บท
ตั้งค่า

บทที่5:ภาพในอดีตหวนคืน

ภายในห้องทำงานโบราณ แสงสลัวจากโคมไฟหัวเสาค่อย ๆ ลอดผ่านม่านกำมะหยี่สีเข้ม กลิ่นกำยานเก่ายังคงลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ราวกับเฝ้าหล่อเลี้ยงความทรงจำที่ไม่เคยจางหาย

ตรัยยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ เพิ่งวางกระเป๋าลงบนโต๊ะเมื่อเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

“ปรับสัญญาการจ้างงานของเธอเสีย”

น้ำเสียงไม่ดังนัก แต่เปี่ยมด้วยอำนาจจนไม่อาจตั้งคำถามกลับไป

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนเอ่ยด้วยความระวัง “ขออภัยครับ...หมายถึงคุณพาขวัญหรือครับ?”

“ใช่” ณรัณย์ตอบเรียบเย็นโดยไม่หันกลับมา

“เพิ่มค่าจ้างให้มากพอ...มากพอที่เธอจะไม่มีเหตุผลใดจะจากไปง่าย ๆ ขยายสัญญาให้นานที่สุด—แต่ต้องแนบเนียน อย่าให้เธอระแคะระคาย”

“รับทราบครับ ผมจะดำเนินการทันที”

ณรัณย์ยังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ม่านฝ้าสีซีดบดบังแสงแดดอ่อนในยามเช้าให้หม่นมัว

เขาเอ่ยต่อโดยไม่ละสายตาจากภาพตรงหน้า

“อีกอย่าง...เตรียมรถคันใหม่ไว้ด้วย”

ตรัยนิ่งไปนิด ก่อนถามกลับด้วยเสียงนุ่มต่ำ “คุณท่านต้องการใช้รถเมื่อใดหรือครับ?”

มุมปากของณรัณย์กระตุกยิ้มจาง ๆ คล้ายกับซ่อนความหมายบางอย่างไว้เบื้องหลัง

“หากเธอเริ่มจำได้มากกว่านี้เมื่อไหร่...เราคงต้องเดินทาง”

เขาหยุดไปชั่วอึดใจ แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ลึกเย็นจนแทบชอนไชเข้าไปในกระดูก

“และจุดหมายนั้น...ไม่ใช่ที่ที่มนุษย์ทั่วไปจะไปถึงได้”

ตรัยนิ่งงัน ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “ผมจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมครับ ไม่มีข้อผิดพลาด”

ณรัณย์ขยับหันกลับมาน้อย ๆ ดวงตาสบกับเงาสะท้อนในกระจกกรอบไม้เก่าแก่ ริมฝีปากยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

“รู้สึกอย่างไร...ที่ได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง?”

ความเงียบงันคล้ายปกคลุมทั่วห้อง ก่อนเสียงหนึ่งจะดังขึ้นในความว่างเปล่า

เสียงนั้นแหบพร่า...แต่เปี่ยมด้วยความรู้สึกเร้นลึก

“เขา...ไม่หลงเหลือความทรงจำอะไรอีกแล้วในชาตินี้”

ณรัณย์ยิ้มบาง ๆ ดวงตาเป็นประกายเย็นเฉียบ

“แล้วนายจะปล่อยให้ทุกอย่าง...ผ่านไปเฉย ๆ อย่างนั้นหรือ?”

ตรัยยืนนิ่งราวถูกตรึงอยู่กับที่ คำพูดนั้นราวกับเป็นประตูที่เปิดเผยความทรงจำซึ่งเขาไม่เคยลืมจริง ๆ

ภาพอดีตค่อย ๆ ไหลย้อนเข้ามา เงาแสงจากโคมไฟในห้องพร่าเลือน กลายเป็นแสงอรุณสีหม่นจากฟากฟ้าอีกภพหนึ่ง

ในอดีตชาติ เขาไม่ใช่ตรัย แต่เป็นนักรบหนุ่มแห่งแดนเหนือ

ข้างกายคือ “เพิ่ม” ชายหนุ่มผู้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาเสมอ—ผู้ที่เรียกเขาว่า “พี่” แม้มิได้มีสายเลือดเดียวกัน

ความผูกพันระหว่างพวกเขาแน่นแฟ้นกว่าสายใดในโลก

เขาจำได้ดี...แววตาอันศรัทธาของเพิ่มทุกครั้งที่พูดถึง “อนาคตที่เราจะสร้างด้วยกัน”

แต่อนาคตนั้น...กลับพังทลายเพราะความผิดพลาดหนึ่งเดียว

ในความทรงจำสุดท้าย เสียงฟ้าผ่าดังลั่นเหนือลานหิน

และเพิ่ม...ทรุดตัวลงกับพื้น

ดาบในมือที่ปักลงตรงหน้าตนเอง—ไม่ใช่ของศัตรู แต่เป็นดาบของเขาเอง

“ข้า...ไม่เคยโทษพี่” เพิ่มพูดด้วยลมหายใจรวยริน ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอาลัย

“แต่ข้าอยากให้พี่รู้...ว่าข้ายังภักดี แม้หัวใจจะถูกหักไปแล้วก็ตาม”

“เจ้าเห็นอยู่แล้วว่าใครคือศัตรูที่แท้จริง...แล้วทำไมถึงยัง...”

“เพราะบางความจริง...มันเจ็บยิ่งกว่าความตาย”

ก่อนที่เขาจะทันคว้าอะไรไว้ได้—เพิ่มตัดสินใจจบชีวิตตนเอง

และเสียงร้องไร้ถ้อยคำของเขาในวันนั้น ยังคงสะท้อนกลับมาในทุกลมหายใจ

ตรัยสะบัดศีรษะเบา ๆ ดึงตนเองกลับคืนสู่ปัจจุบัน

แสงจากโคมไฟยังส่องสว่างไม่เปลี่ยน...แต่ภายในเขา ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ณรัณย์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เงียบ แต่ลึก

ดวงตานั้นจ้องตรัยราวกับอ่านทะลุถึงทุกเศษเสี้ยวในใจ

“มันเจ็บใช่ไหม...เมื่อความจริงในอดีตเริ่มรื้อฟื้นขึ้นมา” เสียงเขาเบาแต่เฉือนลึก

ตรัยหลุบตาลงช้า ๆ “ผมนึกว่าลืมไปแล้ว...แต่ความรู้สึกนั้นยังอยู่ครบถ้วนทุกส่วน”

ณรัณย์พยักหน้าช้า ๆ ก่อนเดินผ่านเขาไป เงาของร่างสูงทอดยาวพาดบนพื้นเย็นเฉียบ ราวกับเงาจากอีกโลกหนึ่ง

เขาทิ้งท้ายไว้ด้วยถ้อยคำแผ่วเบา

“และในครั้งนี้...นายควรเลือกให้ถูก ว่าจะรักษา...หรือทำลายมันอีกครั้ง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel