ตอนที่ 9 มึงต้องทำ
ภายในห้องวีไอพีที่เป็นส่วนตัว ตุลา แทนไท เอวาริน ไมเคิลและจอห์น ต่างคนต่างนั่งมองหน้ากันไมเคิลสีหน้าประหม่า ส่วนตุลาก็เครียดที่ร้ายเพื่อนเอวาริน
“ผมขอโทษที่เข้าใจผิด ขอโทษจริง ๆ” ตุลาเข้าไปนั่งโซฟาใกล้ ๆ รู้สึกผิดจริง ๆ แต่ไมเคิลตกใจเอนตัวหนีเกาะแขนจอห์นแน่น
“อย่าค่ะ ไม่ต้องเข้าใกล้ กลัว” ไมเคิลหน้าตื่นตระหนก กลัวโดนต่อยอีก
“ขอโทษนะครับ คุณจะทำยังไงก็ได้ ต่อยผมคืนก็ได้นะ” ตุลาหน้าเครียด ขอโทษจากใจ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเห็นคุณหึงเพื่อนฉันก็ดีใจ อย่างน้อยคุณก็สนใจชีบ้าง” ไมเคิลเขยิบตัวออกห่างตุลาแล้วเหลือบมองตาเอวาริน ไมเคิลรู้ว่าทั้งสองคนแต่งงานกันเพราะอะไรและรู้ว่าเพื่อนสาวชอบตุลามาก เขาเป็นรักแรกพบของเอวาริน
“แต่ผมยังไม่สบายใจเลย”
“ขอแค่หลังจากนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีกันก็พอค่ะ สามีเพื่อนก็เหมือนสามีฉัน เอ้ย ก็เหมือนเพื่อนฉัน” ไมเคิลยิ้มเขินลืมตัว แหมก็สามีเพื่อนหล่อใช่ย่อยซะที่ไหน เผลอบ้างอะไรบ้าง ตุลากับแทนไทยิ้มแห้ง ๆ เอวารินเหล่ไมเคิลแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มส่ายหน้าขำเพื่อนขี้อ่อย
เรือนหอ
เช้าวันหยุด เอวารินเข้าครัวทำอาหารกับป้าศจี กลิ่นข้าวต้มกุ้งหอมฟุ้งลอยมาแต่ไกล ตุลาเดินตามกลิ่นมาที่ห้องครัวเห็นภรรยายืนทำอาหารอย่างมีความสุข เขาเผลอยิ้มตามป้าศจีหันมาเห็นตอนแรกจะหันไปเรียกคุณผู้หญิงแต่ก็ปล่อยให้คุณผู้ชายยืนชื่นชมภรรยาต่อดีกว่า เอวารินหันหลังมาหยิบผัก ตุลาสะดุ้งทำตัว ไม่ถูก
“หิวแล้วเหรอคะ”
“ใช่ แล้วก็จะมาถามว่าได้เตรียมชุดออกงานคืนนี้หรือยัง ขอแบบไม่ต้องโป๊มากด้วยนะ”
“เรียบร้อยค่ะ ไม่โป๊และก็สวยด้วย อาจจะสวยแซงหน้าเจ้าสาวด้วยนะคะ” หญิงสาวยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เฮ้อ... ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนนักหนา” ตุลาส่ายหน้าแกล้งภรรยาที่มั่นใจในความสวยตลอด แต่ก็สวยจริงๆนั่นแหละ เอวารินยิ้มรับคำพูดเขา เธอถือว่าเป็นคำชม
ตุลาเดินเลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์อยู่ริมสระว่ายน้ำ คอยมองมาในบ้านผ่านกระจกบานใหญ่
“ผมสืบจากคนรอบข้างมาว่า นายบาสเป็นสามีของคุณหนูนาจริงครับ” เสียงปลายสายสุขุมรายงานสิ่งที่ตุลาว่าจ้าง
“ข้อมูลจริงแค่ไหน” ตุลาเอ่ยเสียงเรียบ
“ผมจะส่งรายงานและรูปภาพให้ทางอีเมลนะครับ”
“ขอบคุณมาก ได้รับอีเมลแล้วผมจะโอนเงินส่วนที่เหลือไปให้” หน้าหล่อเคร่งขรึมถึงจะเคยสงสารหนูนาแต่ก็รู้สึกโกรธที่เธอหลอกว่าบาสเป็นพี่ชายทั้งที่เป็นสามี ตุลามักเห็นบาสถึงเนื้อถึงตัวหนูนาและสายตาดูเกินกว่าพี่ชายน้องสาว เขาสงสัยมาตลอดแต่ด้วยว่าก่อนหน้านี้เขาก็แค่เหมือนอุปการะหนูนาไว้เลยไม่สนใจ แต่ตอนนี้เขาต้องการความจริง
ตุลาเดินกลับเข้ามานั่งรอที่โต๊ะอาหาร มีข้อความไลน์ดังขึ้น
หนูนา “เย็นนี้มาทานข้าวด้วยกันนะคะ”
ตุลา “วันนี้ผมไปงานแต่งเพื่อน”
หนูนา “อ๋อค่ะ งั้นเป็นพรุ่งนี้นะคะ”
ตุลา “ทุกวันอาทิตย์ผมต้องพาเอวาไปทานข้าวกับครอบครัว”
หนูนา “ไว้เสาร์หน้าก็ได้ค่ะ”
ตุลา “ครับ” ตุลาส่งข้อความเสร็จ เอวารินก็ยิ้มแป้นถือถาดใส่ชามข้าวต้มออกมา มือหนาคว่ำหน้าจอลงสีหน้าเรียบนิ่ง
“ข้าวต้มกุ้งหอมอร่อยพร้อมเสิร์ฟค่ะ” มือเรียวจัดการวางชามข้าวต้มหอมฟุ้งลงตรงหน้าสามีและวางชามของตัวเอง
“น่าทานมาก”
“แน่นอนอยู่แล้ว พี่ตุลเตรียมตัวอ้วนได้เลย” หญิงสาวดีใจที่เขาชอบ
“เพื่อของกินอร่อย พี่ยอมอ้วน” เขาอมยิ้มแล้วยักคิ้ว ตักข้าวต้มเข้าปาก
“เหมือนกันเลยค่ะ กินเสร็จค่อยออกกำลังกายเนอะ” เสียงหวานเจื้อยแจ้ว แอบมองความน่ารักของเขา ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมีเสน่ห์ จะน่ารักเกินไปแล้วนะ
“อร่อยมาก...” เขาเอ่ยชมมองหน้าภรรยาที่มองเขาอยู่ สองสายตาผสานกันนิ่งงันแล้วก็เหมือนไฟช็อตต่างคนต่างหลบตากันไปทางอื่น ตุลาก้มหน้ากินข้าวต้ม เอวารินก้มหน้าคนถ้วยข้าวต้มวนไปมาลุกลี้ลุกลน ป้าศจีกับทรายเห็นอาการคุณทั้งสองแล้วแอบขำ ตุลาเลยหาเรื่องคุยแก้เขิน
“วันพุธที่จะถึงเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ พี่จะเอาของไปแจกคนไร้บ้านสนใจไปด้วยกันไหม”
“สนใจค่ะ เสร็จแล้วไปเดินเล่นถ่ายรูปกันนะคะ” หน้าสวยพยักหน้ารัว ๆ ยิ้มสดใส
“เอาสิ จะได้ซื้อข้าวไข่เจียวนั่งกินในสวนด้วย” เขาอยากระลึกความหลังครั้งแรกที่เจอเธอ สร้างความประทับใจเปิ่นโก๊ะให้เขาสนใจได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
“โห คิดแล้วอยากไปวันนี้เลยเนอะ”
“ใจเย็น วันนี้ต้องไปงานแต่งเพื่อนพี่ก่อน” หน้าหล่อยิ้มกว้าง กับความสดใสที่อยู่ตรงหน้า ภรรยาสวยเชิดหยิ่งของเขาชอบแต่งตัวเปรี้ยวโฉบเฉี่ยวเหมือนจะเป็นผู้หญิงแรง ๆ ด้วยซ้ำ แต่นิสัยกลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นคนโก๊ะ ๆ ขี้เล่น อารมณ์ดี หลงตัวเอง เพ้อฝันเก่ง มองโลกสวยและจิตใจดี เอวารินเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่เขาเคยเจอคงเป็นฉากหน้าที่ไว้ใช้ในสังคมคนรวยเหมือนกับเขาที่ทำเป็นเคร่งขรึม วางตัวดี ทั้งที่ตัวตนจริง ๆ เขาไม่ใช่คนแบบนั้นเลยสักนิด....
ทางฝั่งหนูนา นั่งหน้าเซ็งอยู่บนเตียงนอนหลังอ่านข้อความไลน์ของตุลา ร่างแกร่งเปลือยลุกขึ้นมานั่งประกบหลังหญิงสาวจูบหลังขาวเนียน จู๊บ จุ๊บ
“เขาไม่มา” หนูนาพูดนิ่งๆ
“อะไรวะ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายหนี้” บาสผละออกโวยวาย
“ก็หาเอาเองสิ!” หนูนาตวาดกลับ บาสโกรธกระชากหนูนานอนลงแล้วขึ้นคร่อมบีบคอเรียวออกแรงไม่หนักหน้าตาขึงขัง
“อีนี่ มึงมีหน้าที่หลอกเงินมันมาให้กู มึงก็ต้องทำ!”
“กูทำได้แค่นี้แหละ อีกไม่นานเขาก็เลิกกับกู มึงต้องหาทางรอดเอาเอง!” หนูนาตะคอกเสียงดังแววตาโกรธจัดพยายามงัดมือหนาออก
“มึงห้ามเลิกกับมัน ถ้ามันไม่มามึงก็โทรขอเงินมันมาให้ได้” บาส ออกแรงบีบคอหนักขึ้น
“เขาเป็นคนดี เลิกยุ่งกับเขาสักที” หนูนาพยายามพูดติดขัดหน้าแดงก่ำเริ่มหายใจไม่ออก บาสปล่อยมือกระชากผมจิกจนหนูนาแสบหนังหัวน้ำตาคลอ
“อย่าเสือกมาสั่งกู ถ้ามึงไม่ทำตามที่กูสั่ง มึงโดนดีแน่” บาสจ้องแววตาแข็งกร้าว กระชากมือออกแล้วลุก ร่างเปลือยเอาผ้าขนหนูพันรอบเอว หันมาชี้หน้าก่อนจะออกจากห้อง หนูนากัดปากแน่นสายตาอาฆาต เธอต้องทนทุกข์อยู่กับผู้ชายเลว ๆ ขี้ยาติดการพนันทำร้ายร่างกายเพราะความใจง่ายหนีพ่อแม่ตามมันมาอยู่กับมันที่กรุงเทพแรก ๆ ก็เป็นคนดีเอาใจอยู่นานไปก็เผยธาตุแท้ออกมา
