ตอนที่ 1 สตรีไร้ค่า
“อึก อื้อออ คุณชายได้โปรดปราณีข้าด้วย อื้ออ”
“อึก คุณชายข้าเจ็บ ข้าเจ็บ ได้โปรดอย่าทำข้าเลย”
“หุบปาก !! หญิงโสเภณีเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ! ข้าเสียเงินซื้อเจ้ามาแล้ว เจ้าก็ควรทำให้ข้ามีความสุขไม่ใช่มาขัดอารมณ์ข้าเช่นนี้”
“ตะ...แต่ว่าข้า อึก อ้า เจ็บ คุณชายข้าเจ็บ !!”
เจ้าของแก่นกายหนากดตัวตนของตนเองเข้าไปย้ำ ๆ ไม่ได้สนใจเลยว่าการกระแทกกระทั้นไร้ซึ่งความปราณีเต็มไปด้วยความหยาบโลนของตนจะทำให้คนใต้ร่างเจ็บปวดมากแค่ไหน ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงการระบายโทสะและความอัดอั้นตันใจที่มีอยู่ออกไปก็เท่านั้น
เขาผิดอันใดกัน เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าพวกเขารักเขามากหรือ ไม่ใช่ว่าไม่ว่าเรื่องใดเขาก็เป็นที่หนึ่งหรือ !!
ทั้งที่บอกว่าเขาคือว่าที่ผู้นำจวนคนต่อไป เป็นลูกที่พวกเขาภาคภูมิใจหนักหนา เหตุใดวันนี้บุตรชายแสนภาคภูมิใจถึงไม่ใช่เขาแล้วเล่า เหตุใดถึงกลายเป็นน้องชายไปได้เล่า !!
แล้วความพยายามที่ผ่านมาคืออะไรกัน สิ่งที่เขาพยายามมาทั้งหมดมันหมายความว่าอย่างไร !!
บอกให้เขาเสียสละเพื่อน้องชาย เป็นพี่ต้องรู้จักมอบสิ่งดี ๆ ให้น้อง
เหอะ !! ที่ผ่านมามีอะไรบ้างที่เขาไม่เคยเสียสละ มีสิ่งใดบ้างที่เขาไม่มอบออกไป มาตอนนี้แม้แต่ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลยังจะให้เขามอบให้อีก
แล้วจะบอกเขามาตลอดยี่สิบกว่าปีทำไมว่าตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมีไว้เพื่อเขา ! บอกให้เขาพยายามเพื่อที่จะกลายเป็นผู้นำตระกูลที่ดีไปเพื่ออะไร
ยิ่งคิดยิ่งแค้น ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด แต่เพราะไม่อาจระบายความรู้สึกกับคนที่บ้าน เฟิงหลิวจึงระบายความรู้สึกมากมายเหล่านี้ใส่เข้าไปในร่างกายบอบบางของสตรีที่เขาเสียเงินซื้อมาจากหอนางโลม
แก่นกายหนาโถมเข้าใส่ช่องทางเล็กแคบ โถมสะโพกกระหน่ำความเป็นชายเข้าไปถี่ระรัว ไม่ได้สนใจเลยว่าส่วนบอบบางนั้นจะฉีกขาดจากความไม่เคย หรือจะเจ็บปวดจากความยิ่งใหญ่ของเขามากแค่ไหน
ทั้งที่นางเอ่ยปากขอร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตา ขอให้เขาช่วยอ่อนโยนและผ่อนแรงลงสักนิด ทว่าสิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความหยาบโลนดิบเถื่อน
“ฮึก ฮือ คุณชาย ได้โปรด”
“หุบปาก !”
“อึก !! อื้อออ !!”
เฟิงหลิวใช้มือบีบกรามอีกฝ่ายแน่น ประกบปากจูบลงไปปิดเสียงร้องขออ้อนวอนเพราะความเจ็บปวด จูบนี้ไม่ได้ลึกซึ้งอ่อนโยน แต่เป็นจูบอันเต็มไปด้วยแรงอารมณ์และความต้องการผสมปนเปไปกับโทสะซึ่งสุมอยู่ในอก
สองมือของลั่วหยางถูกตรึงไว้เหนือศีรษะ ริมฝีปากถูกยึดปิดไม่ให้ส่งเสียง ทำได้เพียงร้องครางครืออยู่ในลำคอ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย สองขากางออกปล่อยให้เขาแทรกกายเข้ามา
ส่วนนั้นถูกกระแทกกระทั้นเข้าออกจนรู้สึกเจ็บแสบ ถึงกระนั้นเจ้าของแก่นกายกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดโยกกายบนตัวนาง
หน้าอก
ลำคอ
ซอกขา
ทุกส่วนของร่างกายถูกชายหนุ่มตรีตราสีกุหลาบ ร่องรอยมากมายปรากฏขึ้นบนตัว พอเวลาผ่านไปคงกลายเป็นรอยเขียวซ้ำ
“อ้า ต้องอย่างนี้สิ รัดข้าให้แน่นอีก ให้ข้าได้รับรู้ถึงส่วนอ่อนไหวของเจ้ามากกว่านี้อีก”
สองมือลั่วหยางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทว่าไม่นานจากนั้นเอวคอดก็ถูกมือใหญ่ยึดแน่น ก่อนเจ้าของมือหนาจะเร่งจังหวะเคลื่อนตัวเข้ามาถี่ระรัว กดเน้นย้ำลงบนจุดเสียวกระสันภายใน
“อึก คุณชาย ได้โปรด ปรานีข้า”เพราะรู้แล้วว่าไม่มีทางขัดขืนออกไปจากเงื้อมมือของทรราช ลั่วหยางจึงเปลี่ยนไปอ้อนวอนขอ
ทว่าน้ำเสียงอ้อนวอนซึ่งมาพร้อมดวงตาปรือปรอยแดงระเรื่อเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสงสารเห็นใจ กลับกันการกระทำนี้กับกระตุ้นความต้องการของชายหนุ่มให้พุ่งขึ้นสูง
เขาจับคนใต้ร่างนอนคว่ำหน้า ใช้สองมือดึงสะโพกยกขึ้นสูง แล้วสอดแก่นกายเข้าไปจนสุดในคราเดียว
“อ๊ะ !! อ้า !!”ลั่วหยางเกร็งกระตุก ร่างกายเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่น เชิดหน้าส่งเสียงคราง
“อื้อออ ดี ดูเหมือนเจ้าจะชอบอย่างนี้สินะ ดูสิ ส่วนนั้นของเจ้าบีบรัดของข้าเสียแน่นเชียว ส่วนนี้ของหญิงโสเภณีอย่างเจ้าดูเหมือนจะซื่อตรงมากกว่าปากของเจ้าเสียอีก”น้ำเสียงกระซิบกระซาบข้างหูมาพร้อมลมหายใจร้อนเป่ารดส่วนอ่อนไหว ลั่วหยางเสียวซ่านแทบจะทนไม่ไหว ซุกซบใบหน้าหลีกหนีคำพูดเขา
ทั้งที่เขาเย็นชาถึงขนาดนี้ รุนแรงมากถึงขนาดนี้ แต่พอได้ยินเสียงกระซิบเบาแสนหยาบโลน ตัวนางกับสั่นสะท้านเผลอส่งเสียงครางทั้งยังขมิบส่วนล่างให้เขารู้สึกดี
หญิงสาวเม้มปากแน่น อดกลั้นความรู้สึกมากมายในใจ ไม่อยากแสดงอะไรออกไปให้เขารู้สึกชอบใจไปมากกว่านี้
แต่เหมือนความต้องการของนางจะสูญเปล่า เมื่อคนบนร่างยื่นมือออกมาจับแขนข้างหนึ่งดึงไปข้างหลัง พร้อมส่วนนั้นที่กระแทกเข้ามา
“อ๊ะ อื้ออ ช่วยเบาหน่อย ข้า อึก ข้าจะไม่ไหวแล้ว”ลั่วหยางส่ายหัวไปมา
เขาไม่ได้อ่อนโยน ไม่ได้ใจดีเลยสักนิด ทั้งที่เป็นอย่างนั้น ตัวนางกับแสดงความต้องการออกมามากมาย
“ดูเหมือนเจ้าจะชอบให้ข้ากระแทกเข้าไปแรง ๆ เช่นนี้สินะ ดูท่าทางของเจ้าตอนนี้สิ ต้องการตัวข้าเสียเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นหญิงจากหอนางโลม !”
เฟิงหลิวเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นถี่ระรัว ตัวเขาเองก็ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางเต็มที จึงเลิกพูดจาเสียดสีสตรีใต้ร่าง เปลี่ยนมาตั้งใจซอยแก่นกายเข้าออกถี่ระรัว บดเบียดตัวตนเข้าไปในช่องทางเล็กแคบ ก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปจนเต็มช่องทางสีอ่อน
คนถูกปลดปล่อยใส่ร่างกายเกร็งกระตุก ส่งเสียงครางขาดห้วง พอไม่มีแรงดึงจากฝ่ามือหนา ร่างกายก็ร่วงไปนอนบนเตียง ลมหายใจเข้าออกหนักหน่วง
ครั้งแรกของการกระทำหยาบโลนพึ่งผ่านพ้นไปได้ไม่นานนัก คนบนร่างกลับจับกายบางพลิกนอนหงาย สองมือดันหน้าขาหญิงสาวขึ้นสูง กระตุกยิ้มร้าย
“เจ้าคงไม่ได้กำลังรู้สึกสบายใจอยู่ใช่ไหม ? อย่าลืมสิว่าข้าซื้อเจ้ามาแพงมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นแล้วข้าต้องใช้เจ้าให้คุ้ม”
เขาพึ่งจะปลดปล่อยออกมาได้ไม่นาน แต่ส่วนนั้นกลับแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง เฟิงหลิวไม่ปล่อยให้ลั่วหยางได้มีเวลาปฏิเสธ ชายหนุ่มจัดการกดแก่นกายเข้าไปทันที
ลั่วหยางไม่รู้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังเขาปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สามสติซึ่งมีอยู่เลือนลางของนางก็หายไป หลงเหลือไว้เพียงร่างกายอ่อนเปลี้ยพร้อมลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
คนระบายโทสะและความต้องการจนหนำใจแล้วยืดตัวเต็มความสูงยกมือขึ้นเสยผม สูดหายใจเข้าออกเฮือกใหญ่ก่อนจะถอนหายใจยาว
นัยน์ตาสีรัตติกาลหลุบมองสตรีที่สลบไปเพราะการกระทำอันดิบเถื่อน ถึงกระนั้นนัยน์ตาคู่คมกับไร้ซึ่งความสงสารเห็นใจ
เขาขยับตัวลงจากเตียงทั้งร่างกายเปลือยเปล่า ก้าวเดินไปหยุดยืนข้างหน้าต่างใช้มือดันให้เปิดออก
แสงจันทร์กระจ่างสาดส่องกระทบร่าง ส่งผลให้นัยน์ตาสีเข้มทอประกายเศร้าสร้อยหม่นหมองแตกต่างจากสายตาเย็นชาเมื่อครู่
เฟิงหลิวยืนมองท้องนภาอยู่เนิ่นนาน ปล่อยความคิดลอยไกลออกไปก่อนจะดึงสายตากลับมาแล้วเหลือบมองลงไปยังพื้นเบื้องล่าง
เพราะเป็นย่านโคมแดงแสงไฟบริเวณนี้จึงไม่มอดดับ ยังมองเห็นผู้คนออกมาเที่ยวราตรีสนุกสนานกันอย่างคึกคัก
“หึ”เฟิงหลิวหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน
เย้ยหยันในโชคชะตาที่ตนเองได้รับ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหย่อนตัวนอนลงบนเตียง
