ตอนที่4
“อันว่าจะไปทัวร์ยุโรปกับธันเค้าซะหน่อยน่ะค่ะไหนๆเราก็ได้เงินจากคนบ้านนั้นมาแล้วนี่คะ”
“นี่ไม่คิดจะอยู่บ้านอยู่ช่องบ้างเลยหรือไง”
“ก็บ้านมันน่าเบื่อนี่คะอันไปแล้วนะคะคุณแม่”
ตั้งแต่อันธิกาเรียนจบก็เอาแต่ผลาญเงินที่บ้านท่าเดียวงานก็ไม่เคยช่วยคนเป็นแม่แต่อรดีก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาวเธอเพราะเธอเลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เมื่ออันธิการู้ว่าได้เงินก้อนใหญ่มาก็หาเรื่องเที่ยวกับแฟนหนุ่มอีกเช่นเคย
ไร่แก้วกัลยา
“เอ่อ...คุณวิทคะอย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะคือออมอยากจะรู้น่ะค่ะว่าเจ้านายของคุณวิทเค้านิสัยเป็นยังไง”
“อืมม...คุณอิทก็เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับแต่ก็จะแอบขี้หงุดหงิดบ้างเล็กน้อยแต่คุณออมไม่ต้องกลัวไปก่อนนะครับคุณอิทก็ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไร”
“อืมม...ค่ะ”
ในระหว่างที่รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาในไร่ผ่านป้ายไร่แก้วกัลยาเข้ามาตอนนี้ใจของอินทิราเต้นแรงผิดปกติเพรารู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
ด้วยความที่อยากรู้นิสัยของคนที่เธอจะมาแต่งงานด้วยและดูแลเขาในช่วงที่ชายหนุ่มนั้นยังมองไม่เห็นเธอเองก็อยากจะรู้นิสัยของชายหนุ่มคร่าวๆก่อนเพื่อที่จะรับมือถูกเธอรู้มาว่าวิทวัสเป็นคนสนิทของอิทธิกรจึงสอบถามเสียตอนนี้เลย
เรือนใหญ่
“สงสัยจะมาถึงกันแล้ว”
“ค่ะ”
อรุณามองออกไปหน้าบ้านก็เห็นรถที่วิทวัสขับไปรับลูกสาวของอรดีมาถึงแล้วจึงรับเรียกไอรดาให้ออกมาต้องรับคนมาใหม่ที่หน้าบ้าน
“นี่คุณณาเป็นแม่ของคุณอิทแล้วนี่ก็น้องสาวคุณอิทคุณเอมครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“จ้า...มาเหนื่อยๆเข้าบ้านกันก่อนดีกว่า”
หลังจากที่ทั้งสามทักทายทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้วอรุณาก็เชิญอินทิราเข้ามาในบ้านเพื่อให้ได้พักเพราเดินทางมาน่าจะเหนื่อย
“หนูออมยินดีที่จะมาดูแลพี่เค้าใช่ไหมจ้ะ”
“ค่ะคุณณา”
“เรียกคุณแม่เถอะเดี๋ยวอีกหน่อยพี่เค้าหายดีหนูก็ต้องแต่งงานกับพี่เค้าแล้ว”
“ค่ะคุณแม่”
อรุณาดูท่าทางหญิงสาวกิริยามารยาทหน้าตาท่าทางก็น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อยถึงเธอจะใช้เงินซื้อตัวเธอมาแต่เธอก็หวังว่าหญิงสาวจะเต็มใจดูแลลูกชายของเธอตามที่พูดมาก็แล้วกัน
“นี่ก็ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้วเดี๋ยวหนูออมทานอาหารกันก่อนเดี๋ยวแม่จะพาไปส่งที่เรือนเล็กก็แล้วกัน”
“คะ??..เรือนเล็ก”
นี่ยังไม่ถึงที่อยู่จริงๆของเธออีกเหรอหญิงสาวคิดในใจอินทิราคิดว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เสียอีกเลยมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“แม่ลืมบอกไปว่าตาอิทเค้าอยู่ที่เรือนเล็กท้ายไร่น่ะจะที่นั่นค่อนข้างเงียบสงบตาอิทก็เลยเลือกอยู่ที่นั่นหนูออมไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
อรุณาเองก็ลืมบอกกับหญิงสาวเองตั้งแต่แรกว่าจะต้องไปอยู่เรือนเล็กท้ายไร่กับลูกชายของเธอเมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจของอินทิราจึงรีบถามว่าเธอติดปัญหาอะไรหรือเปล่าถ้าจะต้องไปอยู่ที่นั่นเพราะเรือนเล็กค่อนข้างที่จะคับแคบกว่าที่เรือนใหญ่นี้อยู่มาก
“อะ..เอ่อ..ไม่มีค่ะ”
อินทิรารีบสั่นหัวพัลวันเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ที่เธอมีสีหน้าแปลกใจเพราะเธอไม่ได้รู้มาก่อนว่าจะต้องอยู่อีกที่เท่านั้นเอง
“อายุเท่าไรแล้วเราอะ”
“26ค่ะ”
“งั้นเรียกฉันว่าพี่แล้วกันฉันแก่กว่าเธอถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาฉันได้ตลอด”
“ค่ะพี่เอม”
ในระหว่างการทานอาหารทั้งสามก็มีพูดคุยทำความคุ้นเคยกันนิดหน่อยโดยเฉพาะไอรดาที่คอยหาเรื่องคุยกับอินทิราอยู่ตลอด
“นี่ของเรามีแค่นี้เองเหรอออม”
หลังจากทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่ไอรดากับอรุณาจะไปส่งหญิงสาวที่เรือนเล็กไอรดาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวนั้นมีกระเป๋ามาแค่ใบเดียวผู้หญิงที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่แค่วันสองวันนั้นจะมีสัมภาระแค่นี้เองหรือ
“ค่ะพี่เอม”
อินทิราพยักหน้าตอบคนเป็นพี่สาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มของใช้ที่จำเป็นของเธอก็มีอยู่แค่ที่เห็นนี่แหละ
“อืมม..งั้นไปกันได้แล้ว”
ไอรดาเห็นว่าหญิงสาวยืนยันว่ามีของแค่นั้นก็รีบขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปที่เรือนเล็กท้ายไร่ทันที
“ที่นี่เป็นธรรมชาติมากเลยนะคะ”
อินทิราเดินลงจากรถพร้อมกระเป๋าของเธอที่แบกอยู่ที่หลังหญิงสาวมองไปรอบๆด้วยความแปลกตาแม้ว่าแสงสว่างจะสลัวๆแล้วเธอก็ยังรู้ว่าที่นี่สวยงามใช่เล่นแถมยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รายล้อมอยู่อีกด้วย
“หนูออมชอบที่นี่หรือเปล่าจ๊ะ”
อรุณาเห็นอินทิรามีสีหน้าค่อนข้างที่พอใจเมื่อเห็นบ้านหลังนี้เธอเห็นแบบนี้ก็สบายใจได้กลัวว่าลูกคุณหนูอย่างอินทิราจะไม่ชอบเสียอีก
“ชอบค่ะบ้านหลังนี้เล็กๆน่ารักดี”
อินทิราตอบกลับอรุณาอย่างรวดเร็วแบบนี้แหละที่เธอโคตรจะชอบเลย
“เรื่องแต่งงานแม่ว่าจะให้ตาอิทรักษาตาจนหายดีก่อนแล้วค่อยจัดงานแต่งหนูออมว่าดีไหม...ตอนนี้หนูออมก็ดูแลพี่เค้าไปก่อน”
เมื่อตอนก่อนจะมาอรุณาเองก็ลืมคุยเรื่องนี้กับอินทิราไปเลยไหนๆก็มาถึงตอนนี้แล้วเธอก็คิดว่าควรจะตกลงกับหญิงสาวเรื่องงานแต่งงานเสียก่อนใจจริงถ้าหากเป็นไปได้เธอก็อยากให้ทั้งสองแต่งกันเสียเลยแต่เอาความจริงทั้งสองยังไม่ได้รู้จักกันแม้แต่นิดเดียวควรที่จะให้ทั้งสองศึกษากันก่อนจะดีกว่าอีกอย่างก็อยากจะให้พ้นการรักษาดวงตาของลูกชายเธอไปก่อนอีกด้วย
“ออมคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะคุณแม่”
อินทิราพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับอรุณามันเป็นความคิดที่ดีมากสำหรับเธอ
“งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะจะ”
“ค่ะ”
“เอ่อแม่ลืมบอกอีกอย่างว่าช่วงนี้พี่เค้าค่อนข้างเจ้าอารมณ์สักนิด”
“ออมรู้แล้วค่ะคุณแม่..แต่ไม่เป็นไรค่ะออมคิดว่าออมรับมือได้”
ทั้งสามเข้ามาข้างในบ้านเรียบร้อยแล้วก็คุยสัพเพเหระกันนิดหน่อยอรุณาจำต้องบอกกิตติศัพท์ของลูกชายเธอตอนนี้ให้อินทิราได้ฟังก่อนเพื่อที่หากหญิงสาวเจอกับลูกชายของเธอจะได้ไม่ตกใจ
อินทิราเองก็พอรู้นิสัยคร่าวๆของอทธิกรจากวิทวัสมาบ้างแล้วเธอเองคิดว่าคนเราคงจะไม่มีอาการอารมณ์เสียตลอดเวลาหรอกอีกอย่างตอนที่เธออยู่ที่บ้านคนที่บ้านของเธอก็มักจะทำอารมณ์เสียใส่เธอจนเธอชินกับอารมณ์คนแบบนี้เสียแล้ว
