ตอนที่5
“อย่าพึ่งชะล่าใจไปออมรอเจอของจริงก่อน”
ไอรดาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอินทิราเพราะเห็นแม่สาวเจ้ามั่นใจนักหนาว่าจะรับมือได้เธอเองไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากหญิงสาวได้รู้ฤทธิ์พี่ชายของเธอจะยังพูดคำนี้อยู่หรือเปล่า
“ยัยเอม”
อรุณาจำต้องส่งเสียงต่ำดุคนเป็นลูกสาวที่กำลังจะทำให้ไก่ตื่น
แกร๊ก
“หืมมมม”
อรุณาเดินเข้ามาเปิดประตูห้องลูกชายของเธอกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องทำเอาอินทิราต้องยกมือขึ้นมาป้องจมูกเอาไว้
หญิงสาวมองเข้าไปด้านในห้องมีผู้ชายค่อนข้างจะตัวสูงใหญ่มัดกล้ามที่แทบจะโตกว่าตัวเธอหากเหวี่ยงมาฟาดที่ตัวเธอก็คงจะหักเป็นสองท่อนแล้วผมเผ้าหนวดเครารุงรังดูไม่เป็นผู้เป็นคนแถมในมือยังถือแต่ขวดน้ำเมาอีกต่างหากนี่หรือคือคนที่เธอต้องดูแลงานนี้ท่าทางจะหนักสำหรับเธอเสียแล้วหญิงสาวคิดในใจ
“ตาอิททำไมดื่มแต่ของแบบนี้กันแล้วข้าวนี่ก็ยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีกนะ”
อรุณานึกว่าลูกชายของเธอจะอาการดีขึ้นเสียอีกที่ไหนได้เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆจนเธอเริ่มใจเสียว่าลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาปกติเมื่อไร
“สงสัยอยากจะตายก่อนวัยอันควร”
ไอรดาเองก็ไม่ชอบที่จะเห็นพี่ชายของเธอเป็นเช่นนี้เหมือนกันแต่ด้วยความปากไวเลยอดพูดจาประชดประชันพี่ชายเธอไม่ได้ยิ่งคิดก็ยิ่งเคืองกรกนกและก็เคืองพี่ชายของเธอที่ไม่รักตัวเองเช่นนี้
“ยัยเอม”
อรุณาต้องคอยปรามความปากไวของไอรดาอยู่เรื่อยเธอรู้ว่าลูกสาวของเธอเป็ห่วงพี่ชายไม่อยากให้อะไรมากระทบจิตใจลูกชายของเธอตอนนี้เพิ่มขึ้นไปอีกแค่นี้มันก็แย่พออยู่แล้ว
“คุณเอมพูดถูกค่ะคุณแม่ดื่มแอลกอฮอล์หนักแบบนี้ตายไวจริงๆค่ะก่อนตายก็จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจโรคหลอดเลือดในสมองหัวใจวายตับแข็งตายหรือไม่ก็เป็นมะเร็งตับค่ะ...แล้วอีกอย่างคุณเป็นแบบนี้ก็ทำให้ครอบครัวคุณไม่สบายใจด้วยค่ะเห็นไหมคะว่าผลเสียมันเยอะขนาดไหน”
อินทิราเห็นว่าชายหนุ่มคงจะดื่มหนักอยู่พอควรเธอเองจึงต้องพูดถึงเรื่องผลเสียของแอลกอฮอลล์ให้ชายหนุ่มได้ฟังเธอรู้ว่าคนอย่างชายหนุ่มก็ต้องรู้เรื่องนี้มาพอสมควรแต่ก็ยังเลือกที่จะดื่มมันเข้าไปเธอจึงต้องยกเรื่องคนในครอบครัวของเขาให้เขานั้นได้ฉุกคิด
“......”
อรุณาจำต้องเอามือทาบอกที่อินทิราใจกล้ากว่าที่คิดขนาดเจอกันครั้งแรกก็สั่งสอนลูกชายเธอปาวๆขนาดนี้
ไอรดาเองก็ถึงกับอมยิ้มแบบแปลกใจเล็กน้อยนี่คงเป็นครั้งแรกละมั้งที่มีคนอื่นมากล้าสั่งสอนพี่ชายของเธอแต่เห็นว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันขอให้หญิงสาวกล้าแบบนี้ให้ตลอดเถอะจะได้คอยปรามพี่ชายของเธอได้บ้าง
“เธอเป็นใครมายืนแช่งผมปาวๆครับคุณแม่”
อิทธิกรถึงกับเลือดขึ้นหน้าเขาไม่คุ้นน้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้จึงร้องถามคนเป็นแม่ว่าแม่เขานั้นพาใครมาด้วยและกล้าดียังไงถึงได้มายืนพูดแช่งเขาปาวๆแบบไม่ไว้หน้าแบบนี้
“นี่หนูออมจะมาอยู่ที่นี่เป็นคนดูแลลูกไง”
“ฉันชื่อออมค่ะต่อไปนี้ฉันจะต้องมาดูแลคุณอิทเพราะว่าออมเป็นคู่หมั้นของคุณอิทค่ะ”
อินทิราถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันว่าเธอมาอยู่ที่นี่ทำไมและในฐานะอะไร
“ผมบอกคุณแม่แล้วไงครับว่าไม่ให้เธอมา”
อิทธิกรยิ่งได้ยินน้ำเสียงและถ้อยคำที่หญิงสาวพูดเขาก็เริ่มหงุดหงิดหนักขึ้นเขาเคยย้ำกับคนเป็นแม่เขาไปแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงที่เกิดจากการคลุมถุงชนมาแต่งงานและมาอยู่ใกล้เขาเด็ดขาดแต่นี่เหมือนคำพูดของเขาจะไม่มีใตรเชื่อฟังเลยสักนิด
“เอ่อก็น้องมาแล้วนี่นาอีกอย่างเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกัน”
อรุณายังพยายามพูดให้ลูกชายของเธอได้เข้าใจว่ายังอินทิราก็ต้องมาอยู่ดูแลลูกชายของเธอที่นี่
“พาเธอกลับไปครับ...ผมไม่แต่งงานแล้วก็ไม่ให้ใครมาดูแลทั้งนั้น”
อิทธิกรยื่นคำขาดว่ายังไงเขาก็ไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักและก็ไม่ต้องการให้ใครมาดูแลด้วย
“จะให้ออมกลับไปไหนคะออมต้องมาอยู่ที่นี่”
อินทิราถึงกับมองซ้ายมองขวาอย่างห่อเหี่ยวหัวใจเธอจะไปไหนไม่ได้เพราะอรดีแม่ใหญ่ของเธอก็ได้ให้เธอกลับไปแล้ว
“นี่เธอฟังฉันพูดบ้างไหมเนี่ยฮะ..ว่าฉันไม่ต้องการคนดูแลเธอกลับไปซะ”
อิทธิกรตวาดเสียงสั่นเครืออย่างโมโหที่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ฟังที่เขาพูดเลยสักนิดคำพูดที่ดูกวานประสาทนั่นก็ขัดใจเขาชะมัด
“เราออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะค่ะคุณแม่”
ไอรดาเห็นว่าตอนนี้ควรจะให้พี่ชายเธออารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนและเธอก็รู้อีกด้วยว่าสิ่งที่อินทิราพูดมาแต่ละคำถึงหญิงสาวจะไม่ได้คิดอะไรพูดไปตามใจนึกแต่มันก็ดูจะกวนประสาทพี่ชายของเธออยู่ดีจึงต้องพากันออกไปข้างนอกก่อนจะดีกว่า
“หนูออมยังคิดว่าจะรับมือกับพี่เค้าได้อยู่ไหมจ้ะ”
อรุณามีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อยกลัวว่าอินทิราจะถอดใจเมื่อเห็นพฤติกรรมของลูกชายเธอเมื่อครู่
“ได้ค่ะ...ยังไงก็ต้องได้”
อินทิราไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆอยู่แล้วเพราะถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ที่นี่เธอก็ไม่รู้ว้าเธอจะไปอยู่ที่ไหนคำประกาศิตของอรดีบอกให้เธอจะต้องอยู่ที่นี่
“ดีมากงั้นเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องเลยแล้วห้องครัวอยู่ทางด้านโน้นนะออม..ตอนเช้าๆจะมีแม่บ้านเอาของสดมาแช่ตู้ไว้ไม่ขาดถ้าอยากได้อะไรก็สั่งได้เลย”
ไอรดายิ้มออกเมื่อรู้ว่าอินทิราไม่ยอมถอดใจง่ายๆแบบนี้สิถึงจะเหมาะสมกับการเป็นพี่สะใภ้ของเธอหน่อยหญิงสาวจำต้องรีบบอกให้อินทิราเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องข้างๆของพี่ชายเธอพร้อมบอกเรื่องห้องครัวและอาหารเสร็จสรรพเพราะตอนนี้เธอจะปล่อยให้หญิงสาวอยู่กับพี่ชายเธอสองต่อสองแล้ว
“ค่ะพี่เอม”
อินทิราพยักหน้าเชิงเข้าใจ
“งั้นพี่กับแม่ต้องกลับก่อนแล้วหละออมจะจัดการกับพี่อิทยังไงก็ตามใจเลย...อ่ออีกเรื่องตอนนี้พี่อิทยังไม่ได้ทานข้าวเย็นออมจัดการด้วยนะ”
“ค่ะ”
ไอรดาเห็นว่าหญิงสาวเข้าใจทุกอย่างดีแล้วเธอจึงต้องชวนคนเป็นแม่กลับเพราคิดว่าทางนี้ให้ทั้งคู่นั้นดูแลกันเองจะดีกว่า
“ไปค่ะคุณแม่”
“อะ..เอ่อ..โชคดีนะหนูออม”
อรุณาไม่ลืมที่จะอวยพรให้ว่าที่ลูกสะใภ้หมาดๆของเธอให้โชคดีหวังว่าลูกชายเธอจะไม่อาละวาดจนหญิงสาวหวาดกลัวเหมือนเด็กในบ้านทุกคนตอนนี้หรอกนะ
“ดูซิมีอะไรให้ทำกับข้าวบ้าง”
หลังจากที่อรุณาและไอรดากลับไปแล้วอินทิราก็น้ำกระเป๋าเป้ของเธอไปเก็บในห้องพร้อมสำรวจรอบๆให้คุ้นเคยเล็กน้อยจึงออกมาเข้าครัวทำอาหารเย็นให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะนี่มันก็เริ่มจะมืดแล้วเธอกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนจากทานอาหารเย็นเป็นอาหารดึกแทน
อินทิราเห็นในตู้เย็นมีไข่อยู่เป็นสิบฟองหมูกับกุ้งอยู่อย่างละกล่องใหญ่และผักสดกับผลไม้ที่ค่อนข้างจะหลายอย่างอยู่แต่ที่ง่ายๆเลยก็คือเมนูผัดกระเพราที่เธอคิดว่ามันทำง่ายและทุกคนก็น่าจะชอบเหมือนที่เธอก็ชอบ
