4 เจอกันครั้งแรก
วศินนั่งอยู่ที่โต๊ะในมุมหนึ่งของร้านอาหารหรู ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความมั่นใจ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความคับแค้นและความเจ็บปวดที่ซ่อนไว้ลึกๆ เมื่อเขามองไปที่ลลิตาในชุดสวยที่เดินเข้ามาในร้าน เธอมีท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน สร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้าง แต่ในใจของวศินกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น
“สวัสดีค่ะ คุณวศิน” เสียงหวานของลลิตาดังขึ้นเมื่อเธอนั่งลงที่โต๊ะ เขาสังเกตเห็นว่าตาของเธอส่องประกาย แต่กลับมีความเศร้าซ่อนอยู่
“สวัสดีครับ คุณลลิตา” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ขณะที่สายตาของเขายังคงมองไปที่เมนูในมือ
“ฉันดีใจที่ได้เจอคุณค่ะ” เธอพูดต่อด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่การยิ้มของเธอกลับทำให้เขารู้สึกขัดใจ
“คุณรู้ไหมครับ ทำไมผมถึงนัดคุณมาที่นี่” วศินเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขาต้องการให้ลลิตาได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน
“คือ… ฉันคิดว่าเราอาจจะคุยกันเรื่องการแต่งงาน” ลลิตาตอบอย่างหวาดหวั่น รู้สึกถึงน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรของเขา
“ใช่ครับ แต่ความจริงแล้ว ผมไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นกับการแต่งงาน” วศินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาเห็นความสับสนในดวงตาของลลิตาและรู้ว่าเขากำลังทำให้เธอรู้สึกไม่ดี
“ทำไมคะ” เธอถามเสียงสั่นเล็กน้อย
“เพราะผมไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน ราวกับว่าเขากำลังพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก
ลลิตาเงียบไปสักพัก ดวงตาของเธอเริ่มแสดงความเศร้า ขณะที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“คุณ… ไม่ได้อยากแต่งงานกับฉันจริงๆ หรือคะ” เธอถามอย่างเจ็บปวด
“มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย” วศินพูดต่อ เขารู้ว่าเขาต้องทำให้เธอเข้าใจสถานการณ์นี้ “ผมหมายถึง… คุณเป็นคนดี มีอนาคตที่สดใส แต่การแต่งงานนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นการบังคับจากครอบครัวคุณ”
“พ่อของฉัน…” ลลิตาพูดเสียงสั่น “เขาบอกให้ฉันทำตามที่เขาสั่ง เพราะเขาอยากให้ฉันมีชีวิตที่ดี”
“แล้วคุณล่ะ คุณมีความสุขหรือเปล่าที่จะทำตามคำสั่งของพ่อ” เขาถามกลับ และเห็นลลิตาส่ายหน้า
“ฉัน… ฉันไม่รู้” เธอตอบอย่างท้อแท้ น้ำตาเริ่มไหลลงมา ทำให้เธอดูเปราะบาง
“คุณควรใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่ทำตามที่พ่อสั่ง” เขาพูดต่อ แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
“แต่ฉันก็ไม่สามารถขัดคำสั่งพ่อได้” ลลิตาตอบและเสียงของเธอสั่นไหว เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เธอพยายามปิดบัง
“คุณต้องไม่ลืมว่าชีวิตของคุณคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” เขายังคงพูด แต่ลึกลงไปในใจเขากลับรู้สึกสะใจที่เห็นเธอเจ็บปวด
ลลิตาเงียบไปสักพัก ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา “ขอโทษค่ะ ฉันทำให้คุณต้องมานั่งฟังเรื่องนี้” เสียงของเธอแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรครับ” วศินพูดอย่างเย็นชา “แค่คุณเข้าใจว่าชีวิตคุณมีค่าแค่ไหน”
ลลิตานั่งนิ่ง คิดถึงคำพูดของเขา ความจริงที่เขาพูดออกมาแทบจะทำให้หัวใจของเธอแตกสลาย เขาไม่เคยต้องการเธอเลย แต่เพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง เธอถึงต้องมาที่นี่และต้องเจอเขา
“ขอบคุณค่ะที่พูดความจริงกับฉัน” ลลิตาพูดเสียงสั่น รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ถูกเปิดเผยในคำพูดของวศิน
“ถ้าคุณยังคิดว่าการทำตามคำสั่งของพ่อเป็นสิ่งที่ถูก คุณก็ต้องทำ” วศินพูดและแสร้งทำเป็นว่าห่วงใย แม้ในใจเขาจะรู้ดีว่าเธอเป็นเพียงเครื่องมือในแผนการแก้แค้นของเขา
“ฉันจะพยายามค่ะ” ลลิตาตอบอย่างเปราะบาง ขณะที่น้ำตาเธอไหลออกมาอีกครั้ง
“ถ้าคุณต้องการพูดคุยอีกเมื่อไหร่ ผมก็ยินดี” วศินยิ้มเย็นๆ ขณะมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ใส่ใจ เขารู้ว่าความเจ็บปวดของเธอเป็นสิ่งที่เขาสามารถใช้ประโยชน์ได้
ในค่ำคืนนี้ การพูดคุยของทั้งคู่เต็มไปด้วยน้ำตาและความเจ็บปวด โดยที่ลลิตายังคงหลงอยู่ในโลกแห่งความหวัง ขณะที่วศินตั้งใจให้เธอเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นที่เขาไม่เคยลืมเลือน
ลลิตากลับมาถึงบ้านในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกท่วมท้น เธอเปิดประตูบ้านด้วยมือสั่น เท้าเดินอย่างช้าๆ ขณะที่ความเศร้าในใจยังคงจับจิตเธออยู่ ประภาส พ่อของเธอรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น ทันทีที่เห็นลลิตา เขาเดินเข้ามาหาและถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอย่างไรบ้างลูก คุยกับคุณวศินแล้วใช่ไหม” ประภาสถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ลลิตานิ่งไปชั่วครู่ ขณะที่คำพูดจากการสนทนากับวศินวิ่งวนในหัว เธอรู้สึกไม่อยากบอกความจริง เพราะรู้ดีว่าพ่อจะต้องหาข้ออ้างบางอย่างเพื่อให้เธอยอมรับสถานการณ์นี้
“ใช่ค่ะ พ่อ… เราคุยกันดี” ลลิตาโกหกออกไป แม้คำพูดของเธอจะมีน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่เธอพยายามเก็บอาการให้ดี
“ดีใจจัง” ประภาสยิ้มอย่างพอใจ “หวังว่าเขาจะดูแลลูกได้ดีนะ”
“ค่ะ พ่อ” เธอตอบเสียงเบา ลึกๆ แล้วรู้สึกขัดแย้งในใจ ว่าทำไมเธอถึงต้องโกหกทั้งๆ ที่หัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“พ่อมั่นใจว่าการแต่งงานนี้จะทำให้ชีวิตลูกดีขึ้น” เขาพูดต่อ ขณะที่ลลิตาเกือบจะร้องไห้ออกมา
“แต่…พ่อคะ ถ้าลูกไม่อยากแต่งงานล่ะคะ” ลลิตาถามออกไป แม้รู้ว่าอาจจะทำให้พ่อไม่พอใจ
“ลลิตา ฟังพ่อเถอะนะ ชีวิตลูกต้องมีความมั่นคง และวศินก็เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับลูก” ประภาสพูดอย่างจริงจัง
“แต่ลูกไม่รู้จักเขาดีพอ” ลลิตาพยายามขัดคำพูดของพ่อ
“ลูกจะมีเวลาเรียนรู้กันในอนาคต มันต้องใช้เวลา” ประภาสตอบอย่างหนักแน่น “อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลย”
ลลิตานิ่งไปอีกครั้ง สุดท้ายเธอได้แต่พยักหน้า ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เธอรู้ว่าพ่อมีความตั้งใจดี แต่สิ่งที่เธอรู้สึกกับวศินกลับไม่ใช่เช่นนั้น
“เราจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยนะ” ประภาสพูดเสริม พร้อมกับมองลูกสาวด้วยความรักและห่วงใย
“ค่ะ พ่อ” ลลิตาตอบแบบไม่มีความรู้สึก สายตาของเธอจดจ้องไปที่พื้น ไม่มีความมั่นใจเลยในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อกลับไปที่ห้องของตัวเอง ลลิตาเอนตัวลงบนเตียง คิดถึงคำพูดของวศินที่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ น้ำตาเริ่มไหลอีกครั้ง เธอรู้ว่าเธอจะต้องทำตามคำสั่งของพ่อ แต่เธอไม่สามารถลืมความรู้สึกที่ถูกวศินมอบให้ได้เลย
“ทำไมฉันถึงต้องเป็นแบบนี้” เธอถามตัวเองในความมืด ก่อนที่จะปิดตาและพยายามที่จะหลับไป แม้ว่าความเศร้าจะยังคงอยู่ในใจเธออย่างไม่คลาย และคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่เธอจะต้องใช้เวลาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธออย่างเงียบๆ
