บท
ตั้งค่า

สาวน้อยไม่อยากเป็นทาสรับใช้อีกแล้ว 1

ฉินหลิวซีแง้มประตูยื่นหน้าออกไป ห้องนอนของนางอยู่ไม่ห่างจากห้องใช้งานส่วนอื่น ๆ ของบ้านเท่าไรนัก จึงได้ยินเสียงป้ากับมารดาพูดคุยกันชัดเจน

“ผ้า เป็นหน้าที่ของเจ้าต้องซัก ทำไมจึงไม่ยอมเอาเสื้อผ้าของข้าไปซัก!”

“แต่พี่หญิงไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาให้ข้านี่เจ้าคะ”

“ไม่ได้เอามาก็ไม่รู้จักถามอย่างนั้นหรือ เป็นหน้าที่ของเจ้าแท้ ๆ”

ชิวย่าหนานถูกตะคอกใส่ก็ยิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสู้ ที่ตรงนั้นยังมีท่านย่าของนางอีกคนที่ยืนอยู่ด้วย อยู่ต่อหน้าแม่สามีชิวย่าหนานยิ่งไม่กล้ามีปากมีเสียง เพราะรู้ว่าแม่สามีไม่ชอบตนเป็นทุนเดิม

“ท่านแม่ดูสิเจ้าคะ นางไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเอง” ป้าสะใภ้เดินเข้าไปเอาอกเอาใจท่านย่าเขา บีบนวดไปพลาง ฟ้องเรื่องมารดาของนางไปด้วย

ประจบประแจงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขั้นเซียนเลยนะนั่น

“ท่านแม่ คนแบบนี้เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก หน้าที่ตัวเองไม่ยอมทำ ต้องให้คอยสั่งอยู่ตลอดทั้ง ๆ ที่ทำมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เย็นนี้ไม่ต้องทำอาหารสำหรับพวกนางหรอก

เจ้าค่ะ”

“เดี๋ยวสิเจ้าคะ” ชิวย่าหนานได้ยินก็ตกใจมาก อาหารแต่ละวันก็แทบไม่พออิ่มอยู่แล้ว ถ้าต้องมาถูกงดข้าวอีกละก็แย่แน่

ฉินหลิวซีแอบฟังก็ได้แต่ขมวดคิ้ว การให้ครอบครัวหนึ่งกินแต่แป้งทั้งบ้านมันปกติที่ตรงไหน ครอบครัวใหญ่นี้ฐานะไม่ดีนางเข้าใจ แต่ในขณะที่คนอื่นมีเนื้อมีไข่มีไก่ให้กิน บ้านนางกลับได้กินแต่แผ่นแป้ง ไม่มีใครรู้สึกประหลาดบ้างเลยหรือ หรือเพราะท่านย่าเลี้ยงดูลูกมาเช่นนี้ ชุดความคิดอันตรายนี้จนดูเหมือนปกติภายในบ้าน

“ท่านแม่เจ้าขา ดูสิเจ้าคะ คนอื่นทำงานหนักเหมือนกัน ทำไมพวกนางจึงได้ไม่ยอมทำงานส่วนของตัวเอง มีแต่น้องชายสามีที่พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง” จางอี้เชียนคะยั้นคะยอต่อเมื่อเห็นว่าแม่สามีไม่ยอมรับปากจะให้พวกนางอดข้าว

เมื่อป้าสะใภ้เน้นย้ำเช่นนั้นท่านย่าของนางจึงเริ่มรู้สึกเห็นด้วยคล้อยตาม บวกกับความอยากเอาใจสะใภ้ใหญ่ที่ฐานะดีกว่า นางจึงยอมรับปากอย่างไม่คิดอะไร

“นั่นสินะ เอาแบบนั้นก็แล้วกัน” ตัดสินใจเองเสร็จสรรพก็เดินจากไปไม่เหลียวหลัง ทิ้งชิวย่าหนานนั่งเคว้งคว้างอยู่คนเดียว

ไม่นานบิดาของนางก็กลับมาจากการทำนา

ฉินก่วงเป็นบุตรชายคนรองของบ้าน เอาการเอางาน ซื่อตรง และรักครอบครัว แต่ไม่เป็นที่รักของมารดา มีแต่บิดาคอยช่วยเหลือ เป็นสิ่งที่เห็นชัดเจนว่า ท่านย่าไม่ชอบครอบครัวของนาง

“ย่าหนาน เจ้ามานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว”

ชิวย่าหนานเงยหน้ามองสามี ทั้งรู้สึกผิดทั้งรู้สึกน้อยใจ แต่ไม่รู้จะบอกสามีได้อย่างไร เพราะเขาก็มีปากมีเสียงกับผู้เป็นแม่ไม่ได้เช่นกัน ถึงจะแข็งข้อไปก็ถูกทำให้ยอมในภายหลัง

ชิวย่าหนานรู้ตัวว่าเป็นคนหัวอ่อนไม่สู้คน แต่จนป่านนี้แล้วนางจะไปเอาความกล้ามาจากไหน ลูกของนางกำลังเติบใหญ่ นางไม่อยากให้แม่สามีเอาความที่ไม่ชอบหน้านางไปลงที่ลูก อย่างน้อยให้พวกเขามีที่ซุกหัวนอนก็ยังดี

“ไม่มีอะไรเจ้าคะท่านพี่ แค่ว่าวันนี้ท่านอาจจะต้องกินมื้อเย็นคนเดียว”

“ทำไมเล่า” เขานั่งลงข้างภรรยาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เห็นท่าทีอึดอัดของนางและไม่ยอมตอบก็เดาได้ว่าคงเป็นคำสั่งมารดาของตนอีกเช่นเคย

“เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ข้าไม่อยู่สินะ”

“เจ้าค่ะ แต่ว่าท่านพี่อย่าได้พูดอะไรเลย ทุกวันนี้

พี่หญิงก็ไม่ชอบหน้าข้ามากพออยู่แล้ว หากไม่ชอบหน้าท่านเข้าไปด้วยอีกเพราะออกปากช่วยข้า ครอบครัวเราจะยิ่งลำบาก”

ฉินก่วงขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้เป็นอย่างมาก ทว่าเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเลือกได้ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ บีบมือภรรยาอย่างให้กำลังใจ

เย็นวันนั้นสามแม่ลูกไม่ได้กินอาหาร ฉินก่วงเห็นภรรยากับลูกถูกสั่งอดข้าวก็รู้สึกสงสาร ตั้งใจว่าหลังกินเสร็จจะออกไปล่าสัตว์เล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกนางพอประทัง แต่ก็ถูกขัดเอาไว้ด้วยคำพูดของผู้เป็นแม่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel