บท
ตั้งค่า

1 ขิงก็รา ข่าก็จะเอาคืน 3

รอไม่นานนักหญิงสาวก็เดินลงมาอย่างว่องไวผิดกับใบหน้าที่จืดจนดูเหมือนจะเป็นคนต้วมเตี้ยม เมื่อมองเต็มตาแล้วน่านฟ้าก็ถอนหายใจ ในคลองจักษุนั้นเห็นผมยุ่งของหล่อนถูกมัดใหม่ให้ดีขึ้นนิดเดียว ส่วนชุดก็แค่เปลี่ยน แค่เปลี่ยนจริงๆ เพราะยังไม่ทิ้งสไตล์เดิม ชุดสีขาวแขนยาวถึงข้อมือปิดถึงเกือบครึ่งคอและยาวกรอมข้อเท้า

เฮ้อ...

“นี่ต้องไปสนามบิน ไม่ใช่วัด แฟชั่นอะไรของเธอเนี่ย”

น่านฟ้ามองหล่อนหัวจรดเท้า ถอนหายใจระอากับชุดนางชี เขาพูดไม่ผิด ชุดหล่อนเหมือนชุดแม่ชีหรือซิสเตอร์ในโรงเรียนคอนแวนต์สักแห่ง ใครมันช่างมีหัวดีไซน์ชุดอย่างนี้ทั้งที่อากาศเมืองไทยร้อนตับแตก ยายคนนี้ถ้าไม่บ้าก็ต้องบ้ามาก แต่ก็นั่นแหละหน้าตากับบุคลิกของหล่อนเข้ากัน ไม่น่าแปลกใจที่จะออกมาเป็นแบบนี้

“ชุดอะไรก็เรื่องของฉัน ฉันไปรับคุณนาย ไม่ได้ไปเดทกับคุณ”

“งั้นก็ตามใจ” น่านฟ้าบอกเสียงห้วนแล้วเดินไปเปิดประตูรถฝั่งตนเอง หญิงสาวก็ทำเช่นเดียวกันแต่เป็นอีกฝั่งหนึ่ง หล่อนต้องช่วยตัวเองให้เคยชินเพราะขืนหวังให้ไอ้ยักษ์ขี้โมโหเปิดให้นี่คงหวังเก้อ

ทั้งสองนั่งในรถคันเดียวกันอย่างอึดอัด ต่างคนต่างเงียบอยู่คนละมุม เพราะไม่อยากทะเลาะกับเขาให้เขาอารมณ์เสียบนท้องถนน หญิงสาวเบื่อขี้หน้าเขาจนหันหน้าหนี ดึงโทรศัพท์มากดเล่นเกมและแชตกับเพื่อนๆ ไม่อยากสนใจ บรรยากาศในรถเรียกได้ว่าสงัดเพราะต่างคนต่างเงียบ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหล่อนหันไปมองอย่างรำคาญเล็กน้อย เห็นหน้าจอโทรศัพท์ของน่านฟ้าที่ติดไว้กับเครื่องมือบนคอนโซลรถทำให้เขาสามารถมองได้แม้ขับรถอยู่ จิดาภานิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าเป็นวีดีโอคอล

“ถ้าไม่รับก็ช่วยกดวางหน่อยค่ะคุณน่าน รำคาญหู” เสียงบอกห้วนๆ ทำให้มือหนาปล่อยพวงมาลัยข้างหนึ่งไปแตะเพื่อรับสาย

หล่อนไม่น่าพูดเลยให้ตายเถอะ ถ้ายอมทนฟังอีกนิดเสียงก็เงียบเอง หมอนั่นกดรับ หวังว่าคงจะไม่พูดกันนานให้หล่อนรำคาญหรอกนะ

จิดาภาถลึงตาใส่คนหน้าเข้มที่หันมายักคิ้วให้ และไปสนใจกับหน้าจอ

“ว่าไงจ๊ะ น้องอ๋อมแอ๋ม” เสียงเข้มๆ นั้นพูดด้วยน้ำเสียงดีกว่าพูดกับหล่อนหลายเท่า คำว่าแรดยังน้อยไปเลย ไอ้ไดโนเสาร์มีนอเอ๊ย ทีคุยกับเด็กล่ะเสียงเพราะพริ้งเชียว

หึ... ไม่สนแล้วก็ได้ มือบางรีบดึงเข็มขัดนิรภัยที่หล่อนเคยมองข้ามมาสวมทันใด ไม่ไว้ใจว่าคนที่คุยวีดีโอคอลอยู่จะขับขี่ปลอดภัยแค่ไหน

“อ๋อมแอ๋มเพิ่งกลับมาจากเวิร์คแอนด์ทราเวลที่อเมริกา คิดถึงเสี่ยน่าน ม๊ากมาก มีของฝากเสี่ยด้วยนะ ว่างมาเอาที่หอหรือเปล่าคะ” เสียงหวานดังผ่านวีดีโอมาทำให้คนที่หันหลังให้น่านฟ้าแอบกลอกตาและเบะปากอย่างหมั่นไส้

“ว่างเย็นนี้ เดี๋ยวเจอกัน”

“ตอนนี้ไม่ได้เหรอคะ อ๋อมแอ๋มคิดถึง... อยากลูบกล้ามอกแน่นๆ ของเสี่ยใจจะขาด”

“ติดธุระอยู่ ไว้ลูบตอนเย็นๆ นะ จะให้ลูบให้หายคิดถึง”

“ธุระอะไรคะ ไปกับสาวหรือเปล่า ข้างๆ ที่นั่งเสี่ยเป็นใครคะ อ๋อมแอ๋มขอดูหน่อย ไปกับสาวไหน” เสียงแว้ดๆ ชวนแสบแก้วหู ทำให้จิดาภาชักรำคาญ ไม่รู้เขาทนได้ไง ขนาดหล่อนพูดดีๆ ด้วยเขายังรำคาญ ยายนั่นแว้ดขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่ด่ากลับบ้าง ไม่เข้าใจเลย

“มากับคนที่บ้าน”

“ไม่เชื่อ”

“งั้นก็ดูซะ แรงงานต่างด้าวที่บ้านน่ะ” จังหวะที่รถชะลอ เขาแพนกล้องมาทางจิดาภา หล่อนกำลังหันไปทำตาขวางใส่พอดี จึงทันเห็นคนในจอ เห็นแล้วพอเข้าใจว่าน่านฟ้าทำไมถึงพูดดีและฟังยายนั่นอย่างใจเย็น เพราะในจอเป็นภาพ ยายนั่นในชุดบิกินี่สีแดงสดที่ปิดอะไรบนตัวไม่มิดนอนระทวยบนที่นอนสีขาวท่าทางเชิญชวนสุดๆ คุยวีดีโอคอลกับเขาอยู่

‘อี๋ ทุเรศสิ้นดี’ ดูเหมือนยายนั่นก็เห็นหล่อนเหมือนกัน

“เฮ้อ โล่งอกไปที นึกว่ามากับสาว ที่แท้เป็นคนใช้ที่บ้านค่อยโอเค ไม่หึงแล้วล่ะค่ะ ป้าๆ แบบนั้นไม่ใช่กิ๊กเสี่ยแน่นอน”

“อือ กระเดือกไม่ลงหรอก อยากเคี้ยวเนื้อหวานๆ ห่อด้วยบิกินี่แดงมากกว่า จะกลืนทั้งตัวเลย” จังหวะที่ไฟแดงเปลี่ยนน่านฟ้าหมุนหน้าจอกลับไปที่เขาและคุยต่อราวกับหล่อนเป็นอากาศธาตุ

“อย่าลืมเลียก่อนกินด้วยนะ อ๋อมชอบ” เสียงหัวเราะคิกๆ และคำพูดแปลกๆ ไม่ได้รับความสนใจอีกเพราะว่าพวกเขาไม่ได้นินทาหล่อน จิดาภานั่งเบะปากพะอืดพะอมกับเสียงอ้อนๆ ไปเกือบตลอดทาง กว่าพวกเขาจะคุยกันจบ

ดูเหมือนหูหล่อนจะยังไม่ได้เวลาพัก ยายอ๋งยายอ๋อมอะไรนั่นวางไป เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีก น่าระอาเหลือทน มีคนติดต่อคนแบบเขาบ่อยมากขนาดนี้หรือไงกัน นิสัยแบบเขาไม่น่าจะมีเพื่อนเยอะพอเห็นสายเข้ามาติดๆ จึงน่าแปลกใจนัก

“ว่าไง ไอ้ป้อง” คราวนี้เสียงไม่ได้อ่อนหวานเหมือนก่อน แต่ก็ดีกว่าระดับเสียงที่พูดกับหล่อนอยู่ดี จิดาภาแอบเงี่ยหูฟัง

“วันนี้ว่างไหมมีเด็กใหม่มาที่ทำงานสองสามคน อยากให้เอ็งมาดูงานหน่อย เอ็งทิ้งงานไปกกผู้หญิงสามวันแล้วนะ ข้าจะไปพักบ้างแล้ว มาทำงานต่อด้วย”

“เออๆ อย่าบ่นได้ไหมวะ ว่าแต่น้องๆ เซตใหม่สวยไหม”

“ไม่บอกเว้ย มาเช็คเอง” เสียงทุ้มๆ ทางนั้นเป็นผู้ชาย ค่อยไม่น่ารำคาญหูหน่อย แต่เรื่องที่คุยก็ไม่พ้นเรื่องในวงการคาวโลกีย์อยู่ดี ฟังแล้วเสนียดหูชะมัด ถ้าไม่กลัวว่าเขาจะพารถเข้าป่าข้างทางคงขอให้เขาปิดเสียงลำโพงแล้วถือคุยเองเป็นแน่แท้

“วันนี้ไม่ว่าง... ไปรับแม่ที่สนามบิน ขอพักอีกวันแล้วกัน”

“เออๆ งั้นมาพรุ่งนี้นะ ข้าจะบอกเด็กให้เตรียมตัวไว้ แค่นี้ล่ะ ลูกค้าเยอะ คนไม่พอ แถมยังวุ่นวายชิบหาย ใครเอาร้านไปช่วยโปรโมตไม่รู้ ลูกค้าผู้หญิงตรึมจนต้องจัดคิวให้ สงสัยต้องจ้างพนักงานผู้ชายเพิ่ม

“อย่าเพิ่งซิวะ เพิ่งเริ่มอย่าเพิ่งตื่นตัว รอดูท่าทีตลาดก่อนค่อยประเมินดีๆ ค่าตัวสตาฟแต่ละคนแพงหูฉีก ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ทำเท่าที่มีก่อน”

“แหม ผู้ชายไม่รับเพิ่มแต่ผู้หญิงเอ็งเพิ่งรับเพิ่มมาสาม คัดหุ่นอีกต่างหาก แต่ช่างเถอะ ข้าจะเชื่อเอ็งแล้วกัน เจ้าพ่ออ่างอย่างเอ็งคงรู้เรื่องในวงการดีกว่าข้าล่ะนะ งั้นแค่นี้ล่ะ ไปทำงานต่อแล้ว” สิ้นเสียงพูดที่ยังไม่ทันฟังให้กระจ่างว่าคุยกันเรื่องอะไร เสียงสายตัดตู๊ดๆ ก็ดังขึ้น

คราวนี้ไม่มีสายไหนเข้าอีก จิดาภาเลยเคลิ้มหลับไป เพราะในรถไม่มีอะไรน่าสนใจกว่าการนอนหลับตาหนีรำคาญที่ต้องเดินทางร่วมกับเขา

“นี่ๆ ยายเต้าหู้ ตื่นๆ” เสียงเคาะคอนโซลรถดังลั่นทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นหันหน้าเหรอหราเพราะยังงงอยู่

“บ้า ตกใจหมด เคาะดังอย่างกับเสียงระเบิด” ด่าเสียงขรมเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ตนอยู่บนรถกับเขาเพื่อมารับคุณนายมณี

“เรียกเบาๆ แล้วแต่เธอนอนกรนน้ำลายยืดไม่ตื่นสักที”

“โกหกขอให้เหี่ยวเป็นมะเขือเผา เฉาร้อยปีร้อยชาติ สาธุ”

“...”

พอเขาเงียบเลยมองค้อนขวับ คนตอแหล หล่อนไม่ได้นอนกรนยังมาว่ากรน

“แล้วถึงแล้วเหรอคะ แล้วคุณนายมาหรือยัง” มองออกไปเห็นรถมากมายรอรับผู้โดยสารที่หลั่งไหลจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารที่ออกมาจากสนามบินก็ยังหนาตา

“แม่บอกว่าฉันกับเธอมาถึงช้าไม่ทันใจเลยนั่งแท็กซี่กลับบ้านแล้ว”

“หา อะไรนะ แล้วที่บังคับให้เรามารับท่านที่นี่ ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมกลับคืออะไรกัน”

“ไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันจะไปธุระ เธอต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง”

“อะไรอีกล่ะเนี่ย” หล่อนมองหน้าเขางงๆ เขาปรายตามามองนิดเดียวแล้วก็ปลดล็อกฝั่งหล่อนเสียงดังแกรก เป็นการขับไล่กรายๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel