บท
ตั้งค่า

5 ค่ำคืนแรกหลังจากสามีของนางฟื้น (ต่อ)

ดีที่อารุ่ยที่ไม่รู้เดินมาตอนไหนเข้าไปผลักผู้บุกรุกหน้าหนาปลิวกระเด็นออกนอกบ้านไปเสียก่อน ส่วนจิ่วเม่ยก็วิ่งมาอยู่ระหว่างคนของนางเองและบุรุษที่มาบุกรุกแล้ว สีหน้านางน่ากลัวจนทำให้คนมาใหม่กระถดตัวถอยหลังและหุบปากไปทันทีเลย แต่พอตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นชี้หน้า

“เจ้าให้ไอ้บ้านี่มาทำร้ายคนอื่นได้ เป็นอย่างที่บิดาบอกไว้ไม่ผิดเลย ว่าสักวันไอ้บ้านี่ต้องทำร้ายคนตายได้ อย่างนี้ต้องให้ท่านหัวหน้าหมู่บ้านไล่มันออกไปเสีย!!!”

บุรุษผู้นี้คือบุตรชายคนโตของสกุลหวังบ้านข้างเคียงที่นับแต่เมื่อวานแทบไม่มีใครออกจากบ้านนั่นเอง มีนามว่า ต้าเจิง มีภรรยาแล้วหนึ่งคน เคยมาเกี้ยวพาจิ่วเม่ยก่อนแต่งสามีเช่นกัน แต่ถูกปฏิเสธไปจึงโกรธแค้นมาโดยตลอด เขาคงเพิ่งกลับมาจากเข้าไปหาของป่ากับภรรยากระมัง...

กลับมาถึงคงรู้เรื่องเมื่อวานจึงมาหาเรื่องจิ่วเม่ยในตอนนี้ หวังแก้แค้นในสกุลหวังของตนเป็นแน่!

“หยุดพูดจาโป้ปดได้แล้ว! เจ้าเรียกใครบ้า อีกทั้งเป็นเจ้าเองนั่นแหละที่จะมาทำร้ายลูกของข้า”

ปากนั่นเองที่ว่าสามีของนาง!

และมือข้างขวาอันนั้นนั่นเองที่ตั้งใจจะตบเมี่ยวเอ๋อร์ของนาง!

จิ่วเม่ยหยิบเมล็ดถั่วเหลืองและถั่วเขียวติดมือมาด้วยจึงใช้ของในมือให้เกิดประโยชน์ นางดีดเมล็ดถั่วเหลืองเข้าปะทะปากของคนปากมาก และดีดใส่หลังมือตรงจุดที่มีเส้นประสาทตื้นที่สุด ถูกแล้วขะเจ็บมากๆ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ทุกอย่างล้วนทำอย่างรวดเร็วภายในเวลาชั่วหนึ่งอึดใจ

“โอ๊ย!! ปากข้า อ้าก มือข้าไม่รู้สึกแล้ว ช่วยด้วยท่านแม่ ข้าไม่มีมือแล้ว อ้าก!!!”

สี่คนพ่อแม่ ลูกแฝดทั้งสองยืนส่งแขกจนลับสายตาไป เหตุการณ์นี้ไม่เหมือนว่าคนฝั่งนางลงไม้ลงมือใดนอกจากที่นาย

ต้าเจิงถูกเหวี่ยงออกมาจากเขตบ้านโดยอารุ่ยเท่านั้น คนข้างนอกที่มองมาเห็นเพียงว่า คนตระกูลหวังที่ให้ร้ายต่อจิ่วเม่ยมาหาเรื่องและถูกพระเจ้าลงโทษ แพ้ภัยตนเองและหนีไปเท่านั้น

“ท่านแม่สอนวิชาดีดให้ลูกด้วยซิขอรับ ลูกจะได้ใช้มันปกป้องทุกคนได้...”

หลินหมิงกระตุกชายเสื้อขอร้องจิ่วเม่ยยิกๆ แววตาเต็มไปด้วยความสรรเสริญบูชา จนนางอยากสอนทันที ติดแต่ที่มันไม่ใช่แค่ดีดก็ทำได้แต่มันต้องมีความรู้หลายด้าน ไม่ว่าจะเรื่องต้องจำ

อนาโตมี่ร่างกายมนุษย์ให้หมด ฝึกวิธีการใช้แรงให้ถูก และอื่นๆ อีกมากมาย

“เช่นนั้นเดี๋ยวแม่สอนวิธีป้องกันอย่างอื่นให้แล้วกัน เรากลับเข้าบ้านกันเถอะ ไปอาเมี่ยว สามี...”

ขอเพียงนางยังมีชีวิตอยู่ย่อมไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายคนในครอบครัวนางง่ายๆ หรอก

ดึกคืนแรกหลังจากที่สามีร่างสูงตื่นจากสลบ จิ่วเม่ยมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วสิ ในบ้านมีห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งนางให้ก้อนแป้งน้อยสองคนนอนกับบิดาของเขา ส่วนนางแยกมานอนห้องของบิดา มารดาที่ตายไปแล้วคนเดียว ไร้ปัญหาใด แต่พอคนตัวโตฟื้นมากลับงอแงบอกว่านอนไม่หลับหากไม่ได้นอนกับจิ่วเม่ยเสียอย่างนั้น

บัดนี้จึงกลายเป็นก้อนแป้งน้อยนอนห้องเดิมสองคนและ

อารุ่ยย้ายมานอนกับจิ่วเม่ยแทน

ตามจริงคนที่เป็นสามีภรรยากัน แต่งกันจนมีลูกแฝดออกมาแล้วนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะนอนเตียงเดียวกันเช่นตอนนี้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า นางไม่ใช่จิ่วเม่ยคนที่เป็นภรรยาของเขาน่ะสิ!

อันใดคือนอนใครนอนมันไม่พอ อารุ่ยยังวาดมือมากอดเอวจิ่วเม่ยแล้วดึงนางเข้าไปในความอุ่นคล้ายลูกแมวนอนในอ้อมอกอย่างนี้เล่า พอนางจะดันตัวออกก็ไม่สามารถชนะแรงมหาศาลของบุรุษหัวสมองเด็กได้!

จิ่วเม่ยชักไม่เห็นว่าการที่อารุ่ยแรงเยอะจะเป็นผลดีเสียแล้วสิ...

“คือ ข้าหายใจไม่ออก สามีช่วยออกห่างไปหน่อยได้หรือไม่?”

นางหายใจไม่ออกจริงๆ ไม่ใช่เพราะถูกรัดแน่นนะ แต่หัวใจนางเต้นเร็วรัวเพราะตื่นเต้นอย่างคนไม่เคยถูกบุรุษโอบกอดใกล้ชิดเยี่ยงนี้ต่างหาก!

เห็นนางอายุมากมาก่อนในชาติที่แล้ว แต่นางก็ขึ้นคานมาตลอดนะ จิ่วเม่ยรับงานออกปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับที ก็สนใจแต่งาน พอได้พักนางก็ขลุกอยู่แต่ที่คอนโดตน หาอะไรทำไปตัวคนเดียวจนเงยหน้ามาอีกทีนางก็ขึ้นคานทองจนไร้บันไดจะปีนลงแล้ว

“ข้าติดนอนบนของนุ่มนิ่ม และตัวภรรยาก็นิ่มเป็นที่สุด อีกทั้งหอมด้วย จุ้บ”

จิ่วเม่ยนิ่งแข็งไปแล้ว นางถูกกอดจากบุรุษที่เพิ่งเจอกันเพียงหนึ่งวันไม่พอ เมื่อครู่ เมื่อครู่เขายังจุมพิตมาที่หน้าผากของนางอีก ความเย็นของริมฝีปากที่สัมผัสมายังติดตรึงที่หน้าผากอยู่เลย

“...”

“ภรรยาจ๋า สามีหิวนมเสียแล้ว...”

นมที่ใดเคยมีให้กินด้วยหรือ?

“ไปกินน้ำแทนก่อนเถอะ เอ๊ะ”

อยู่ดีดีจิ่วเม่ยที่ถูกกอดอยู่ก็ถูกแรงมหาศาลจับตัวนางให้หันพลิกกลับมาประจันหน้ากับเขา อีกทั้งระยะห่างของเราทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้นด้วย

นางค่อยโล่งใจหน่อยที่เขาไม่ฆ่านางด้วยการกอดอีกแล้ว...

“ภรรยาจ๋า...”

คนอยู่บนคานทองมาโดยตลอดก็ต้องมีหลงใหลกับน้ำเสียงอ่อนหวานของชายหนุ่มรูปหล่อบ้าง นางตัวเกร็งแน่นเพราะไม่รู้ว่าเขาจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้นทำไม ต้องการอันใด จนกระทั่ง!

ใบหน้าคมเข้มโน้มลงไปที่บริเวณหน้าอกของจิ่วเม่ย พร้อมสองมือเขาที่จับต้นแขนสองข้างของนางแน่น

อย่าบอกนะว่าหิวนมที่ว่าของเขาคือ...

ไม่ต้องบอกก็รู้ได้แล้ว เพราะในขณะที่จิ่วเม่ยตกใจตัวแข็งค้างไปแล้วนั้น คนที่ดูชำนาญในเรื่องแบบนี้ก็ดำเนินต่อตามใจหวังจนกระทั้งริมฝีปากหนาแตะแผ่วเบาที่ยอดภูเขาข้างหนึ่ง เจ้าของยอดเขาสะดุ้งโดยพลัน แต่ก็ไม่ทำให้อารุ่ยหยุดลง เขาดำเนินต่อไปจนเกือบจะได้ดูดดึงนมอุ่นร้อนให้หายกระหายได้แล้ว

ทว่าไยอยู่ดีก็รู้สึกเจ็บอย่างแรงที่บริเวณท้องจนจุกเอ่ยพูดอันใดไม่ไหว...

ต่อมาเขาก็เหมือนกำลังได้ล่องลอยกลางอากาศ และตกลงสู่ความเจ็บปวดในเวลาต่อมา...

อารุ่ยรู้ตัวอีกทีเขาก็ย้ายจากนอนบนเตียงมาอยู่บนพื้นได้อย่างไรไม่รู้ตัวแล้ว...

เงยหน้าสบตาภรรยาจ๋าด้วยสายตางุนงงสงสัย แต่คนบนเตียงนั้นกลับมีใบหน้าแดงโมโหจนตัวสั่นไปหมด

“สามีทำอันใดผิดไปหรือ...? ภรรยาจ๋า”

เขาก็ทำอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน แต่ไฉนวันนี้ถึงโดนถีบตกเตียงได้

“นับแต่นี้ข้าจะนอนคนเดียว เจ้าไปนอนกับเด็กๆ เถอะ ส่วนจะหลับหรือไม่ก็เรื่องของเจ้าแล้ว!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel