บท
ตั้งค่า

5.2 กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลัก

เมื่อคืนเฟยเมี่ยวกินมื้อเย็นและนอนในศาลบรรพชนนั่นล่ะ ตอนแรกเกือบจะไม่ได้กินมื้อเย็นแล้ว ดีที่บ่าวของท่านป้าสะใภ้ใหญ่นำมาให้ช่วงดึก นางเลยพอมีรองท้องบ้าง

“ลาก่อนเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านป้าสะใภ้มาก ไว้หลานมีโอกาสจะมาเยี่ยมนะเจ้าคะ”

ป้าซูเม่ยยิ้มส่งนางขึ้นรถม้าของวังหลวงมา แม้ทั้งลุงและป้าสะใภ้จะไม่ได้แสดงออกถึงท่าทีขับไล่นางเท่าท่านย่า แต่ก็ไม่น่าจะยินดีหรอก ดูจากอาหารที่นางได้เมื่อวานก็ช่วยเพียงรองท้องคลายหิวเท่านั้น มิได้ทำให้อิ่ม

นางคิดไม่ผิดที่หาข้ออ้างเพื่อไม่พักที่นี่ รถม้าขับไปส่ง

เฟยเมี่ยวที่จวนตระกูลซุนสายรอง อันคือจวนที่บิดาและมารดาของร่างนี้ซื้อไว้ก่อนจากเมืองหลวงไปกับพี่ชายและน้องชาย ทิ้งเฟยเมี่ยวไว้กับฮองเฮา

ในจวนแห่งนี้ก็เงียบสงบดี ไม่มีเหล่าบรรดาเจ้านาย มีเพียงบ่าวไพร่อันมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดจวนเท่านั้น อำนาจสูงสุดก็เป็นท่านพ่อบ้านฉิงนั่นล่ะ ด้วยความที่เฟยเมี่ยวไม่ได้บอกคนที่นี่ก่อนว่าจะมาจึงไม่มีใครทำความสะอาดห้องของเฟยเมี่ยวไว้

นางเดินเข้าจวนมาก็ตรงเข้าไปห้องนอนเลย บ่าวอย่างมู่กวาที่ตามมาด้วยจากวังหลวงนางก็ให้ไปพักผ่อนแล้วเช่นกัน

“คุณหนูรองต้องการอันใดเพิ่มไหมเจ้าคะ”

“ไม่หรอก ข้ามาอาศัยอยู่เท่านั้นหากจะกินหรือต้องการอันใดจะให้พี่มู่ไปบอก ไม่ต้องมาถามอันใด”

บ่าวของจวนตระกูลซุนเอ่ยถามก่อนที่เฟยเมี่ยวจะปิดประตูห้องไป อย่างไรนางก็เพียงกลับมาเก็บของและจะออกไปข้างนอกทันทีอยู่แล้วจึงไม่ต้องการคนมายุ่งในเขตของห้องตนเท่าใดนัก

ณ โรงน้ำชาซูฮวา สถานที่ที่นางนัดเจ้าของงานไว้ ห้องส่วนตัวถูกจองไว้โดยฮูหยินขุนนางเจ้าของงาน เฟยเมี่ยวในชุดบุรุษในนามแฝงว่า มี่เฟิง เดินเข้าห้องไป ฮูหยินท่านนั้นก็รออยู่ก่อนแล้ว

ฮูหยินเจ้าของงานนี้น่าจะอายุประมาณสามสิบกว่าเห็นจะได้ สีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และคงไม่สบายใจอย่างมากตลอดหลายวันมานี้แน่ เพราะเกิดร่องจาง ๆ ที่หว่างคิ้ว ดูท่าแล้วฮูหยินผู้นี้คงกังวลเรื่องที่สามีหายไปจริง แปลกใจที่ไยไม่ไปแจ้งกับทางการแต่มาจ้างคนอื่นสืบหาแทนนั่นล่ะ เฟยเมี่ยวคิดว่านางคงมีความกังวลอื่นมากกว่าจนไม่อาจเปิดเผยต่อคนของทางการได้ นางคงจะได้รู้ในวันนี้กระมัง

“ท่านคือคนรับงานนี้หรือ ?”

“ขอรับ เรียกข้าว่ามี่เฟิงได้เลยขอรับ ฮูหยินหลี่”

พอฮูหยินหลี่เห็นเฟยเมี่ยวก็ดูเหมือนอยากเปลี่ยนคนรับงานเป็นคนอื่นทันใดเลย คงเพราะนางดูอ่อนเยาว์ กลัวทำงานให้ไม่ได้ แต่เฟยเมี่ยวไม่สนใจท่าทีเหยียดหยามของคนตรงหน้า นางสนใจเพียงทำงานเท่านั้น

“ก่อนหายตัวไปฮูหยินหลี่ช่วยเล่าคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านหลี่ทำให้ฟังหน่อยได้ไหมขอรับ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาดูทำผิดไปจากวันอื่น ๆ”

ท่าทีอึกอักเหมือนคนไม่อยากเล่าของฮูหยินหลี่นั้นเฟยเมี่ยวแก้ด้วยการนั่งคอยนิ่ง ๆ แต่ดวงตาจ้องมองเจ้าของงานอย่างกดดันแทน นางคิดว่าสตรีผู้นี้แม้ไม่อยากให้นางทำงานให้ แต่ก็ไม่น่ามีทางเลือกอื่นแล้วหรอก ในที่สุดก็ต้องยอมเปิดปากอยู่ดี

“นายท่านก็ออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ทุกวัน กลับมาก็ดึกดื่นโดยเฉพาะช่วงเดือนนี้ มีบางวันที่เขาไม่กลับในตอนกลางคืนแต่อย่างไรวันรุ่งขึ้นก็กลับมาอยู่ดี อีกทั้งหลายวันมานี้นายท่านก็ใช้เงินเยอะขึ้นด้วย”

“ฮูหยินเคยคุยกับเขาเรื่องนี้หรือไม่ขอรับ”

“เคยในช่วงแรก ๆ แต่เขาก็มักจะโมโหกลับมา พร้อมเอ่ย บอกว่าเขาทำงานหนักเครียดเพราะพวกข้าอยู่แล้ว อันใดทำนองนั้นน่ะ”

สีหน้าของฮูหยินหลี่บ่งบอกได้ว่ามีบางอย่างที่นางยังเล่าไม่หมด อีกทั้งสังเกตจากชุดและกริยาการเดิน นั่ง ของสตรีผู้นี้แล้ว นางดูเป็นคนขี้กลัว หรือไม่มีความไม่มั่นใจในตนเองบางอย่างอยู่แล้ว ทั้งที่เป็นฮูหยินเอกแต่กลับดูหวาดกลัวไม่ภาคภูมิอย่างที่ควรเป็น ดังนั้นเฟยเมี่ยวจึงสันนิฐานว่าสถานะของฮูหยินหลี่ในจวนต้องไม่ใช้ผู้มีอำนาจมากเท่าไหร่นักแน่ อาจมีอนุอื่นหรือไม่ก็แม่สามีคอยกดข่มไว้...

แต่ข้อมูลจวนตระกูลหลี่ที่นางได้รับมาจากโรงสุราท้ายตรอกคร่าว ๆนั้นบอกไว้ว่าในจวนมีภรรยาคนเดียว เพราะฉะนั้นต้องเป็นผลมาจากแม่สามีนั่นล่ะ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ฮูหยินหลี่ไม่อยากไปแจ้งทางการเรื่องสามีหายไปก็เป็นได้

“อย่างนั้นเพื่อให้สืบเรื่องต่อได้ข้าต้องรบกวนฮูหยินหลี่ช่วยนำบัญชีรายการใช้จ่ายเงินของสามีท่านมาให้ข้าหน่อยแล้ว”

อาจเพราะร้อนใจฮูหยินหลี่จึงรีบนำใบรายการใช้จ่ายของสามีมาให้เฟยเมี่ยวทันทีในวันต่อมา พวกนางนัดกันที่เดิม

นางไล่สายตาตรวจดูรายการร้านที่ท่านหลี่ใช้จ่ายไปชั่วครู่ก็เงยหน้าถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ช่วงนี้ฮูหยินมีไปออกงานบ่อยเลยหรือขอรับ”

เพราะในรายจ่ายนั้นมีบันทึกไว้ว่าใช้จ่ายซื้อชุดที่ร้านชุดสตรีสำหรับชนชั้นสูงด้วย หากเป็นเพียงขุนนางขั้นต่ำคนหนึ่งแล้วอีกทั้งดูจากการแต่งตัวของฮูหยินหลี่ไม่น่าสวมชุดจากร้านนั้นในชีวิตประจำวัน ต้องสวมออกงานทางการหรือใหญ่เท่านั้น

“ไม่เลย หากเจ้าสงสัยว่านายท่านจะซื้อชุดให้สตรีอื่นนั้น ข้าเคยได้คำตอบแล้วว่าเขามักซื้อชุดไปเป็นของกำนัลให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานด้วยน่ะ เจ้าคงเห็นว่าเขามิได้ไปรับชุดด้วยตนเองแต่ให้ทางร้านส่งให้ทั้งหมด”

“ขอรับ อย่างนั้นข้าน้อยขอยืมใบสั่งชุดนี้ก่อนนะขอรับ”

เฟยเมี่ยวดูใบรายการนั้นต่ออีกหน่อยก็แยกย้ายกับฮูหยินหลี่มา นางเดินทางไปยังร้านขายชุดสตรีที่เขียนไว้ในใบรายจ่ายเพื่อสอบถามสิ่งที่ตนข้องใจอยู่เล็กน้อย

นางถามแบบอ้อม ๆ เรื่องจุดหมายที่ชุดเหล่านั้นไปส่งก็ตัดสินใจว่าจะลองหาเบาะแสเพิ่มจากข้อสังเกตจุดนี้นั่นเอง

ปลายทางของชุดนี้ล้วนถูกส่งไปนอกเมืองหลวงยังเมืองซีเปียน ที่ประหลาดคือจุดหมายมิใช่จวนขุนนางอันใดแต่เป็นโรงเตี๊ยมในเมืองนั้นต่างหาก

ด้วยความที่เวลาที่เฟยเมี่ยวจะมีอิสระอยู่นอกวังหลวงนั้นน้อยลงทุกที นางจึงตัดสินใจออกนอกเมืองในวันนั้นเลย เฟยเมี่ยวอาศัยนามแฝงเป็นชาวยุทธภพนามมี่เฟิงออกทำงาน สวมชุดบุรุษสีขาวพิสุทธิ์เดินทางด้วยรถม้ารับจ้างมุ่งหน้าไปเมืองซีเปียนใช้เวลาราวสองวันก็เข้ามาในเมืองทันก่อนประตูปิดพอดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel