อาหารมื้อแรก
เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้
เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึง
จูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง
"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"
ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง
"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"
จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที แถมยังสะบัดหน้าใส่เดินไปหลังบ้านซักชุดตนเองมาตาก เซียวจ้านเป่ยเดินตามไปที่ลำธารก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม
"เหตุใดต้องทำเช่นนี้ ลู่เหลียนเป็นเด็กดีอ่อนหวาน ไม่ใช่สตรีกร้านโลกอย่างเจ้าซักผ้าเสร็จแล้วไปขอโทษนางซะ อาหารที่นางนำมาไม่มีส่วนของเจ้า อยากกินก็ทำเอง เจ้าเพิ่งจะบอกว่าไม่อยากรบกวนนางงั้นก็อย่ากิน"
จูเหมยลี่ไม่ตอบซักเสื้อเสร็จก็ลุกขึ้นสะบัดแรงๆ จนน้ำกระเซนโดนใบหน้าเขา สะบัดแรงไปหน่อยเสื้อเลยขาดเป็นรู ไม่สนใจเขาถอนหายใจนั่งลงบนก้อนหินบ่นงุ้งงิ้งคนเดียว
"เปื่อยขนาดนี้ใส่กี่ปีแล้ววะเนี่ย ยายป้ามหาภัยนี่เลวขั้นเทพเลย รอให้แม่ฟื้นกำลังได้ก่อนนะ ทั้งผัวทั้งเมียแม่จะเตะเรียงตัวเลยพับผ่าสิโอ๊ยย"
จูเหมยลี่ถูกเซียวจ้านเป่ยกระชากขึ้นมาเผชิญหน้า
"หูตึงหรือไง ข้าพูดให้เจ้าฟังยังทำไม่ได้ยิน อยากโดนตีก้นอีกหรือเด็กดื้อด้าน"
อกแกร่งกระเพื่อม ไม่เคยมีใครทำให้เขาโกรธได้ขนาดนี้มาก่อนเด็กคนนี้ช่างกล้านัก
"นี่ลุง แม่น้องนางนั่นดีขนาดนั้นแทบจะถวายตัวให้อยู่แล้วทำไมเจ้าไม่แต่งกับนางแต่มาแต่งข้า ทำไมพี่ชายนางเรียกสินสอดแพงไปไม่มีปัญญาหรือ ให้ข้าขอโทษนางรอตะวันขึ้นทิศตะวันตกก่อนเหอะ ปล่อยข้าได้แล้วข้าจะไปหาอาหาร ข้าวบ้านลุงมันกินไม่ได้นี่เชิญกินให้ติดคอตายไปคนเดียวเถอะ"
จูเหมยลี่กระชากแขนกลับมา ข่มเหงรังแกฉันเหรอไม่รู้ไงพ่อเจ๊เป็นมาเฟียนะย่ะ ร้านอาหารร้านเสื้อผ้าบังหน้าย่ะ ฉันนี่เจ้าของบ่อนนะไม่โหดจะอยู่ได้หรือ
แต่ต้องมาตายเพราะปืนปากกาเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น บุตรสาวขาใหญ่ถูกปืนปากกาเด็กนักเรียนยิงตาย ทุเรศเกิน จูเหมยลี่ตากเสื้อก่อนจะเดินไปยังเชิงเขาติดกับกระท่อม
"เหอะ ง้อที่ไหนไม่กินของนายก็ได้ ตาแก่บ้า"
กำลังหาว่ามีอะไรกินได้เซียวลี่ผิงก็วิ่งมาหาในมือมีซาลาเปาก้อนนึงมาให้
"ท่านแม่กินสิเจ้าคะ ผิงผิงอิ่มแล้ว ท่านแม่พาข้านอนกลางวันแล้วตื่นมาข้าจะเจอท่านอีกไหม ท่านจะไม่หนีไปเหมือนท่านแม่ของข้าใช่ไหมเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงน้ำตาคลอ เซียวจ้านเป่ยที่เดินตามบุตรสาวมาก็ยืนนิ่ง นางฝังใจเรื่องที่ถูกทิ้งสองเดือนข้างหน้าเขาต้องทิ้งนางไปเป็นทหาร หากผู้หญิงคนนี้หนีไปอีกบุตรสาวของเขาจะทำเช่นไร
"ไม่หนีหรอก ผิงผิงของแม่น่ารักขนาดนี่จะหนีได้อย่างไร อืมซาลาเปาแข็งเกินไป นี่คืออาหารที่พี่ลู่เหลียนทำมาให้หรือ"
เซียวผิงผิงพยักหน้า
จูเหมยลี่แปลกใจตั้งแต่ฟื้นขึ้นจมูกกับสายตาดีผิดปกติ นางได้กลิ่นหอมของบัวหิมะมาแต่ไกล จึงอุ้มเซียวลี่ผิงมาคว้ามีดในบ้านก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเดินไปชายน้ำริมลำธารอีกด้านไกลจากบ้านห้าจั้ง
"หืม บัวหิมะนี่ผิงผิงอยู่นี่นะแม่จะขุดของอร่อยให้กิน ซาลาเปานั่นแม่กินไม่ไหวจริงๆ เอาไว้เขวี้ยงหัวหมาพอได้"
"คิกๆๆๆท่านแม่ตลกเจ้าค่ะ"
เซียวจ้านเป่ยอยากรู้ว่านางจะทำอะไรจึงยืนดูอยู่ห่างๆ จูเหมยลี่ค่อยๆขุดต้นบัวหิมาทีละกอไม่นานก็ได้บัวหิมะสิบกว่าหัว
จากนั้นก็นำมาล้างโคลนออกจนสะอาด ปอกเปลือกจนเห็นเนื้อสีเหลืองข้างใน ก่อนจะหั่นชิ้นเล็กๆนั่งกินกับเด็กน้อยอย่างอร่อย
"ผิงผิง ลูกกินของส่งเดชไม่ได้นะคายทิ้งไปเดี๋ยวนี้"
เซียวจ้านเป่ยไม่เคยเห็นใครกินของเหล่านี้ นางกล้าดีอย่างไรมาให้บุตรสาวของเขากินมัน ก่อนจะใช้เท้าเตะสิ่งที่ที่จูเหมยลี่ขุดมาได้อย่างลำบากลงน้ำหมดเลย
"ไม่ไหวแล้วโว๊ย แม่งเอ๊ยขอสักทีเหอะ"
จากนั้นจูเหมยลี่ก็ยกเท้าเตะเข้าที่สีข้างเซียวจ้านเป่ยทันทีสองครั้ง เขาไม่ตั้งตัวเด็กบ้านนี้เตะแรงจริงๆ เซียวลี่ผิงร้องไห้จ้าเซียวจ้านเป่ยก้มลงจะอุ้มลูกสาวนางก็ไม่เอาชักดิ้นชักงอ จนจูเหมยลี่มาอุ้มถึงยอมเงียบแล้วกอดคอมารดาไม่สนใจพ่ออย่างเขาสักนิด
"ฮือๆๆ ท่านแม่ลงน้ำหมดเลย ข้าอยากกินอีกหวานอร่อยมากข้าไม่เคยกินเลยฮือๆๆๆๆ"
น้ำตานองหน้าสะอื้นจนน่าสงสาร จูเหมยลี่เคยถูกแม่ทิ้งมาแต่งงานใหม่มาก่อนนางเข้าใจความหว้าเหว่เช่นนี้ดี
"ไปกันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ขุดให้ใหม่ ไปนอนก่อนแม่จะทำความสะอาดบ้าน ดุสิเนื้อตัวแดงหมดแล้วบ้านสกปรกเกินไป"
