ยังไง”
“หนูไม่เด็กแล้ว”
เธอก้มดูตัวเอง เขาก็เผลอมองตาม ก่อนจะกระแอมเมื่อเห็นความอวบอิ่มของเธอ
“ฮะ แฮม”
เขากระแอม รู้สึกแก้มร้อนผ่าว
“ขอนอนด้วยคน”
“ยังไงก็ต้องกลับบ้าน”
“นอนกับเจ้าดุ๊กดิ๊กหน้าบ้านก็ได้”
“ยุงได้หามไปทิ้งป่า”
“ก็ดี จะได้ตายๆ ไปซะ ไม่มีใครรักหนูต้องการหนูสักคนเดียว”
เธอก้มหน้า ไหล่ไหวเล็กน้อยเหมือนกำลังร้องไห้ ณัฐทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นเด็กสาวร้องไห้
นุดีหลุบตาซุกซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์เอาไว้
“อยากนอนก็นอน ที่นี่มีห้องว่าง”
“จริงเหรอคะ ขอบคุณอาณัฐมากค่ะ”
เธอดีใจโผเข้าจับแขนเขาเขย่า
“อืม...”
เขารับปากแล้วมานั่งคิดหนัก ไม่น่ารับปากไปเลย ชีวิตเรียบง่ายของเขาคงจะปวดหัวแน่นอนที่ต้องมาเลี้ยงเด็กที่โตแล้ว แถมยังมีปัญหาครอบครัวอีก
“ทีหลังถ้าจะมาที่นี่ไม่ต้องปีนรั้วนะ ตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง”
“ไม่ให้ปีนรั้วแล้วมาทางไหนคะ”
“มาทางประตูบ้านน่ะ ทำเป็นไหม ทำตัวเหมือนแมวขโมย ดีนะไม่ปีนเข้าบ้านคนอื่น เขาได้ยิงทิ้งเสีย ยิงคนในบ้านไม่ผิดนะ”
“โหดจัง”
“ก็นั่นแหละ ดีที่เป็นอา”
“เราล่ะเป็นไงบ้าง มีอะไรบาดเจ็บหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ อาณัฐรับหนูเต็มอ้อมแขนเลย ตอนกอดโดนนมหนูด้วย”
“เด็กบ้า!”
“อะไรบ้าคะ”
“อาไม่ได้จับนมเราเสียหน่อย”
ใบหน้าเขาเหลอหลา ไม่ได้แอบจับนมหรือแต๊ะอั๋งอะไรเธอเลยจริงๆ
“ไม่ได้จับก็ไม่ได้จับสิคะ ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย”
เธอหัวเราะคิก มีความสุขที่ได้หลอกเขา ณัฐขึงตาใส่ เขาโดนเด็กหลอกเข้าอีกแล้ว
แสบนักนะ! ยัยเด็กแสบ
“พาเจ้าดุ๊กดิ๊กไปนอนในห้องด้วยได้ไหมคะ”
“ไม่ได้”
“ทำไมคะ”
เธอทำหน้างอ เหมือนขัดใจ คล้ายเด็กเอาแต่ใจ
“มันเป็นหมาไม่สมควรนอนกับคน เดี๋ยวจะเคยตัว อีกอย่างถึงมันจะอาบน้ำแต่ก็มีขนมีเชื้อโรค พามานอนด้วยเดี๋ยวก็ป่วยไม่สบาย”
