1 ขิงก็รา ข่าก็จะเอาคืน 1
วันหยุดที่แสนสบายถูกรบกวนกลางดึก เมื่อเพื่อนสนิทได้โทรมาบอกข่าวด่วนให้หล่อนรีบเช็คกลุ่มสนทนาออนไลน์ของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย จิดาภาคว้าโทรศัพท์มือถือมาเปิดอ่าน ข้อความพร้อมภาพที่โชว์อยู่ทำให้หน้าหล่อนแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวเม้มปาก โยนโทรศัพท์ที่ยังเปิดโปรแกรมสนทนากับเพื่อนในกลุ่มค้างไว้ทิ้งไปที่โซฟา ก่อนจะมานั่งไม่สบอารมณ์ เพื่อนๆ ในกลุ่มที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงยามราตรีล้วนแชตมาบอกว่าเจอสามีของหล่อนไปเที่ยวกลางคืน
ตั้งแต่แต่งงานมาก็มักมีคนมาแจ้งข่าวว่าพบเจอน่านฟ้าที่ร้านอาบอบนวด หรือสถานบันเทิง พร้อมกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าซ้ำตา หลายๆ คนเห็นใจ หลายคนเตือนด้วยความหวังดี หลายคนคงสมน้ำหน้าอยู่ในใจ คงหาว่าหล่อนไร้น้ำยาสามีถึงไปกินนอกบ้าน
วันนี้ก็เป็นเวรของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่มารายงานข่าว ทั้งที่เมื่อวานหล่อนยังไม่หายหัวเสียที่เพื่อนสมัยมัธยมปลายเพิ่งส่งข่าวว่าเขาไปส่งนักศึกษาที่เขาส่งเสียไว้ที่หอพักมหาวิทยาลัย
“หน็อย! ไอ้ผัวเฮงซวย”
ยังก่นด่าไม่ทันใด เพื่อนในกลุ่มแชตสมัยมหาวิทยาลัยที่เป็นนักท่องราตรีตัวยงทว่ายังโสดก็ส่งภาพแอบถ่ายสามีของหล่อนมาให้ดูแบบเรียลไทม์ พร้อมประณามว่าเขาควรอยู่กับหล่อนที่บ้านมากกว่าผู้หญิงอื่นในยามราตรีเช่นนี้ เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ หล่อนไม่ได้หึงหวงคนตัวสูงหน้าตาโดดเด่นกว่าใครนั่นเลย แต่ยอมรับว่าเมื่อได้เห็นแล้วหล่อนก็โมโหเหลือทน
‘มีสามีแรด รู้ถึงไหนอายถึงนั่น’
“ไอ้คนสกปรก กินไม่เลือก ทำฉันขายหน้าอีกจนได้” เจ้าของดวงหน้าสวยผุดผาดกำมือแน่น ปรายตามองชื่อสถานบันเทิงที่ติดมาในรูปที่มีคนหวังดีแอบถ่ายสามีหล่อนมาให้ดู
แม้คนภายนอกจะไม่รู้สถานะที่แท้จริงระหว่างหล่อนกับน่านฟ้าผู้เป็นสามีว่าทั้งคู่ถูกบังคับให้แต่งงานร่วมบ้านทั้งที่ชังน้ำหน้ากัน แต่ในสายตาของคนอื่นนั้นถึงยังไงหล่อนกับเขาก็เป็นสามีภรรยากัน ในบ้านอาจจะไม่เคยมองหน้ากันแต่นอกบ้านมันก็ควรจะให้เกียรติกันบ้างไม่ใช่หรือไงกัน ก่อนแต่งงานจะทำอย่างไรก็ไม่ว่า แต่หลังจากที่แม่เขาบังคับให้แต่งงานกับหล่อน เขาก็ยิ่งร้ายกาจ หนักข้อและเปิดเผยกว่าเดิมจนมีแต่คนสงสารหล่อน...
ความโกรธที่หลายคนใส่ไฟสุมจนความอดทนของจิดาภาขาดสะบั้นลง
“ในเมื่อคุณทำได้ ทำไมฉันจะทำบ้างไม่ได้ ทุกวันนี้สิทธิสตรีเสมอภาค คิดว่าฉันไม่กล้าหรือไง คิดว่าสร้างเรื่องฉาวโฉ่ให้คนอื่นได้อยู่คนเดียวหรือไงกัน”
พูดไปก็แค้นอกแค้นใจไป น่านฟ้าสามีเพลย์บอยวัยสามสิบสามของหล่อน นับว่าเป็นคนที่ทำให้หล่อนรู้จักคำว่าคู่อริตั้งแต่แตกเนื้อสาว เขาเป็นลูกชายของคุณนายมณีเจ้าหนี้เงินกู้ที่บิดามารดาหล่อนได้ไปพึ่งพาขอความช่วยเหลือ ในยามที่ครอบครัวหล่อนพบวิกฤติหนัก ท่านช่วยเหลือโดยมีข้อแม้พิลึกพิลั่นว่าเงินที่ให้มานั้นจะไม่เอาคืน แต่ให้เด็กวัยไม่พ้นมัธยมปลายอย่างหล่อนหมั้นกับน่านฟ้าลูกชายของท่าน พ่อแม่หล่อนไม่มีทางเลือกใดๆ นอกจากตกลงแลกกับความช่วยเหลือ
ตอนนั้นหล่อนไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวการดองกันระหว่างผู้ใหญ่ แต่น่านฟ้าแอบรู้เข้า เขามาสืบหาจนได้รู้ว่าลูกหนี้เงินกู้ของแม่เขาคือแม่ค้าขายข้าวแกงธรรมดา และลูกสาวที่แม่เขาขอไว้เป็นสะใภ้ขัดดอกนั้น ก็เป็นยายลูกเป็ดขี้เหร่ที่เตี้ยตัวกระจิ๋ว ซ้ำยังทำผมซอยสั้นหน้าตาเรียบๆ ไม่แต่งแต้มสีอย่างกับทอมบอยที่มีต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ เขาซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในขณะนั้นมาดักรอเพื่อคุยกับหล่อน พร้อมทั้งสั่งการให้หล่อนห้ามผ่านหน้าบ้าน ห้ามให้เขาเห็นหน้าด้วยคำพูดโอหัง
‘ช่วยไปไกลๆ หน่อย เห็นแล้วหมดอารมณ์ทางเพศ เห่ยๆ อย่างเธอ ต่อให้แม่จะปาดคอฉัน ฉันก็ไม่แต่งด้วยหรอก ยอมตายดีกว่า ถ้าแต่งงานกับเธอ ฉันคงเสียชาติเกิดมาก’
จิดาภาทนไม่ได้จึงประกาศกับเขาไปต่อหน้าว่า หล่อนจะแต่งงานกับเขาให้เขาขายหน้าที่ต้องมาแต่งงานกับคนอย่างหล่อน แม้เขาจะส่งคนมากลั่นแกล้งและแวะมาพูดย้ำๆ กับหล่อนหลายครั้งแต่หล่อนก็ยืนยันคำเดิม เพราะหมั่นไส้จนไม่มีวันจะทำตามคำสั่งเขา น่านฟ้าหายไปหลายปี และกลับมาในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ หล่อนเองก็ตกงานซ้ำยังหางานใหม่ไม่ได้ พ่อแม่ของหล่อนก็ค้าขายไม่ขึ้น จึงเป็นโอกาสที่คุณนายมณีจะทวงสัญญาเรื่องงานแต่งงาน ตอนแรกหล่อนนั้นแทบเป็นลม
จำได้ว่าตอนที่แม่พาไปนั่งพับเพียบข้างๆ คุณนายมณีหล่อนยังก้มหน้าก้มตาบีบนวดขาของคุณนายมณี พร้อมทั้งอ้อนวอนขอให้หล่อนได้ใช้ความรู้ความสามารถหาเงินทดแทนคุณท่าน แต่พอเห็นน่านฟ้าเข้ามาเพราะรู้เรื่องนี้ อาการโวยวายของคนร่างสูงปานยักษ์ปักหลั่นว่าให้แม่เขาล้มเลิกความคิดนี้เสียที เขาจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงหน้าจืดเหมือนหล่อน ได้ยินอย่างนั้นจิดาภาก็ตัดสินใจประกาศว่ายอมแต่งงานกับน่านฟ้าทันใด ตอนนั้นหล่อนคิดอย่างเดียวว่าไม่มีอะไรจะให้เสีย
แล้วมันก็จริง พอหล่อนยอมแต่งงานคุณนายมณีก็พูดกับลูกอย่างไรไม่รู้ เขาถึงต้องมาแต่งงานกับหล่อนทั้งที่เกลียดหล่อนเข้าไส้ งานแต่งงานเล็กๆ จึงถูกจัดขึ้น คุณนายมณียกหนี้และให้เงินก้อนแก่พ่อแม่หล่อนเพื่อนำมาปรับปรุงร้าน ส่วนหล่อนก็ย้ายมาอยู่บ้านกับคุณนายมณีและช่วยดูแลกิจการเงินกู้ ห้างร้านให้เช่า รวมทั้งกิจการหอพักที่คุณนายทำไว้แก้เหงา ทั้งที่นาวาอากาศเอกนัธนันท์สามีผู้ล่วงลับได้ทอดทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้มากมายแต่คุณนายก็ยังทำงานเหล่านี้ต่อ
“ทำไว้แก้เหงา ผัวก็ตาย ลูกชายก็ไม่ได้มาสนใจใยดี เอาแต่กินเที่ยวเป็นพ่อพวงมาลัยของมันไปเรื่อย แก่มาตัวคนเดียวเลยหาอะไรทำ ฉันถือว่าปล่อยกู้เก็บดอกนิดๆ หน่อยๆ ให้คนจนๆ ได้ทำทุน ได้คิดได้เครียดแก้เหงาไปเท่านั้นหรอก” คุณนายเคยบอกหล่อนอย่างนั้น เมื่อตอนที่หยิบสุดบัญชีหนังสัตว์อะไรสักอย่างที่บรรจุรายชื่อลูกหนี้เงินผ่อนของคุณนายไว้เต็มเอี๊ยด
ส่วนใหญ่ลูกหนี้ของคุณนายมณีเป็นผู้ค้าผู้ขายในตลาด และชาวบ้านในละแวกซอยที่หาเช้ากินค่ำส่งลูกเรียน รวมทั้งภริยานายทหารชั้นประทวนใกล้บ้านล้วนกู้เงินคุณนายไปทำกิน บางคนแลดูแล้วเก็บได้แต่ดอกซึ่งเป็นรายได้ที่น้อยมากหากเทียบเจ้าหนี้นายเงินรายอื่น สำหรับลูกหนี้ของคุณนายมณียังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับรายไหนไม่มีเงินก็พักชำระเป็นปี หอพักให้เช่านักศึกษาคนไหนเรียนเกรดดีก็ให้พักฟรียังมี
สรุปว่าคงจะมีแต่กับครอบครัวหล่อนคุณนายหน้าเลือดที่สุดที่พ่อแม่ไม่มีจ่ายแล้วหล่อนต้องมาแต่งงานเข้าบ้านคุณนายขัดดอก
“ฉันเห็นเธอหน่วยก้านดี เรียบร้อย น่าจะเอาลูกชายฉันอยู่ ตอนนี้มันยังไม่ชินกับชีวิตแต่งงาน ไว้มันชินเมื่อไหร่ก็ช่วยทำให้ชีวิตมันอยู่กับร่องกับรอยด้วยแล้วกัน” คุณนายมณีเหมือนจะรู้ทันความคิดหล่อนจึงเปรยๆ ขึ้นมา
จิดาภายิ้มอ่อน เห็นมาแต่เล็กจนโตและเจอหล่อนปะทะกับน่านฟ้าหลายๆ ครั้ง คงพอรู้ว่าหล่อนกับเขาไม่ถูกกัน แถมยังแยกห้องกันอยู่ แต่งงานกันผ่านมาจนมีรูปพรีเวดดิ้งสวยสดให้คุณนายมณียิ้มชื่นใจทุกคราที่เห็นติดฝาบ้าน ผ่านมาเป็นปีแล้วเขาก็ยังไม่พูดดีๆ กับหล่อนสักคำ มองหน้าก็ยังไม่มอง ดูเหมือนหลังแต่งงานเขาจะเกลียดและหาเรื่องทะเลาะกลั่นแกล้งหล่อนได้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
หนำซ้ำไอ้สามีบ้ายังทำตัวติดอ่าง (ที่ร้านอาบอบนวด) ซ้ำยังใจดีเจริญรอยตามมารดาด้วยการมอบทุนสสร. (เสี่ยส่งเรียน) ให้กับนักศึกษาเอ๊าะๆ เยาะเย้ยหล่อนหนักข้อขึ้นมาก หรือไม่อย่างนั้นก็เขาเป็นอย่างนี้มาอยู่แล้ว แต่หล่อนได้มาเห็นชัดมากขึ้นหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
จิดาภาตั้งใจจะไม่แคร์และถึงแคร์ก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปต่อว่า เพราะหล่อนไม่ได้เป็นเมียที่สมบูรณ์และเขาก็ไม่เคยยอมรับ... หล่อนเองก็มีงานตัวเองทำจึงไม่อยากใส่ใจเท่าไหร่ แต่การที่คนนอกไม่รู้สถานะระหว่างหล่อนกับเขาแล้วเที่ยวมาฟ้อง มันก็ชวนให้หงุดหงิดอยู่เหมือนกัน
คนอย่างนายนั่นเที่ยวกลางคืนแถมลงอ่างตลอด มันคงมีอะไรดีให้ติดใจ ถึงไปได้ไม่กลับบ้านกลับช่องขนาดนั้น คิดไปคิดมาก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งโยนไปกลับมาอีกรอบ เพื่อค้นหาข้อมูลของสถานบันเทิงเริงรมย์แก้เซ็ง อ่านไปอ่านมา ตัวหนังสือในหน้าจอก็สะดุดตาหล่อน
รีวิวจัดเต็มวันพักผ่อนที่สาวโสดได้ฟินสุดจะบรรยาย ที่ร้านเติมต้องการ คอฟฟีแอนด์สปา สถานที่พักผ่อนแนวใหม่ที่ผู้หญิง โสด เศร้า เหงา ซิง ต้องไปโดน โดย เจ๊เต่าหมายจันทร์ เจ้าของเพจเหงาอยู่บนคานนานปีไม่มีใครสอยลง
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจิดาภาเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กเพจนี้ เนื้อหาในเพจบ่นเรื่องความเหงาและเรื่องราวชีวิตของสาวโสดได้กินใจมาก ถึงตอนนี้หล่อนจะแต่งงานแล้ว แต่มีแววจะโดนสามีทิ้งได้ไปเกาะคานอย่างเก่าเลยยังอ่านเพจนี้อยู่จนได้เจอข้อความรีวิวดังกล่าว
สมัยนี้ผู้หญิงก็ซื้อบริการได้ จะลงอ่าง จะคุยคลายเหงา จะนวด จะนาบ มีหลายแบบ ตั้งแต่ปลอดภัยจนไปถึงแซบสะเด่าเขย่าทรวง อ่านด่วนก่อนโดนลบ
ชื่อของหัวข้อแรกก็ชวนคิ้วขมวด มันมีจริงหรือไงกันไอ้สถานที่ที่ให้ผู้หญิงไปผ่อนคลาย เคยได้ยินแต่ที่ญี่ปุ่นที่มีบาร์โฮสต์ไว้บริการสาวขี้เหงา จิดาภาเคยอ่านเจอในการ์ตูนสมัยสาวจนโตมาขนาดนี้แล้ว หล่อนยังไม่รู้เลยว่าโลกมาไกลขนาดที่มีสถานที่แบบนี้ในเมืองไทย
‘น่าสนใจแฮะ’
ในที่สุดความสนใจเรื่องอื่นที่อยากรู้อยากเห็นก็เอาชนะความโมโหขุ่นเคืองสามีได้อีกครั้ง จนลืมว่าใครมาฟ้องอะไรบ้าง ชีวิตหลังแต่งงานที่ต้องกอดทะเบียนสมรสนอนเฝ้าห้องหอโดยไม่มีสามีมาใส่ใจเหลียวแลจึงผ่านไปได้ด้วยดีไปอีกวันหนึ่ง เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
