บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

บทที่ 2

พี่จินของไอ้เจน 2

เจ้าของชื่อในประโยคเมื่อสักครู่เงียบเสียงลง แล้วกะพริบตาถี่ๆ เพื่อใช้สมองประมวลผลว่าตนเองไม่ได้หูฝาด ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินตรงที่ไประตูอย่างรวดเร็ว

ร่างสูงโปร่งบึกบึนของญาติผู้พี่ปรากฎแก่สายตาทันทีที่เธอเปิดประตูออกไป ทว่าในเวลานี้ใบหน้าคล้ำแดดของเขากลับดูสะลึมสะลือคล้ายคนพึ่งตื่นนอน แถมยังไม่ได้ใส่เครื่องแบบทหารเหมือนตอนไปอีกด้วย

"พี่จิน!!"

"อือ... เรียกเสียงดังเหมือนไม่เจอกันมาชาติกว่า กลัวลืมชื่อหรือไง" คนตัวโตบอกกลั้วหัวเราะ แล้วผลักศีรษะเล็กของคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนเอ่ยทวนคำถามเดิมอีกครั้งเพราะเขายังไม่ได้คำตอบ

"สรุป มีข้าวกินป่ะ"

"เห็นน้องเห็นนุ้งเป็นเซเว่นหรือไง ไม่เจอหน้ากันเกือบสองปีถามหาข้าวเนี่ยนะ" เจนนิษฐ์โวยวายอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน

"ก็หิว"

"แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่กินมาก่อนล่ะ"

"ง่วงนอนมากกว่า"

คำตอบสั้นๆ ของคู่สนทนาทำให้คนถามขี้คร้านจะต่อปากต่อคำด้วย เพราะเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่กลับบ้าน

"แล้วพี่จินกลับมาเมื่อไหร่"

"เมื่อคืน" ทหารหนุ่มตอบ ก่อนเดินตรงไปที่โซฟา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีใครบางคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว

"อ่อ... นั่นเพื่อนเจนเอง อย่ากัดเพื่อนเจนนะ" เจ้าของบ้านหันมาบอก ก่อนจะหายเข้าไปในครัวเพื่อหา 'ข้าว' ให้เขากิน

"พี่ไม่ใช่หมา" เขาแก้ แล้วหันไปส่งยิ้มทักทายแขกของญาติผู้น้องแทนคำพูด

"สวัสดีค่ะ... พี่จิน"

"ความจริงเราอายุเท่ากัน แต่เจนมันเรียกตามศักดิ์" จินเจษฎ์บอก แล้วส่งยิ้มให้คู่สนทนาอีกครั้ง เผื่อว่ามันจะช่วยลดบรรยากาศแปลกๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งคู่

"อ่อ... งั้นฉันเรียกคุณว่าคุณแล้วกันนะคะ เราคงไม่สนิทกันถึงขั้นเรียกชื่อเล่น" ร่างบางกล่าวอย่างถือตัว ทั้งที่ในใจเธอน่ะหรอ...

'โอ๊ยย...ย! ทำไมพี่ไอ้เจนมันหล่อเข้มกระชากใจแบบนี้วะ'

"ตามสบายเลยครับ ผมยังไงก็ได้"

"อ้าว...ว แล้วที่ท้วงเมื่อกี้ ไม่ใช่เพราะกลัวแก่หรอคะ" อันตาถามขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย แม้ว่าลึกๆ แล้วเธอจะแอบมีเจตนาอื่นแอบแฝงก็เถอะ

'ลองจีบพี่เพื่อนดูสักครั้ง มันจะผิดไหมวะ' นางแบบสาวแอบครุ่นคิดในใจ แล้วเหล่มองไปทางห้องครัวเป็นเชิงขออนุญาตคนในนั้น

"ไม่กลัวหรอกครับ เราอายุเท่ากัน ผมแก่ คุณก็แก่"

ร่างบางอ้าปากค้างไปชั่ววินาที เมื่อถูกคนตรงหน้าตอบกลับมาด้วยท่าทางยียวนกวนเบื้องล่าง แบบที่ไม่เคยมีใครกล้ายอกย้อนเธอมาก่อน

"แหม...ม ผู้หญิงเขาซีเรียสนะคุณ"

"งั้นผมซีเรียสบ้างดีกว่า" จินเจษฎ์ว่าพลางไว้ไหล่เล็กน้อย แล้วฉีกยิ้มทะเล้นส่งมาให้เธออีกหน

"กวนทีน" หญิงสาวบ่นขึ้นเบาๆ ทว่ามีหรือที่คนหูดีเช่นเขาจะไม่ได้ยิน

"คุณเริ่มก่อนนี่ครับ ผมก็แค่ช่วยสร้างสีสัน"

"นี่คุณ!"

คนที่ตั้งใจว่าจะลองจีบเขาในตอนแรกหันไปแหวใส่เสียงเขียว แล้วตัดสินใจพับแผนจีบคนตรงหน้าโยนทิ้งขยะไปทันควัน

ก็ดูสิดู... คนอะไรกวนประสาทที่สุด เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ใครคุยกับเขาได้เกินสิบประโยคนี่เธอซูฮกเลยจริงๆ

"ปกติแล้วผู้หญิงหน้าตาดีเขาขี้หงุดหงิดเหมือนกันทุกคนเลยป่ะ"

จู่ๆ คนที่เธอตัดสินใจว่าจะไม่คุยด้วยก็ดันตั้งคำถามขึ้นมาดื้อๆ และดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจเหน็บเธอในประโยค ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ระบุชื่อ แต่คนฟังก็มั่นใจว่า 'ผู้หญิงหน้าตาดี' ในประโยคต้องเป็นอันตาคนนี้อย่างแน่นอน

"ก็หงุดหงิดแค่เฉพาะกับคนที่กวนประสาทเท่านั้นแหละค่ะ" หญิงสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มอาบยาพิษ

"หว่า... ผมพูดลอยๆ ไม่คิดว่าจะมีคนตอบแหะ"

"ขอโทษนะคะ พอดีว่ามันลอยมาเข้าหูฉันไง ฉันก็เลยต้องตอบ"

"หรอครับ ผมคิดว่าที่คุณตอบเพราะมันมีคำว่า 'ผู้หญิงหน้าตาดี' อยู่ในประโยคซะอีก" คนยียวนบอกกลั้วหัวเราะ ก่อนที่เขาจะยักคิ้วล้อเลียนใส่เธออย่างเป็นต่อ

"ฉันมั่นใจว่าฉันสวยเกินกว่าจะใช้คำว่าหน้าตาดีเฉยๆ"

อันตาตีมึนชมตัวเองแบบโต้งๆ ทว่ามันกลับยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากคนฟังได้เป็นอย่างดี

"หัวเราะอะไรคะ ฉันพูดผิดตรงไหน" นางแบบสาวถาม

"ไม่ผิดครับ ผมรู้ว่าคุณสวย"

"ขอบคุณที่ชม"

"ผมไม่ได้ชม ผมแค่พูดความจริง" คนขี้แกล้งพูดแก้ให้อีกฝ่ายงง แล้วนั่งยิ้มหน้าระรื่นเมื่อเธอถามต่อ

"แล้วมันต่างกันตรงไหน"

"ไม่รู้สิ"

จินเจษฎ์ว่าพลางยักไหล่กวนๆ เพราะเวลาที่เห็นเธอโกรธจนเบิกตากว้าง แถมยังทำท่าทางฟึดฟัดแบบนั้นมันน่ารักซะ จนเขาไม่อยากละสายตาไปทางไหนเลย

"คุณ!"

"ครับ ?"

"เฮ้อ... ไม่มีอะไรค่ะ" ร่างบางบอก แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่อาจจะตกค้างมาจากเรื่องของเอกภพ เลยพาลให้เธอหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ

"ช่วยหยิบรีโมทให้ผมหน่อยได้ไหม"

"ค่ะ" อันตาตอบรับคำ แล้วส่งรีโมทที่อยู่ใกล้มือเธอไปให้เขา

"ขอบคุณครับ"

ทหารหนุ่มรับมันไปกดเปิดทีวี ก่อนจะเพิ่มเสียงขึ้นอีกนิดเพื่อฟังรายงานข่าวในช่วงหัวค่ำ ที่เธอไม่เคยคิดจะดู

'เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจได้เข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมยาบ้าจำนวนสองแสนเม็ดที่โกดังร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร โดยยาเสพติดทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเตรียมนำไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าคนกลาง ซึ่งทางตำรวจได้มีการวางแผนขยายผลการจับกุมต่อไป'

เจนนิษฐ์ที่พึ่งเดินออกมาจากครัวพร้อมกับชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองชามหยุดยืนอยู่หน้าทีวี ก่อนจะหันกลับมามองญาติผู้พี่ด้วยสายตาคาดคั้น

"งานนี้ทำให้พี่ไม่ได้กลับบ้านเกือบสองปีเลยหรอ"

"ไม่หรอก มันก็มีงานอื่นด้วย" ชายหนุ่มว่าพลางรับชามบะหมี่มาถือไว้ ก่อนที่เขาจะส่งมันให้หญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ใกล้ๆ

"ขอบคุณค่ะ"

"อ้าว...ว ยื่นให้ตามมารยาทเฉยๆ นะเนี่ย" ทหารหนุ่มแกล้งกวนประสาทเธออีกหน ทำให้ร่างบางต้องเหวี่ยงค้อนใส่เขาวงใหญ่

"พี่จิน อย่าแกล้งเพื่อนเจน"

"ไม่ได้แกล้งสักหน่อย" เขาแก้ตัว

"กวนมากๆ เดี๋ยวไอ้อันมันก็ได้กินหัวพี่จินแทนหรอก"

"ฉันไม่กินหัวพี่แกหรอกเจน... เดี๋ยวติดเชื้อพูดเข้าหูคนอื่นล่ะ แย่เลย" อันตาบอกและค่อยๆ ลดเสียงลงในตอนท้าย

"เมื่อกี้คุณว่าไงนะ"

"เปล่านี่คะ"

"ปากแข็งเดี๋ยวกินมาม่าไม่อร่อยหรอก"

"มันเกี่ยวกันตรงไหน" ร่างบางถาม เพราะยิ่งคุยกับเขา เธอก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้

ความพ่ายแพ้ที่ไม่รู้ว่าเขาพูดงง หรือเธอกันแน่ที่ฟังไม่เคลียร์

โอ๊ยย...ย ปวดสมอง!!

"ไม่รู้สิครับ"

นั่นไง... ก็เป็นซะอย่างเนี่ย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel