ตอนที่ 3 รอยจูบ
ตอนที่ 3
รอยจูบ
อุณหภูมิในห้องทำงานท่านประธานถูกตั้งไว้ที่ 23 องศาเซลเซียส เย็นสบายกำลังดีสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับ พลอยใส กลับรู้สึกร้อนระอุราวกับกำลังยืนอยู่กลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง หัวใจของเธอเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะราวกับกลองรบที่กำลังจะฉีกขาดออกเป็นเสี่ยงๆ เธอนั่งพิมพ์รายงานอยู่บนโต๊ะหน้าห้องเขา ใจเต้นแรงจนแทบพิมพ์ผิดทุกบรรทัด ยิ่งตัวอักษรบนหน้าจอดิจิทัลพร่าเลือนเท่าไหร่ ภาพของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้าก็ยิ่งชัดเจนในหัวมากเท่านั้น…เหตุผลน่ะหรือ?
ก็เพราะเธอเพิ่งตื่นขึ้นมาบนเตียงหลังใหญ่ของเขาเมื่อเช้านี้!
ผ้าห่มผืนหนาสีหมอกอ่อนที่ปกคลุมร่างเปลือยเปล่าของเธอกับเขาเมื่อยามลืมตาตื่น ทำให้แก้มใสๆ ของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่นึกถึง และเขา… ธันวา ผู้ชายที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอไปเมื่อคืนก่อน กลับนอนหลับอยู่ข้างๆ อย่างสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝันร้ายหรือฝันดีที่เกินจริงไปเสียหน่อย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน…มันฝังลึกอยู่ในตัวเธอ และฝังแน่นยิ่งกว่าในกาย คือในใจ…
“คุณธันวาเรียกเข้าไปข้างในค่ะ”
เสียงเลขาฝ่ายพีอาร์เอ่ยบอกเรียบๆ ทำให้พลอยใสสะดุ้งเฮือก ความร้อนผ่าวที่ใบหน้าลามไปจนถึงใบหู เธอรีบคว้าแฟ้มเอกสารบนโต๊ะแล้วเดินพรวดพราดเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว โดยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตาคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเลยสักนิด
ธันวา นั่งไขว่ห้างอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ทำใบหน้าเรียบสนิทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดวงตาคมกริบเหลือบมองร่างบางที่เดินเข้ามาในห้องด้วยความเร่งรีบอย่างซุกซน ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแทบจะมองไม่เห็น เมื่อเธอวางแฟ้มเอกสารลงตรงหน้า…
เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ร่างกายสูงสง่าเคลื่อนไหวราวกับนักล่าผู้เงียบเชียบ ก่อนจะเดินอ้อมมาทางด้านหลังเธอ…อย่างเงียบงัน
พลอยใสรู้สึกได้ถึงเงาที่ทาบทับลงมา หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำจนแทบไม่กล้าหายใจ เธอขยับจะเดินหนี แต่เสียงทุ้มต่ำที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้ร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปชั่วขณะ
“เมื่อคืนเธอ…ร้องชื่อฉันหลายครั้งมากเลยนะ”
“คะ?” เธอเบิกตากว้าง ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นอีกหลายระดับ ความอับอายถาโถมเข้ามาจนแทบจะมุดดินหนี
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เป็นเสียงหัวเราะแบบที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน เป็นเสียงที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความสนุกสนาน แต่กลับเต็มไปด้วยความพึงพอใจและเร่าร้อน จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็วางลงบนเอวของเธอ…ช้าๆ
ร่างเล็กของพลอยใสสั่นสะท้านทันทีที่สัมผัสร้อนผ่าวนั้นแตะต้องผิวเนื้อ
“อย่าเดินหนี” เขากระซิบเสียงนุ่มทุ้มแต่ออกคำสั่ง ดวงตาคมกริบราวเหยี่ยวกำลังจ้องจับเหยื่อ พลางหันร่างบอบบางของเธอให้เผชิญหน้ากับเขา
“ถ้าเมื่อคืนมันเป็นเรื่องบังเอิญ งั้นตอนนี้…เธอก็ไม่มีข้ออ้างแล้ว”
พลอยใสกำลังจะถอยหลังหนีสัญชาตญาณอันตรายตรงหน้า แต่ทว่ามือใหญ่ของธันวากลับคว้าเอวเธอไว้แน่นแล้วดึงรั้งร่างเธอเข้ามาประชิด ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาทันที จูบที่ไม่ใช่แค่เร่าร้อน แต่มัน…รุนแรง ดุดัน เย่อหยิ่ง และเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่อัดอั้นมานานแสนนาน ริมฝีปากบดเบียดอย่างบ้าคลั่ง ดูดกลืนทุกอย่างจากเธอ เสียงหอบหายใจของพลอยใสสะท้อนก้องอยู่ในห้องกระจกที่ไร้ผู้คน ราวกับเป็นบทเพลงเร่าร้อนที่บรรเลงอยู่ในความเงียบงัน
มือของเขาล้วงเข้าไปในชายเสื้อเชิ้ตของเธออย่างรวดเร็ว สัมผัสอุ่นร้อนที่แผ่ซ่านเข้ามาทำให้เธอสะดุ้งเฮือก
“คุณธันวา…นี่มัน กลางวัน…” เธอพยายามจะร้องท้วงเสียงแผ่ว พยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจาย
“แล้วยังไง”
เสียงกระซิบตอบกลับมาอย่างกระชั้นชิด เต็มไปด้วยความดุดันและไร้ความปรานี ก่อนที่เขาจะใช้แรงมหาศาลกดร่างเธอลงบนโต๊ะประชุมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ เสียงกระดาษและปากกากระจัดกระจายไปทั่ว ร่างของเขาทาบทับลงมาอย่างเร่งเร้า แรงปรารถนาที่คุกรุ่นทำให้เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
เขาจัดการกระชากกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกเป็นแถบๆ เสียงผ้าขาดดังลั่น แต่เธอกลับไม่ได้สนใจ ปากของเขาจูบไล่จากซอกคอขาวเนียนลงไปจนถึงเนินอกอวบอิ่มที่ยังคงอ่อนไหวจากร่องรอยที่ทิ้งไว้เมื่อคืนก่อน ลิ้นร้อนๆ ตวัดเลียไปทั่วผิวกายอย่างจงใจ
“อีกครั้งนะ…”
เขากระซิบชิดผิวที่กำลังลุกเป็นไฟของเธอ น้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยอำนาจ “เธอจะได้จำไว้ว่าฉัน…ทำให้เธอ เสร็จที่โต๊ะนี้”
ชายหนุ่มกระชับเรียวขาของเธอให้กางออก แล้วกดสะโพกของตัวเองเข้าไปแนบสนิทกับร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอ เสียงเนื้อกระทบกันดัง “ตั่บ” สะท้อนอยู่ในความเงียบของห้องทำงานอันโอ่อ่า
จังหวะแรกรุนแรงจนพลอยใสสะอื้นออกมา เสียงนั้นแทบจะขาดใจ
จังหวะต่อมาลึกซึ้งจนเธอร้องออกมาเป็นเสียงสั่นๆ ด้วยความเสียวซ่านที่เกินจะรับไหว
เสียงครางต่ำจากลำคอของธันวาผสมผสานกับเสียงหอบหายใจของเขาและเธอที่หนักหน่วงราวกับกำลังวิ่งแข่งมาราธอน มือของพลอยใสกำแน่นกับขอบโต๊ะในขณะที่เขาใช้ฝ่ามืออีกข้างบีบสะโพกกลมกลึงของเธอไว้แน่น การเคลื่อนไหวของเขาราวกับคนคลั่งที่ถูกครอบงำด้วยไฟปรารถนาที่ไม่อาจยับยั้ง…แต่ทว่าสายตาคมกริบที่สบกันกลับแฝงความห่วงใยอย่างประหลาดที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
หลังจากการช่วงชิงกันด้วยร่างกายอันเร่าร้อนสิ้นสุดลง พลอยใสพิงแผ่นหลังกับบานกระจกเย็นเฉียบ มือเรียวเล็กยังคงกำชายกระโปรงที่ยับยู่ยี่ไว้แน่น ธันวาจัดแต่งเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อยแล้ว กลิ่นกายของเขายังคงอบอวลอยู่รอบตัวเธอ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอเหมือนของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง…เป็นสมบัติล้ำค่าที่เขาเพิ่งช่วงชิงมาได้
“ต่อจากนี้…เธอไม่มีสิทธิ์ไปไหนอีกแล้ว เข้าใจไหม” เสียงทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยอำนาจเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด
“…” พลอยใสทำได้เพียงเงียบงัน ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“เธอเป็นของฉัน” ประโยคสุดท้ายตอกย้ำความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใด
ภายนอกห้องทำงาน…ไม่มีใครรู้ว่าท่านประธานผู้ทรงอำนาจเพิ่งลงโทษเลขาสาวไปด้วยร่างกายและไฟปรารถนาที่รุนแรงเพียงใด แต่ในใจของธันวา…ความต้องการนั้นไม่ใช่แค่เพียงร่างกายอีกต่อไปแล้ว มันเริ่มลึกซึ้งมากกว่านั้น เขากำลังจมดิ่งลงไปในวังวนของเด็กสาวคนนี้ และเขาก็ไม่รู้…ว่ามันคือความหลงใหลชั่ววูบ หรือรักกันแน่
