สายลับยั่วรัก

51.0K · ยังไม่จบ
นักเขียนอิสระ ภูผาสีน้ำเงิน
14
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เปิดเรื่อง : 01/09/2566 อัพเดท : 01/09/2566 เมมเรื่องนี้เป็นเรื่องโปรด เพื่อติดตามได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ปิดเรื่อง : --/--/2566 คำนำ “Passion Spy - สายลับยั่วรัก” เพื่อหาหลักฐานจับแก๊งมาเฟียกลุ่มนี้ เธอจึงยอมลงทุนเป็นสาวบาร์ในผับของเขา แต่เธอไม่คิดเลยว่า … คนมีอำนาจเช่นเขา พยายามใช้ความรักซื้อหัวใจเธอ!!! “Passion Spy - สายลับยั่วรัก” สายลับสาว "สิรี" ถูกวานให้สืบคดีแก๊งมาเฟียแก๊งหนึ่ง จึงต้องปลอมตัวเป็นสาวบาร์ในผับที่มีชื่อเสียง เพื่อหาทางล้วงข้อมูล จับกุมหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผู้มีอิทธิพลในย่านนั้น เธอมั่นใจในความสวยของตัวเอง จึงสมัครเข้าไปทำงานที่นั่น หวังว่าจะหาทางเข้าใกล้และตีสนิท สืบคดีที่ได้รับมา แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้เธอต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในความชั่วร้ายของพวกแก๊งเหล่านั้น เธอก็ได้เห็นความจริงบางอย่าง หัวใจที่ห่อด้วยหีบเหล็กของเธอ ค่อยๆ ถูกหัวหน้าแก๊งมาเฟียปลดล็อคด้วยกุญแจไม่กี่ดอก ระหว่างความรู้สึกของตัวเอง กับหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด กำลังโจมตีเธออย่างหนัก เพียงเพราะความใกล้ชิดกับเขา อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน..... มาเฟียหนุ่มรูปงาม "วาคินทร์" ราวกับปีศาจสรรสร้างบรรจงปั้นมาโดยแท้ ลูกชายของผู้มีอิทธิพล มีอำนาจและบริวาร เปิดผับดังร้านใหญ่ในเมือง ฉากบังหน้าของการค้าขายเกือบทุกชนิด ภายใต้ผับดังของเขา มีผู้คนมากมายเข้าออกล้วนเป็นคนแปลกหน้า และเมื่อวันหนึ่ง…… พนักงานของเขาหมดสภาพ จึงประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ จนกระทั่งมีหญิงสาวคนหนึ่งเข้าตากรรมการ เขาจึงรับเข้ามา ... แม้ว่าสิรีจะสะกิดหัวใจเขาหลายครั้งก็เถอะ เขารู้ว่าต้องเผชิญกับคู่แข่งของเธออีกหลายคน เขาไม่ต้องการให้อำนาจ หรือเงินทองของเขาครอบครองเธอ เขาอยากครอบครองหัวใจเธอด้วยความรักของเขานี่แหละ!!! เป็นกำลังใจนักเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ภูผาสีน้ำเงิน

สายลับตำรวจมาเฟียเลือดร้อนเศรษฐีโรแมนติกดราม่ารักหวานๆ18+25+

บทนำ-หัวใจเร่าร้อน

บทจูบเร่าร้อน บดเบียดลงน้ำหนัก ดื่มด่ำรสชาติริมฝีปากหวานของ สิรี อย่างไม่ลดละ เรือนแขนแกร่งกอดรัดร่างหญิงสาว เนื้อตัวนุ่มนิ่มชวนกอดจนไม่อยากปล่อยให้หลุดกาย วาคินทร์ โหยหาเรือนกายสาวหลายเพลาแล้ว โอกาสงามเช่นนี้… เขามิยอมปล่อยให้หลุดมือไป

"อื้อ!!!" หญิงสาวพยายามตั้งสติสตังค์ตัวเองให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง แม้ว่าจะตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดมาเฟียหนุ่มรูปหล่อก็ตาม เธอรู้ว่า เขาผ่านผู้หญิงมามากมายเพียงไร แม้ว่ายามนี้เรือนปากเธอถูกเขากำลังครอบครองแนบแน่น บดเบียดรัดร่างเอาไว้ในอ้อมแขน ดึงดันร่างบางแนบกำแพงภายในห้องทำงานส่วนตัวของเขา ราวกับรอเวลานี้มานานแล้ว

"ผมต้องการคุณ!" วาคินทร์ละริมฝีปากหอบหิวกระหาย เขาอยากให้เธอยอมจำนนเป็นของเขา หลังจากผ่านอะไรด้วยกันมาสักระยะ และเขาแน่ใจแล้วว่า มีแต่เธอเท่านั้นที่ทำให้เขาหัวใจเต้นแรง ทุกๆ ครั้งจนมิอาจละสายตาไปได้

"..." สิรีตอบอะไรไม่ถูก หลบสายตาคู่งามเบื้องบน เพราะไม่อยากถูกสะกดให้ตกอยู่ในความต้องการลึกๆ ของเธอ มันกำลังร้องเรียกให้ตอบสนองฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าอีกใจกำลังขัดขืนว่า เธอแค่มา "ปฏิบัติหน้าที่" มิใช่ "ยอมทำตามที่เขาสั่ง"

"พีชญา… มองหน้าผมสิ!" เขาอยากให้เธอสานต่อความต้องการของเขา มันกำลังคุกกรุ่นเร่าร้อน อยากชักชวนให้เธอมาร่วมรักกับเขา ภายในห้องทำงานส่วนตัว ซึ่งมันถูกตกแต่งกลายเป็นห้องเพนเฮ้าท์สุดหรู โอ่อ่า บันดาลให้ตึกสูงระฟ้า สวยงามราวกับสรวงสวรรค์

สิรีแทบกำหมัดแน่นเอาไว้แนบกาย มือกำลังสั่นมากเพียงใด ในขณะยืนหลังติดกำแพง เก็บกลั้นความต้องการส่วนตัว เพื่อเตือนตัวเองตลอดเวลาว่า เธอคือ พนักงานสาวในผับของเขา ชื่อ พีชญา มิใช่ เจ้าหน้าที่สายลับ สิรี… ริมฝีปากเธอชาบวมเจ่ออวบอิ่ม ไร้สีของลิปสติก เพราะนาคินทร์ดื่มด่ำหนักหน่วง ปรากฏรอยริมฝีปากสีธรรมชาติชมพูซีด ท่าทางเขาพึงพอใจเพิ่มยิ่งนัก

หญิงสาวรวบรวมความกล้าที่จะค่อยๆ ขยับเรือนหน้าขาวนวล ชวนมองดวงตาเป็นประกาย มันกำลังสั่นเครือแวววาว ยามจ้องมองกลับมายังนาคินทร์กำลังสบตาเธอยามนี้ ดวงตาคู่กลมสีนิลดำ ราวกับรัตติกาลของสิรี กำลังจ้องมองขึ้นไปสบกับแววตาสีน้ำเงินเป็นประกายตอบรับ รอยยิ้มหวานของวาคินทร์ปรากฏอย่างพึงพอใจ

"พร้อมพลีกายเพื่อผมได้รึยัง?" ชายหนุ่มยิ้มหวาน กล่าวเชิงขอร้องอ้อนวอนพร้อมจู่โจมเธอได้ตลอดเวลา และยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีหญิงสาวใดทนต่อความหล่อมีเสน่ห์ของเขาได้นานเท่าเธออีกแล้ว เขาอยากให้เธอยอมแพ้ กลายเป็นหญิงสาวข้างตัวเขา แทนที่จะเป็นแค่พนักงานในผับ หรือแม้กระทั่งคนติดตามใกล้ชิดในเวลานี้

สิรีรู้สึกถึงหัวใจหล่นวูบ ตัวชา แววตาตื่นตระหนก มือเธอกำหมัดแน่นเข้าไปอีก ไม่อยากพลาดโอกาสเข้าใกล้เพื่อสืบเก็บข้อมูลแก๊งของเขา ในขณะเดียวกัน เธอไม่อยากหลวมตัวใกล้ชิดเขามากกว่านี้ แค่เผลอถูกเขากอดรัดจูบบดเบียดขนาดนี้ ท่าทางจะไม่ลดละจนกว่าจะเสร็จสมอารมณ์หมาย สิรีพยายามต้องใจแข็งเข้าไว้

"ฉันเป็นเลขาส่วนตัว เป็นผู้ติดตามอยู่แล้วนิคะ เจ้านาย! …" สิรีไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เธอไม่อยากปากแจ๋วหรือท้าทาย เพราะมันจะดูผิดธรรมชาติสตรีทั่วไป แม้ว่าปกติแล้วเธอจะเป็นสาวห้าว เข้มแข็ง ไม่เคยอ่อนแอกับเรื่องทำนองนี้ เพราะไม่เคยต้องการให้มันเกิดขึ้น

เพียงแค่สถานการณ์ดำเนินมาให้เธอมาบรรรจงถึงจุดนี้ วาคินทร์อัพสถานะจากพนักงานต้อนรับของเธอ กลายเป็นสาวบาร์ชงเหล้าให้เขา จนกระทั่งเธอทำงานให้เขาพึงพอใจมาก เขาจึงเลื่อนตำแหน่งให้พีชญากลายเป็นเลขาส่วนตัว ให้เธอมีโอกาสอยู่ข้างตัววาคินทร์ได้มากยิ่งขึ้น

วาคินทร์รับรู้ได้ว่า เธอคงกลัวและไม่กล้าปล่อยตัวมากกว่านี้ นอกเสียจากเขาได้แค่กอดจูบเธอเอาไว้ ชอบใจยิ่งนักเมื่อพีชญาอยู่ในอ้อมแขน เขาหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว วาคินทร์อยากให้เธอเปิดใจเป็นกันเองกับเขามากกว่านี้ เห็นได้ชัดว่า เธอขัดขืนเขาอยู่ แม้กระทั่งจูบเมื่อสักครู่ เธอไม่ยอมเผยอปากเปิด

"ถ้างั้น เราลองมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันอีกครั้ง" วาคินทร์ตั้งใจรุกเธอซ้ำ เพื่อว่าจะยอมเป็นของเขาเสียที หลังจากพยายามใกล้ชิดเธอหลายครั้ง จนมีโอกาสมาถึงตอนนี้แล้ว พีชญายังบ่ายเบี่ยงขัดขืนเขา ไม่ยอมถ่างขาให้เขาเสียที

"ไม่นะคะ!!! เจ้านาย อย่าเลยค่ะ!!!" สิรีไม่อยากให้อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว ทำเสียหน้าที่จนเกินเลย ยิ่งไปกว่านั้น อินฟราเรดจุดสีแดง กำลังเคลื่อนที่เข้าไปยังดวงตาของพีชญา ระหว่างหลบร่างใหญ่ที่สูงกว่า วาคินทร์กำลังพยายามดันร่างของเธอเข้ากับกำแพง แต่หันหลังให้กับบานกระจกหน้าต่าง ไม่ได้ปิดม่าน…

สิรีรู้ถึงภัยอันตรายกำลังจะมาปลิดชีพวาคินทร์อีกแล้ว เธอจึงออกเรี่ยวแรงทั้งหมดผลักเขาให้ล้มลงนอน เพื่อการมาอย่างเร็วสูงของกระสุนเจาะกระจกกันกระสุน มันถูกยิงเข้ามาทันที เมื่อสิรีผลักเขาล้มลงด้วยพละกำลังมากมาย เสียงกระสุนรั่วกระหน่ำเข้ามาภายในห้องส่วนตัวของวาคินทร์ ข้าวของปลิวว่อนกระจาย แจกันแตก ทั้งเบาะและผนังกลายเป็นรูกระสุนพรุนหลายจุด

"คุณรู้ได้ไงว่า มีคนแอบลอบฆ่าผม!!!" วาคินทรส์เริ่มสงสัยแล้วว่าเลขาส่วนตัวของเขาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้อีกครั้ง เขาเป็นหนี้เธอ

"ฉันไม่รู้!!! ฉันแค่ลื่นหกล้ม!!!" ราวกับแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่า เป็นเจ้าหน้าที่สายลับ ปลอมตัวมาตีสนิทเขา แค่ต้องการรื้อข้อมูลเอามาเป็นหลักฐาน เอาผิดคดีมากมายของ ผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะพ่อของเขาได้ทำเอาไว้ และนำเอกสารหลักฐานทั้งหมด มาซ่อนไว้ในห้องทำงานของลูกชาย

ความเงียบเข้ามาหลังจากห่ากระสุนเงียบลง วาคินทร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง แต่กระนั้นก็ยังหาที่กำบังหลบอยู่ ไม่แน่ใจว่าหยุดยิง หรือรีโหลดกระสุนต่อ นี่ตึกสูงระฟ้าห้าสิบชั้น ยังมีคนพยายามลอบฆ่าเขา โดยใช้กระสุนเจาะกระจกกันกระสุนได้อีก

"มาหลบข้างผมตรงนี้" วาคินทร์ไม่ยอมปล่อยให้พีชญาตายหรอก เขารู้สึกหวงแหนเธอ และต้องการปกป้องเธอมากกว่านี้

สิรีรู้สึกหน่ายกับบทพระเอกปกป้องหญิงสาวจริงๆ ทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่ เธอพึ่งจะช่วยชีวิตวาคินทร์ จากอริของพ่อเขา เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์กันอยู่ เธอไม่ต้องการให้เขาตาย และต้องการกันเขาให้เป็นพยาน เพื่อเอาผิดกับคนทำผิดกฏหมาย ซึ่งเป็นพ่อของวาคินทร์ และคู่อริพ่อเขาด้วย…

หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดของวาคินทร์อีกครั้ง เมื่อเสียงห่ากระสุนรั่วเข้ามาในห้องทำงาน จากนั้นได้เงียบลงอีกระรอกสอง พวกเขาค่อยๆ มองออกไปรอบๆ โดยไม่ส่งเสียง ทันใดนั้นเองที่เหล่าบรรดาลูกน้องของวาคินทร์พังประตูเข้ามา หวังเข้ามาช่วยชีวิตเจ้านาาย เพราะนึกว่าพีชญาลอบฆ่าเขา……

ลูกน้องหลายๆ คน เห็นวาคินทร์กอดร่างของพีชญาเอาไว้แน่น และสายตาหลายคู่มองไปที่กระจกบานใหญ่ กลายเป็นรูตามรูปกระสุนถูกยิงจากภายนอก นักฆ่าแอบหนีไปแล้ว…

"เจ้านาย! บาดเจ็บรึเปล่าครับ?!" ลูกน้องคนนึงถามเขาด้วยความเห็นห่วง ขณะเห็นแขนทั้งสองของเจ้านายกอดร่างของพีชญาเอาไว้แน่น

"พวกแกอย่าชักช้า รีบไปจัดการไอ้คนลอบยิงที เอาตัวมันมาลงโทษให้ได้!!!" วาคินทร์ออกแรงขู่คำรามโกรธ เขาจะไม่ยอมให้อภัยไอ้หน้าไหน ที่เข้ามาขัดจังหวะดีๆ ของเขากับพีชญา

สิรีรู้อึดอัดเมื่อถูกเขากอดรัดตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็ควรปล่อยเธอได้แล้ว เมื่อสักครู่เธอตื่นเต้นหน้าร้อนผ่าวแทบใจละลาย แต่ยามนี้ เธอดันตื่นตัวอยากจะออกไปไฝว้จับผู้ร้ายซะมากกว่า เธอไม่ได้โกรธนักลอบฆ่าที่เข้ามาขัดจังหวะกับวาคินทร์ อยากขอบคุณเสียด้วยซ้ำ ที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้ มิให้ถูกเขาจู่โจมพยายามล่วงล้ำเรือนร่างเธออีก…

******