5.ความเจ็บแสบของความรู้สึก Ep2
ทางด้านดวงใจ สาวใช้ในบ้านของนายโกสินทร์ หลังจากได้รับแจ้งจากโรงแรมแห่งหนึ่งว่าพบศพของนายพงศธรได้เสียชีวิตอยู่ในห้องพักหมายเลข.. ก็ทำให้หล่อนรีบไปที่นั่นด้วยหัวใจที่ปวดร้าวกับสภาพศพของสามีที่เพิ่งจะจากหล่อนมาเมื่อวานเย็น
เขาบอกหล่อนว่า วันนี้วันหยุด เขาจะพาหล่อนกับลูกไปเที่ยว ไปหาอะไรทาน แต่หล่อนไม่นึกว่า เพียงแค่เขาออกมากับนริศฌา เขาจะไม่มีโอกาสได้กลับไปหาหล่อน
“นางสารเลว แกฆ่าผัวฉัน..”
ดวงใจกำมือแน่น เมื่อตรวจดูสภาพศพของผู้เป็นสามีด้วยใบหน้าที่อาบหยาดน้ำตา หล่อนรู้มานานแล้วถึงความสัมพันธ์ของพงศธรกับนริศฌา เพราะทุกครั้งที่พงศธรจะมารับใช้นิรศฌา เขาจะได้เงินจำนวนหนึ่งกลับไป
หล่อนพยายามบอกให้เขาเลิก แต่เขาบอกว่า เขาก็อยากจะเลิกแต่เพราะจำนวนเงินที่นริศฌามอบให้ จะทำให้เขามีเงินเป็นกอบเป็นกำเพื่ออนาคตจะได้ออกไปจากที่นั่น พ้นจากการเป็นทาสรับใช้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง
“ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่..”
ดวงใจสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนักก่อนจะจัดการกับศพของสามี เคียงข้างนายก้านผู้เป็นพ่อของพงศธรที่รู้สึกเสียใจมากกับการจากไปของลูกชาย เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพงศธรกับนริศฌา จึงทำให้เขาเสียใจมากเพราะคิดว่าลูกชายคนเดียวถูกลอบสังหาร
ในขณะที่ดวงใจบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และตอนนี้หล่อนขอเก็บศพสามีเอาไว้ก่อน ยังไม่เผาจนกว่าจะจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้
“ฉันเสียใจด้วยนะนายก้านกับการจากไปของพงศธร ฉันเองก็เสียใจที่ต้องเสียคนที่ไว้วางใจได้ไป..”
นายโกสินทร์ชายวัยเกือบหกสิบ เอ่ยออกมาเบา ๆ ห่างออกไปเป็นร่างของจุฑาดาที่นั่งอยู่ยังอาร์มแชร์อีกตัวหนึ่งใกล้นริศฌาที่นั่งหน้าซีดเผือดด้วยความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอก
“ฉันอยากจะรู้ว่าใครมันโหดร้ายขนาดนั้น..จิตใจของมันทำด้วยอะไร..”
นายโกสินทร์เอ่ยออกมาอีกครั้งคราวนี้ทำให้ดวงใจตวัดสายตาไปมองหน้านริศฌาทันที
“มันเป็นผู้หญิงค่ะนายท่าน..”
คำพูดของดวงใจทำให้นริศฌาตวัดสายตาไปมองหน้าหล่อนแทบทันที เช่นเดียวกับดวงใจที่จ้องมองใบหน้าของนริศฌาอย่างไม่ยอมลดละ
“ผู้หญิงที่ใช้เงินจ้างวานให้พงศธรร่วมหลับนอนด้วย..”
“ใคร!เธอรู้หรือว่ามันเป็นใคร..”
นายโกสินทร์เอ่ยถาม ทำให้ทุกคนหันมามองหน้าหล่อนแทบเป็นตาเดียว
“มันอยู่ในบ้านนี้ค่ะ..นางสารเลวนั่น มันอยู่ที่นี่..”
ดวงใจยกมือชี้หน้านริศฌา ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้ง เช่นเดียวนริศฌาที่หน้าเผือดซีด แต่เพียงครู่เดียว หล่อนก็ลุกพรวดขึ้นแล้วก้าวไปตบหน้าดวงใจอย่างหนัก
..เพี๊ยะ..
“แกนี่มันเลวชาติ ฉันหรือนึกสงสาร ตั้งใจจะมอบเงินช่วยทำศพ ช่วยเป็นค่าเลี้ยงดูลูกของแกที่ต้องกำพร้าพ่อ แต่แกกล้ามาชี้หน้าฉันกล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกร แกหาว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ร่าน กล้าทำเรื่องต่ำ ๆ ด้วยการว่าจ้างพงศธรไปนอนด้วยอย่างนั้นหรือ..”
ดวงใจกำมือแน่น
“แกมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาฉัน เสียทีที่คุณพ่ออุตส่าห์ชุบเลี้ยงแกมา แกเสียใจจนบ้า กล้าพูดจาใส่ร้ายฉัน..”
นริศฌาหันไปมองหน้านายโกสินทร์ก่อนจะหยุดที่คุณจุฑาดาผู้เป็นแม่
“พ่อคะ แม่คะ นริศไม่ยอมนะคะ หากจะเลี้ยงนางพิษตัวนี้ไว้ในบ้าน ไล่มันไปค่ะ ไล่มันไปทั้งพ่อผัวและลูกสะใภ้..”
“พ่อว่าใจเย็นก่อนดีไหม..”
“ถ้าคุณพ่อจะเลี้ยงนางงูพิษตัวนี้ ต้องเลือกระหว่างนริศกับมันค่ะ..”
“นริศ!!..”
จุฑาดาร้องเรียกลูกสาวคนเดียวของหล่อนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แล้วก็รีบกระตุกมือของหล่อนให้เดินกลับมาหา
“ใจเย็น ๆ สิลูก..”
ดวงใจก้มหน้าลงพลางสะอื้นไห้ ก่อนจะคลานเข้าไปหานายโกสินทร์แล้วก้มลงกราบแทบเท้าของเขา
“อิฉันขอโทษค่ะคุณท่าน อิฉันเสียใจมากจนไม่ทันได้ยั้งคิด..”
หล่อนหันมามองหน้านริศแล้วยกมือไหว้
“อิฉันขอโทษค่ะคุณหนู อิฉันสำนึกผิดแล้ว..”
จุฑาดารีบตบหลังมือของนริศฌาอย่างปลอบโยน
“ฉันไม่รับ ออกไปจากบ้านนี้ ไป..”
“ดวงใจก็ขอโทษแล้วไงลูก เดี๋ยวนี้คนรับใช้ที่ไว้ใจได้หาไม่ง่ายนะลูก..”
จุฑาดาปลอบโยนในขณะที่อุษณีหันไปมองหน้าดวงใจ
“ดวงใจกลับไปหาลูกที่ห้องพักเถอะจ้ะ..นายก้านก็ไปทำงานเถอะนะ..”
ทั้งนายก้านและดวงใจต่างออกไปจากที่นั่น แต่จุฑาดากลับจ้องหน้าอุษณีนิ่ง
“ฉันเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เธอมีสิทธิ์มาสั่งคนในบ้านได้..”
“ขอโทษค่ะคุณ อิฉันเพียงแค่สงสารดวงใจกับลูกค่ะ ให้เขาอยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะนะคะ ไว้รอให้อิฉันหาคนรับใช้มาแทนดวงใจกับนายก้านได้ เราค่อยให้เขาย้ายออก..”
“ผมก็คิดว่าดีเหมือนกันนะ ไล่เขาไปตอนนี้มันก็กระไรอยู่..”
นายโกสินทร์หันมาหานริศฌา
“ดวงใจมันกำลังเสียใจ หนูก็อย่าโกรธไปเลยนะลูกนะ พ่อขอล่ะ..”
นายโกสินทร์พูดจบก็ลุกเดินออกไปติดตามด้วยร่างของอุษณี
“ทำไมวู่วามแบบนี้ลูก หนูไม่ควรไปให้คุณพ่อเลือกระหว่างหนูกับอะไรทั้งนั้น เพราะหนูต้องอยู่ที่นี่ ไม่ควรจะลดตัวลงไปเปรียบเทียบกับมัน..”
นริศฌาก้มหน้านิ่ง
“ทำไมต้องโกรธแบบนี้ด้วย..”
“แม่ไม่ได้เป็นนริศนี่คะ จะรู้สึกอะไร จู่ ๆ ขี้ข้าในบ้านลุกมาชี้หน้าหาว่าเป็นคนร้าย..”
“นางดวงใจมันก็ทำเกินไปจริง ๆ..”
หล่อนผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจะสืบหาคนร้ายเถอะ..แม่ว่าตอนนี้..”
จุฑาดาหันมายิ้มกับนริศฌาที่ยังนั่งนิ่งด้วยหัวใจที่กระสับกระส่าย เพราะหวาดกลัวว่า จะมีร่องรอยอะไรให้ตำรวจสาวมาหาหล่อนได้
“แม่ว่า เราเอาสินสอดที่ได้จากนายหัวหนุ่มหน้าโง่นั่น ไปแปลงเป็นเงินดีกว่าไหมลูก..”
นริศฌาค่อย ๆ หันมาหาผู้เป็นแม่
“ทั้งทองคำแท่ง ทั้งเครื่องเพชร คงได้มากโขเลยนะลูก..”
“แล้วเงินสดล่ะคะ..”
“ได้มาเป็นเช็ค แม่จะเอาเข้าในส่วนเงินกองกลาง..”
“ทำไมล่ะคะ..”
“มันเป็นควรเป็นนริศนะคะ..”
“แต่เราก็ต้องพยุงกิจการของครอบครัวไว้บ้างนะลูก ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ เราต้องช่วยกันก่อน..”
“นริศไม่สน ธุรกิจเป็นของคุณพ่อนี่คะ ไม่เกี่ยวกับนริศสักหน่อย..”
“แต่ถ้าคุณพ่อไม่ยอม เราหรือจะทำได้..”
คำพูดของจุฑาดาทำให้นริศฌากำมือแน่นด้วยความแค้นเคืองเมื่อนึกถึงความสวยงามแล้วอ่อนโยนของรักษ์สิยา เด็กสาวที่หวานละไมคนนั้น เธอเป็นที่รักของผู้เป็นพ่อ
“นางลูกคนชั้นต่ำทำไมคุณพ่อต้องรักมันด้วย..”
คำพูดนี้ทำให้จุฑาดาต้องเม้มปากแน่น
