3
โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง ข้อความจากเบอร์ไม่คุ้น
ไม่ระบุชื่อ: คุณปิ่นมุกใช่ไหมคะ
ปิ่นมุก: ค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ
หลังจากนั้นสักพัก
ไม่ระบุชื่อ: คนที่ควรเป็นเจ้าสาวของคุณภควัตน่ะสิ
นิ้วเธอหยุดค้างเหนือแป้น เธอยิ้มมุมปาก ไม่ใช่เพราะตลกกับประโยค แต่เพราะเธอเห็นความยั่วยุที่เดาได้ไม่ยาก เธอวางโทรศัพท์ลงโดยไม่ตอบกลับ
‘การเริ่มต้น’ เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยคำต้อนรับของทุกคน
เสียงลมพัดม่านไหว เธอปิดสมุด วางปากกา แล้วล้มตัวลงนอน ยอมให้ความเงียบโอบกอด รู้สึกถึงความสุขเล็ก ๆ ที่จับต้องได้ ความเป็นระเบียบของห้องครัว กลิ่นคุกกี้ที่ยังค้างอยู่ไกล ๆ แบบร่างที่คืบหน้า สิ่งเล็ก ๆ ที่เป็นของเธอจริง ๆ
คืนนั้นสามีของเธอไม่กลับบ้าน แต่เธอไม่ได้ติดใจอะไร สองวันผ่านไปอย่างเรียบง่าย เธอคุ้นกับบ้านหลังใหญ่และมุมส่วนตัวมากขึ้น เช้าวันที่สาม ขณะเธอกำลังหั่นสมุนไพรเพื่อหมักไก่ เสียงเครื่องยนต์หรูเคลื่อนเข้ามาหน้าบ้าน ป้าสายเงยหน้ามองผ่านหน้าต่าง
“คุณวัตกลับมาค่ะ”
หัวใจของปิ่นมุกเต้นช้าลงไม่ใช่เร็วขึ้น เป็นความรู้สึกที่แปลกดี เธอล้างมือ เช็ดให้แห้ง แล้วถอดผ้ากันเปื้อน แขนเสื้อพับขึ้นสูงเล็กน้อย เธอก้าวออกไปที่โถงรับแขก
ภควัตยืนอยู่ตรงนั้น เขาอยู่ในสูทสีเข้ม ดูเหนื่อยล้าจากการทำงานหลายวัน ใบหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาแฝงความประหลาดใจเล็ก ๆ เมื่อเห็นหเอวครัวจัดเป็นสัดส่วน และกลิ่นอาหารโฮมเมดที่ลอยอุ่น ๆ ปะทะจมูก
“คุณกลับมาแล้ว” เธอเอ่ยเรียบ ๆ
เขาพยักหน้า
“ครับ” สายตาไล่ไปตามแจกันดอกสีขาวบนโต๊ะ โคมไฟที่วางมุมอ่านหนังสือ มู่ลี่ที่เปิดรับแสงอย่างพอดีบ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
“รับข้าวเช้าไหมคะ มุกทำเอาไว้” เธอเอ่ยถาม
เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ารับ
“ก็ได้ครับ”
ที่โต๊ะกินข้าว ปิ่นมุกวางจานออมเลตนุ่มกับสลัดโรสแมรี และน้ำผึ้งมะนาวอุ่น ๆ ภควัตใช้ส้อมตัดคำแรก ความคุ้นเคยในรสชาติบ้าน ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในชีวิตของเขา เขาเงียบไปสักครู่ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
3
“อร่อย” คำเดียวสั้น ๆ ทำให้เธอเผยยิ้มกว้าง
“ดีใจที่ชอบค่ะ”
เขาเหลือบมองเธอ หญิงสาวในเชิ้ตสีขาวสะอาด ผมรวบหลวม ๆ ดวงตาสวยใสน่ามอง เธอไม่ถามว่าไปไหนมา ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่โทร. ตาม ไม่จับผิด ไม่เรียกร้อง ไม่โวยวาย มีแต่การกระทำเรียบง่ายที่ทำให้บ้าน ‘เป็นบ้าน’
“ผมจะกลับมาจัดเอกสารในห้องทำงาน แล้วคงออกไปอีก”
“ตามสบายเลยค่ะ ถ้าต้องการกาแฟบอกได้นะคะ มุกจะชงให้”
“ขอบใจ”
เขาลุกขึ้น แต่ก่อนจะก้าวพ้นธรณีประตู เขาหันกลับมาสบตาเธอชั่วครู่ เหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเปลี่ยนใจ เธอเพียงยิ้มรับเท่านั้น
เมื่อเสียงฝีเท้าเขาลับไป ปิ่นมุกหันกลับมาหยิบสมุดโน้ตจดเมนูสำหรับเย็นนี้ เธอเขียนรายการอย่างเป็นระเบียบเหมือนเดิม แล้ววาดรูปหัวใจเล็ก ๆ ข้างคำว่า “Beginning” โดยไม่รู้ตัว
ภควัตยืนพิงกรอบประตูห้องทำงาน เงี่ยหูฟังเสียงมีดกระทบเขียงเป็นจังหวะ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง แม่น้ำยังคงไหลเหมือนเดิม แต่บ้านหลังนี้ต่างไปจากวันที่เขาจากไป
ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ เหมือนยอมรับเรื่องจริงบางข้อ ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใครในความทรงจำของเขา และไม่เหมือนสิ่งที่เขาคิดไว้ตั้งแต่แรก
เขาก้มลงมองโทรศัพท์ซึ่งสว่างขึ้นด้วยข้อความใหม่
ศิตา: ว่างไหมคะ คิดถึง คืนนี้เจอกัน
ปลายนิ้วเขาหยุดค้าง ก่อนกดปุ่มล็อกหน้าจอ และวางมันคว่ำลงบนโต๊ะอย่างไม่ลังเล
นอกห้องครัว เสียงหัวเราะเบา ๆ ของป้าสายกับปิ่นมุกดังลอดออกมา ภควัตหลับตาเพียงครู่ แล้วเปิดลิ้นชัก หยิบแฟ้มงานออกมา แทนที่จะตอบกลับข้อความนั้น เขาเลือกตั้งต้นใหม่กับความเงียบ และกลิ่นออมเลตยามเช้าที่ติดอยู่ในความทรงจำอย่างประหลาด
และที่เรือนหอหลังเดิม การแต่งงานที่ “ไม่ปรารถนา” เริ่มเกิดขึ้น ช้า ๆ แต่อบอุ่น โดยมีเสียงช้อนกระทบจานและรอยยิ้มของเจ้าสาวคนสวย
เช้าวันใหม่ในเรือนหอเริ่มด้วยรายการเล็ก ๆ บนกระดาษโพสต์อิทสีครีมที่ปิ่นมุกติดไว้บนตู้เย็น
จัดครัว แบ่งโซนให้หยิบง่าย
สำรวจสวน ปลูกสมุนไพรเพิ่ม
วาดแบบ “Beginning” ต่อ
เธอจิบชาร้อน สูดกลิ่นไอน้ำเบา ๆ แล้วลงมือทำตามข้อหนึ่งทันที ขวดเครื่องเทศถูกเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ
“คุณมุกนี่จัดของเก่งจริง ๆ ค่ะ ห้องครัวดูโปรขึ้นทันตาเห็น”
“ของเยอะก็แค่จัดระบบค่ะ ป้าสายจะหยิบอะไรก็หยิบได้เลยนะคะ มุกติดป้ายไว้หมดแล้ว” เธอยิ้ม
หลังจากนั้นเธอไปยืนอยู่กลางแดดอุ่น ๆ ริมระเบียง มีกระถางเปล่าหลายใบตั้งอยู่ เธอพรวนดิน แล้วโรยเมล็ดผักสวนครัวลงไป ความสุขของเธอเรียบง่าย ความพอดีที่จัดด้วยมือของตัวเองทำให้บ้านขนาดใหญ่ไม่ดูว่างเปล่าอีกต่อไป
ป้าสายเรียกคนมาซ่อมฝักบัวที่สวน ลุงบุญ เป็นช่างประจำของที่บ้าน
“สวัสดีครับคุณมุก ได้ยินว่าชอบปลูกต้นไม้”
“ค่ะ ลุงบุญช่วยดูตรงที่ปลูกให้หน่อยได้ไหมคะ มุกอยากทำสวนครัวเล็ก ๆ”
“สบายมาก เดี๋ยวลุงทำให้แบบยกแปลง น้ำระบายดีแน่นอน” ลุงบุญยิ้ม แววตาอบอุ่นเหมือนแดดยามเช้า
