ตอนที่ 7 ความสงสารเป็นเหตุ
ณ บริษัท ที ซี พลัส
แทนไท หนุ่มหล่อหุ่นนายแบบ เพื่อนสนิทของตุลาเดินหล่อออร่ากระจายมาชั้นผู้บริหาร ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้สาว ๆ แผนกบัญชียิ้มเขินอายแอบมองแทนไทแล้วดีใจที่เขายิ้มตอบ สายตาคมเห็นหนูนานั่งอยู่ไกล ๆ เธอนั่งหน้านิ่งมองมาทางเขา แทนไทยิ้มให้ตามมารยาทแล้วเดินเข้าห้องทำงานของตุลา
“สวัสดีครับบอส” แทนไทยิ้มหน้าระรื่นทักเพื่อนรัก
“กลับมาไวจัง” ตุลาละจากจอคอมพิวเตอร์มามองเพื่อนชายเจ้าสำราญ
“แน่นอน คนมันเก่งเรื่องติดต่อธุรกิจแป๊บเดียวก็เรียบร้อย ”แทนไทยักคิ้วหน้ามั่นสุด แล้วทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ตรงข้ามตุลา
“เออ คนเก่ง..” ตุลาส่ายหน้าไปมาเอื้อมมือไปปิดหน้าจอคอม
“เห็นหนูนานั่งอยู่ข้างนอก แกยังไม่เคลียกับเขาอีกเหรอวะ”แทนไทเอ่ยถามปกติ ตุลานิ่งงัน
“ตั้งแต่ที่บอกว่าจะแต่งงาน เขาจะกรีดข้อมือ ก็ยังไม่กล้าพูดอีกเลยว่ะ” น้ำเสียงเขาเหมือนหนักใจหน้าตาเคร่งขรึม
“ก็แกมันใจอ่อนขี้สงสาร เขาเลยใช้ความน่าสงสารบังคับแกมาตลอดไง”
“หนูนาเขาน่าสงสารจริง ๆ เราไม่อยากให้เขาทำร้ายตัวเองอีก”
“แล้วเมียแกไม่น่าสงสารเหรอวะ มัวแต่สงสารคนอื่นไม่สงสารเมียตัวเอง” แทนไททุบโต๊ะมองเหวี่ยงโมโหแทนเมียแต่ง
“เอวารู้ว่าหลังแต่งงานต้องเจอกับอะไร เขาไม่ซีเรียสเรื่องหนูนา” ตุลาพูดแผ่วเบา มองกรอบรูปบนโต๊ะทำงานเป็นรูปเขากับเอวารินในชุดแต่งงาน แทนไทเห็นเพื่อนเหลือบมองกรอบรูปแล้วเห็นใจ
“ยัยหนูนาควรต้องรู้ตัวแล้วว่าต้องเจอกับอะไร ถ้าเป็นเราจะปล่อยให้นางกรีดข้อมือตั้งแต่ตอนที่บังคับให้แกคบกับนางแล้ว” แทนไทเบะปากเหยียดไม่ชอบหนูนา
“เราไม่ได้ใจแข็งยืนดูคนตายไปต่อหน้าได้”
“ฮึ....เชื่อไหม หนูนาไม่กรีดข้อมือหรอก ดีแต่ขู่แสดงเก่งระดับ ออสการ์ คนฉลาดอย่างนายดูไม่ออกเลยเหรอวะ”
“ก็รู้แหละ แต่ใจคนใครจะไปรู้ ถ้าหนูนาน้อยใจฆ่าตัวตายจริง ๆ เราจะรู้สึกผิดมาก”
“เอางี้ ถ้าวันไหนจะคุยกับยัยนั่นอีก บอกเราด้วย จะได้เตรียมรถพยาบาลกู้ชีพกู้ภัย ขนมารอให้หมดเลย กรีดข้อมือก็กรีดสิทีมช่วยเหลือเพียบ...คนบ้าอะไรขู่ฆ่าตัวตายให้ผู้ชายคบด้วย โคตรหน้าด้าน” แทนไทหงุดหงิดไม่ใช่แค่ไม่ชอบแต่เข้าขั้นเกลียดหนูนาที่บังคับเพื่อนรักแสนใจดีของเขามาคบด้วย พอตุลาปฏิเสธก็ขู่ว่าจะกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย ตุลาขี้สงสารเลยคบด้วยให้เธอสบายใจทั้งที่ไม่ได้รักหนูนาแต่ต้องทำดีและห่วงใยเพราะเป็นห่วงกลัวว่าหนูนาจะคิดสั้นอีก
ตุลานั่งเงียบขรึมเขาเองก็ไม่อยากให้เอวารินรู้สึกผิดที่คิดว่าตัวเองแย่งคนรักคนอื่น เขาคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าอาจสลัดหนูนาออกไปจากชีวิตไม่ได้เลยไม่แต่งงานกับใคร แต่กับเอวารินเขาปล่อยเธอผ่านไปไม่ได้ ถึงจะพยายามเฉย ๆ แต่กลับคิดถึง จนวันที่เธอขอเขาแต่งงานเขาไม่อยากเสียเธอไปให้คนอื่นรีบคว้าเธอไว้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับหนูนา เขาไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม กลัวว่าถ้าหนูนาฆ่าตัวตายประชดจริง ๆ เขาจะรู้สึกผิดบาปมากที่สุดในชีวิต....
เรือนหอของตุลากับเอวาริน บ้านหรูสไตล์โมเดรินหลังสีขาวติดกระจกบานใหญ่รอบบ้าน มีสระว่ายน้ำยาวอยู่ตรงกลาง กำแพงปิดมิดชิด บรรยากาศร่มรื่นเหมือนพักอยู่รีสอร์ต
เอวาริน รีบกลับมาแต่งตัวแต่งหน้าสวยเปรี้ยวจัดเต็ม ร่างบางลองสวมรองเท้าอยู่หลายคู่แล้วเลือกที่เหมาะกับชุดที่สุด ชุดกระโปรงผ้าไหมอิตาลีเว้าคอลึกเป็นระบายกระโปรงสั้นรัดสะโพก โซ่สีทองเส้นเล็กเป็นสายเกี่ยวผ้าด้านหน้าคล้องลงมาด้านหลังเนียนที่ไร้ผ้าปิดบัง เผยผิวหลังขาวเนียนเกือบถึงเอว ปัดผมลอนมาไว้ข้างลำคอ เพื่อดูแผ่นหลังเนียน หมุนซ้ายขวาสำรวจความเรียบร้อยแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องแต่งตัว
“อุ้ย..” เธอตกใจเมื่อเห็นสามีกำลังใส่ผ้าขนหนูจะเข้าไปอาบน้ำ เห็นร่างกายเขาทีไรใจสั่นทุกที
“...”
“วันนี้ วาออกไปเที่ยวกับเพื่อนสาวนะคะ บาย” หญิงสาวรีบบอกหันหลังขวับไม่อยากมองร่างกำยำนาน ตุลาคิ้วขมวดทันทีที่เห็นแผ่นหลังขาวเนียนของภรรยา
“ไปไหนทำไมต้องแต่งตัวโป๊ขนาดนั้น”
“ไนต์คลับค่ะ”
“ไปเปลี่ยนชุด” เขาเสียงแข็งทำหน้าดุ
“ขอเหตุผลหน่อยค่ะ” เอวารินเซ็ง ร่างบางหันมองหน้าหงุดหงิด
“มันโป๊”
“ไม่เปลี่ยนค่ะ นี่เป็นชุดที่โชว์น้อยที่สุดแล้ว”
“เปิดหลังเกือบถึงเอวเนี่ยนะโป๊น้อยสุด ถ้าไม่เปลี่ยนพี่ไม่ให้ไป” เขาหน้าเครียดน้ำเสียงไม่พอใจ หญิงสาวมองเหวี่ยงหลับตาทำใจ เขาคงยังไม่เคยชินกับผู้หญิงแต่ตัวเซ็กซี่สินะ เพราะเขาชอบผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อยอย่างหนูนา อีกหน่อยเขาก็ชิน ให้เวลาเขาหน่อยเอวาริน ให้เวลาเขาหน่อย เธอบอกตัวเองในใจแล้วลืมตาขึ้นเดินเข้าไปใกล้ร่างแกร่ง
“ยอมเปลี่ยนก็ได้ค่ะ แต่พี่ตุลต้องเป็นคนถอดแล้วใส่ให้เองนะ” เสียงหวานแผ่วเบามองยั่วยวน ตุลาเหมือนลมหายใจสะดุดถอยหลังหนีภรรยา
“....ไม่”
“สามีขา...ช่วยเมียถอดให้เมียหน่อยสิคะ...” มือเรียวจับสายโซ่ค่อย ๆ ดึงลงถึงต้นแขนเนียน ทำเสียงอ่อนเสียงหวาน จนเขาใจเต้นรัวมองผิวขาวเนียนของภรรยากลืนน้ำลยลงคอลำบาก เธอจับสายโซ่อีกเส้นค่อย ๆ ดึงออกเหมือนกัน มืออีกข้างรั้งเสื้อตรงหน้าอกไว้หากปล่อยสายสร้อยทั้งสองเส้นชุดจะหลุดร่วงลงพื้นทันที เอวารินแกล้งเดินเข้าไปใกล้ยื่นหน้าเข้าหาส่งสายตายั่วยวน ร่างแกร่งชนผนังหน้าตาเลิ่กลั่กรีบดึงสายโซ่บนแขนเนียนขึ้นไว้ที่ไหล่เหมือนเดิมแล้วทำเสียงแข็ง
“พอ ๆ อยากใส่อะไรก็เชิญ” สายตาคมหลุกหลิก ตอนที่มือสัมผัสผิวเนียนทำให้เขารู้สึกวาบหวาม
“ไปได้แล้วใช่ไหมคะ” เอวารินอมยิ้มแกล้งเขาสำเร็จ
“ถึงแล้วแชร์โลเคชั่นมาให้พี่ด้วย” เขาพูดติดขัดไม่กล้าสบตา
“ได้ค่ะ คุณสามีขา....จุ๊บๆ” เธอรับคำเสียงแจ๋ว มือบางเกาะไหล่หนาเขย่งเท้าจะหอมแก้มสามี เขาเบี่ยงหน้าหนี
“เอวา....” เสียงทุ้มทำเป็นดุทั้งที่เขินแต่ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน เอวารินยิ้มหวานเลิกแกล้ง ผละออกทำปากส่งจูบให้เขาแล้วเดินออกไปนอกห้อง ร่างบางรีบจ้ำขึ้นรถหรูปิดประตูเสียงดัง สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วชี้หน้าตัวเอง
