บท
ตั้งค่า

จุดเริ่มต้น

ในค่ำคืนที่พายุฝนกระหน่ำ เสียงลมกระทบกับอาคารสูง 5 ชั้น เสียงดังครืนครืน ดังเป็นระลอก ท้องฟ้าอันมืดมิดเป็นเวลาเที่ยงคืน ณ หอผู้ป่วย โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรม พยาบาลกำลังส่งเวรกันเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่ต้องดูแลต่อ หนึ่งในนั้นคือ มนทกานต์ สาวโสดอายุเข้าเลขสาม ทำงานมาได้ 8 ปี เคยมีแฟนมาแล้ว 3 คน แต่ไปกันไม่รอดเพราะเหตุผลทั่ว ๆ ไปนั่นก็คือ เข้ากันไม่ได้ (นิสัย) แฟนคนแรก หรือรักแรก มาจากความเป็นเพื่อน เรียนที่เดียวกันสมัยมัธยม คบหากันได้ 3 ปี พอเรียนจบมัธยมปลายแยกย้ายกันไปเรียนตามสิ่งตนเองตั้งใจไว้ (สำหรับมนทกานต์เรียนตามความคาดหวังของครอบครัว) จึงทำให้ทั้งสองห่างกันแล้วก็เลิกกันไปในที่สุด แฟนคนที่สอง คบหากันตอนสมัยเรียนมหาลัยคบหากันได้ไม่ถึงปีี เขาอายุมากกว่ามนทกานต์ 2 ปี เป็นคนเข้มงวด เจ้ากี้เจ้าการ ทำอะไร อยู่ไหนต้องคอยรายงานตัวตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาอยู่กับเพื่อนยังต้องวิดีโอคอลรายงานตัว จึงทำให้หญิงสาวทนไม่ไหวจนต้องปลีกตัวออกมาและเลิกกันไป และแฟนคนสุดท้าย คบกันนานสุด 7 ปีอาถรรพ์ เขาเป็นผู้ชายที่ดี ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ เอาใจใส่ รักหญิงสาวมากกก มากจนเข้าขั้นตัวติดกันตลอดเวลา แรก ๆ ก็รู้สึกดี พอนานวันเข้าเริ่มรู้สึกเบื่อ ไปไหนมาไหนจะทำอะไรคือต้องถามหญิงสาวตลอดเวลา คิดเองไม่ได้สักอย่างแม้กระทั่ง กินข้าว ซื้อของยังต้องถามตลอด หญิงสาวรู้สึกเหมือนตนกลายเป็นคนควาญช้างยังไงยังงั้น (เขาว่ากันว่าผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง) จึงตัดสินใจขอห่างกันสักพัก หลังห่างกันแรก ๆ ก็เหงา พอนานวันเข้าเริ่มชินและสนุกกับการใช้ชีวิตคนเดียว หญิงสาวจึงรักษาความโสดมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากส่งเวรเสร็จ มนทกานต์สะพายกระเป๋าใบใหญ่ที่หาซื้อได้ทางท้องตลาดไม่มียี่ห้อ หญิงสาวเน้นสามารถใช้สอยสะดวกและใส่ได้ทุกสิ่งอย่าง เพราะหญิงสาวคิดว่าทุกอย่างต้องใช้หมดเลยตัดปัญหาโดยการหาซื้อกระเป๋าใบใหญ่ใส่ให้ครบทุกอย่างแทน หลังจากสะพายกระเป๋าเปิดประตูหน้าตึกกำลังจะออกจากตึก

“พี่มนท์ รอหนูด้วย” พยาบาลสาวอีกคนชื่อหนูดีร้องเรียกด้วยเสียงแหลมปรี๊ดดด มนทกานต์หันหน้ากลับไปมองพร้อมตอบกลับไป

“เร็ว ๆ เลย ฝนตกหนักแบบนี้เปียกชัวร์ จอดรถไว้ไกลด้วยสิ โรงพยาบาลพื้นที่ตั้งเยอะไม่รู้จักทำโรงจอดรถ ต้องหาที่จอดเอง แถมไกลอีกต่างหาก เบื่อจริง”มนทกานต์บ่น

“อย่าบ่นเลยน๊า บ่นไปก็เท่านั้น เดี๋ยวแก่ไวนะ นี่ไงร่มพี่มนท์ ไม่เปียกชัวร์ ”หนูดีกล่าวพร้อมหยิบร่มขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋า มนทกานต์มองดูพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจ

“เปียกชัวร์ ๆ ดิ ไม่ว่า เล็กขนาดนี้”

“โห พี่มนท์ มีดีกว่าไม่มีนะ อิอิ” หนูดีตอบพร้อมหัวเราะเบา ๆ จากนั้นทั้งสองพากันเดินตากฝนกันไปที่รถยนต์ของตนพร้อมร่างกายที่เปียกโชก ทั้งสองเดินมายังลานดินกว้างข้างโรงพยาบาล ในที่สุดเดินมาถึงรถของมนทกานณ์ก่อน ส่วนรถของหนูดีจอดถัดไปอีก 3 คนรถ มนทกานต์กดปลดล็อครถยนต์ รีบเปิดประตูขึ้นรถไปทันที เสียงสายฝนที่ตกกระทบรถยนต์ดังดังแรงมาก จนมนทกานต์แอบกลัวในใจ

“โห ถ้าจะตกแรงขนาดนี้ไม่แถมลูกเห็บมาด้วยเลยล่ะ”หญิงสาวพูดอย่างหงุดหงิด

“เปียกขนาดนี้ แก้ผ้าออกดีไหมเนี๊ย หนาวชิบเป๋ง หึยยย” หญิงสาวขนแขนก็เริ่มชันขึ้นตามทันที หญิงสาวกลัวว่าถ้าเปียกนานกว่านี้ต้องเป็นหวัดแน่เลยจึงรีบสตาร์จรถยนต์ แล้วขับออกจากลานจอดรถทันที ระหว่างขับรถออกมาจากโรงพยาบาลไม่นาน ฝนจากที่ว่าแรงแล้ว ยิ่งแรงขึ้นกว่าเดิม ยางปัดน้ำฝนปรับจนเร็วสุดแล้ว ยังมองไม่ค่อยเห็นทางด้านหน้า เห็นทางเพียงลาง ๆเท่านั้น พอขับไปได้สักพักผ่านหน้าทางเข้านิคมอุตสาหกรรมเริ่มมีรถออกมาจากนิคมมากขึ้นทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ ด้วยเวลานี้เป็นเวลาเที่ยงคืน ฝนตกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย แสงไฟจากรถคันอื่นบวกกับสายฝนที่กระทบกระจกรถยิ่งทำให้มองไม่เห็นทางด้านหน้า พอถึงทางขึ้นสะพานยกสูงข้ามไฟแดง จู่ ๆ รถกระบะคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว และด้วยความเร็วนั้นทำให้น้ำที่นองอยู่เต็มพื้นถนนกระเด็นมาใส่รถของมนทกานต์อย่างแรง

“เฮ้ย อะไรเนี้ย ขับรถประสาอะไรว๊ะ” หญิงสาวตกใจ ด่ารถคันนั้นไป จู่ ๆ เกิดเสียงดัง ‘ตึบ แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก ตึบ’

"เฮ้ย รถเป็นอะไรว๊ะ กรี๊ดดด ” รถชนเข้ากับขอบสะพาน ไถลตามขอบสะพาน ชนเข้ากับรถยนต์อีกคันที่อยู่ด้านหน้าอย่างแรง ทำให้รถของมนทกานต์พลิกคว่ำตกสะพานลงไปกระแทกกับพื้นถนนด้านล่างสูงราว 5เมตร อย่างแรงจากที่ได้ยินเพียงเสียงฝนกลับมีเสียงดังโครมมมแทรกขึ้นมา

“โอ๊ยยย ช่วยด้วยยย ฮือ ฮือ เจ็บ อ่ะ ชา แขน…ขา…ฉัน ฮือ ฉันจะตายหรอเนี๊ย ไม่เอาาา จะตายง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ ฮือฮือ โอะ” หญิงสาวเอ่ยในลำคอเบา ๆ ด้วยความเจ็บปวด แต่แล้วน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา แขนขาขยับไม่ได้รู้สึกชาไปทั้งตัว มีรู้สึกเจ็บแปลบๆบริเวณศีรษะที่กระแทกเข้ากับหลังคารถ เจ็บแน่นหน้าอก หายใจเริ่มติดขัด ‘พ่อแก้วแม่แก้ว พระรัตนตรัยทั้งหลาย คงถึงเวลาลูกแล้วใช่ไหม ถ้าต้องตายจริงๆขอให้พ่อแม่ น้อง ๆ อยู่อย่างมีความสุข ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและอย่าได้ทุกข์จากการที่ลูกจากไปเลย ลาก่อนนะทุกคน ฮือ โอะ จะเจ็บบบ’ หลังพูดจบหญิงสาวก็สิ้นลม พร้อมกับกลุ่มควันที่ลอยฟุ้งขึ้นในอากาศออกจากตัวรถท่ามกลางสายฝน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel