บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 เจ้าของคนใหม่

รีสอร์ต แสนรัก

“คุณน้ำคะ เดี๋ยววันนี้ช่วงบ่ายคนที่จะมาเป็นเจ้าของรีสอร์ตจะมาเข้ามา รบกวนคุณน้ำแนะนำและพาชมรีสอร์ตด้วยนะคะ ” 

“ได้ค่ะคุณแก้วตา” น้ำ หรือ พัชชาภา วิไลลักษณ์ หญิงสาวอายุยี่สิบเก้าปี เธอทำงานเป็นผู้จัดการของรีสอร์ต แห่งนี้มาสามปีกว่าแล้ว เนื่องด้วยเจ้าของคนเดิมคือแก้วตา ที่พึงจะแต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติ เธอจึงต้องย้ายตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ จึงได้ตัดสินใจที่จะขายรีสอร์ตแห่งนี้ ให้กับคนที่รู้จักอีกทีหนึ่ง

เมื่อถึงเวลา น้ำและแก้วตาจึงออกมารอว่าที่ต้อนรับว่าที่เจ้าของคนใหม่ ไม่นานนักก็มีรถคันหรูเข้ามาจอดเทียบ พัชชาภายืนเกร็งด้วยความประหม่า เตรียมพร้อมเพื่อจะได้ต้อนรับเต็มที่ ต่างกับแก้วตาที่มีท่าทีสบาย ๆ

เพียงครู่เดียว ชายหนุ่มรูปร่างสูงโป่รง แต่งกายเรียบ ๆ แต่ดูหรูหราก้าวลงมาจากรถ พัชชาภาลอบมองชายคนนั้นผู้ที่จะมาเป็นเจ้านายคนใหม่ แต่แล้วก็ต้องเสมือนตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาเบิกกว้าง มือไม้สั่น จนต้องบีบมือตนเองจนแน่นรีบก้มหน้าลงทันที

ไม่ใช่ ไม่ใช่เขาใช่ไหม แค่คนหน้าเหมือน คงไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกนะ 

เป็นไปตามคาด เป็นเขาจริง คนที่เธอเคยทำผิดต่อเขาไว้ พัชชาภาพยายามข่มใจไม่ให้นึกถึงอดีตที่ผ่าน ในขณะที่กำลังสับสนอยู่นั้น เสียงเรียกของแก้วตาก็ดังขึ้น

“คุณน้ำคะนี้ คุณชาวิน ว่าที่เจ้าของคนใหม่ที่มาดูรีสอร์ตวันนี้ค่ะ”

“คะ..ค่ะ” พัชชาภาสะดุ้งเล็กน้อย เธอจำต้องเงยหน้าขึ้น

“สะ..สวัสดีค่ะคุณชาวิน ฉันพัชชาภา วิไลลักษณ์ หรือน้ำค่ะ เป็นผู้จัดการในส่วนรีสอร์ตที่พักค่ะ” เธอพยายามคุมไม่ให้น้ำเสียงสั่น

“น้ำ…” ชายหนุ่มถอดแว่นตาดำแบรนด์หรูออกเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อคมได้ชัดเจน และเป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ชาวินเอ่ยเรียกชื่อหญิงเธออย่างคุ้นเคย เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงมองพัชชาภา อย่างตั้งใจจนทำให้อีกฝ่ายร้อนรนขึ้นมา

เป็นเธอจริง ๆ หลายปีมานี้ฉันพยายามจะลืมเธอแล้วนะ

“รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ” แก้วตาเอ่ยขึ้นเมื่อแล้วทั้งสองจ้องกันไปมา

“เอ่อไม่ ไม่ค่ะ” พัชชาภาเอ่ยขึ้นมาทันที

“ครับ..ผมคงจำคนผิด” ชาวินก็ปฏิเสธออกไปเช่นกัน เขามั่นใจว่าต้องเป็นเธอแน่ ๆ คนที่เขาเคยรักเมื่อสี่ปีที่แล้ว และเธอก็ทำเขาไว้ได้เจ็บแสบ จนเขาไม่มีวันลืมเธอได้

“คุณน้ำเป็นผู้จัดการของรีสอร์ตนี้นะคะ เธอเก่งมาก ๆ เลย จัดการดูแลแก้ปัญหาต่าง ๆ ในรีสอร์ตนี้ได้ทุกอย่าง เดี๋ยวแก้วจะให้คุณน้ำพาคุณชาวิน ดูรีสอร์ตให้ทั่วเลยนะคะ”

“ได้ครับ ท่าจะเก่งจริงถึงแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง” ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงเน้นแน่น มองที่พัชชาภาอย่างจงใจ

พัชชาภายังคงยืนนิ่ง เธอประหม่าจนทำตัวไม่ถูก

“เอ่อ…คุณน้ำเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” แก้วตาเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ของพัชชาภา

“ปะ เปล่า ๆ ค่ะ เดี๋ยวน้ำพาคุณชาวินไปดูรอบ ๆ รีสอร์ตก่อนนะคะ”

“ฝากด้วยนะ” แก้วตาเอ่ยบอกเธอก่อนจะขอตัวออกไป

“เชิญด้านนี้ค่ะคุณชาวิน” เธอผายมือเชิญแล้วก้าวเดินเพื่อนำทางชายหนุ่ม และค่อยแนะนำถึงส่วนงานต่าง ๆ

“พริมา…” จู่ ๆ ชาวินก็เอ่ยขึ้น

“คะ…เอ่อ…ฉันชื่อพัชชาภาค่ะ” เธอเกือบจะหลุดขานรับแล้ว แต่ก็ยังแก้ตัวได้ทัน

“อ๋อ พัชชาภาสินะ พอดีคุณเหมือนคนที่ผมเคยรู้จักนะครับ เธอชื่อพริมา วงษ์วิไล ชื่อเล่นชื่อน้ำเหมือนคุณเลย รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกันจนผมเผลอจำผิด” 

คงเปลี่ยนชื่อมาใหม่สินะ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นเธอพริมา ฉันจำเธอได้ไม่มีวันลืม…

แววตาเฉยชาของเขา มองเธอด้วยความรู้สึกมากมายโดยเฉพาะความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอก

“อ๋อค่ะ ต่อไปจะเป็นส่วนของไร่นะคะ แต่มันไกลมากคุณชาวินนั่งรถไปคันนี้ไปนะคะ เดี๋ยวจะมีผู้จัดการฝ่ายไร่แนะนำอีกทีค่ะ” พัชชาภาชี้ไปที่รถกอล์ฟ ที่ใช้สำหรับวิ่งในรีสอร์ตและไร่ซึ่งมีคนขับนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธออยากจากปลีกตัวออกมาให้เร็วที่สุด ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับเขาอีก เพราะเรื่องที่เธอทำกับเขา เขาคงเกลียดเธอมาก

“แล้วคุณล่ะ” ชาวินถามกลับเมื่อเห็นหญิงสาวเหมือนจะให้เขาไปคนเดียว

“เดี๋ยวน้ำไปอีกคันค่ะ คุณชาวินจะได้นั่งสบาย ๆ ไม่ต้องเบียดกัน”

“ไปด้วยกันสิครับ คุณจะทิ้งผมไว้กลางทางเหมือนที่เคยทำอีกเหรอครับ” คำพูดและแววตาของชาวินจ้องมองเธอเขม็ง

“อะไรนะคะ” เธอแทบจะไม่เชื่อที่หูตัวเองได้ยิน จึงได้ถามเขากลับ

“ขอโทษที่ครับ ผมชอบคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงคนนั้นตลอดเลย คุณเล่นเหมือนอย่างกับเป็นคนเดียวกันเลย” ชาวินยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก

“คุณ…..” พัชชาภาพูดไม่ออก เธอรู้แก่ใจว่าชาวินจำเธอได้อยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเธอก็ผิดต่อเขาจริง ๆ แต่เธอก็เลือกที่จะเงียบไว้ เพราะไม่อยากมีปัญหา สถานะของเธอตอนนี้ต้องกอดงานนี้ไว้ให้แน่นที่สุดเพราะยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เธอต้องเลี้ยงดูอีก

“ว่าไงครับคุณน้ำ”

“เชิญขึ้นรถค่ะ เดี๋ยวน้ำขับให้เอง” เธอเอ๋ยบอกเขาแล้วหันไปบอกคนงานที่อยู่บนรถ และตัวเธอเองก็ขึ้นไปขับแทน โดยมีชาวินก็ขึ้นมานั่งข้าง ๆ เธอ ระยะทางไกลพอสมควร ขนาดขับรถมาก็ใช้เวลาเกือบห้านาทีได้ ตลอดสองข้างทาง บรรกาศที่นี้ถือว่าดีมาก ๆ ลอมล้อมไปด้วยภูเขาสูงต่ำสลับกันไป

ชาวินเหม่อมองวิวข้างทาง แล้วหันมามองทางพัชชาภา ห้วนให้นึกถึงเรื่องเมื่อสี่ปีที่แล้ว

สี่ปีก่อน

ชาวินและน้ำ หรือพริมา วงษ์วิไล เขาทั้งสองคนเป็นคนรักกันที่คบหากันตั้งแต่อยู่มหาลัยปีหนึ่ง ทั้งสองรักกันอย่างลึกซึ้ง แต่ทางบ้านของชาวิน ซึ่งแม่ของชายหนุ่ม หรือคุณหญิงนิภา นั้นได้หมั่นหมายเขากับลูกสาวเพื่อนสนิทที่อยู่ในกลุ่มคุณหญิงคุณนายด้วยกัน โดยบ้านของชาวินนั้นจัดว่ารวยมาก ๆ ครวบครัวของเขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของประเทศ

แต่ชาวินก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพริมาเลย เขาจึงมั่นใจว่า หญิงสาวนั้นรักเขาด้วยใจจริง มิใช่ฐานะทางครอบครัว ชาวินจึงผิดใจกับคุณหญิงนิภาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อแม่ของเขานัดหญิงสาวที่หมั่นหมายไว้ให้เจอกัน แต่ชาวินก็มักจะปฏิเสธตลอด และเลือกที่จะทำตามใจตนเอง และพริมาคือผู้หญิงที่เขาเลือกโดยไม่ฟังคำคัดค้านจากแม่ของเขา ทำให้คุณหญิงนิภา พาลโกรธและเกลียดพริมาไปโดยปริยาย คุณหญิงนิภาจึงได้จ้างนักสืบค่อยตามดูลูกชายตน ว่าคบหากับผู้หญิงที่ไหนอยู่

พริมาเธอมีใบหน้าที่น่ารักเป็นที่ต้องตาเมื่อพบเจอ ตอนที่ชาวินเจอเธอครั้งแรกเขาก็ตกหลุมรักเธอทันที และเธอเองก็ตกหลุงรักชาวินเช่นกัน ทั้งสองก็ได้คบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…..

ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงออฟฟิศส่วนงานไร่ พัชชาภาจอดรถกอล์ฟหน้าออฟฟิศ โดยมี ปกรณ์ ผู้จัดการฝ่ายไร่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“คุณชาวินค่ะ นี้คุณปกรณ์ เป็นผู้จัดการฝ่ายไร่ค่ะ”

“สวัสดีครับ” ปกรณ์เอ่ยสวัสดีทักทายตามมารยาท

“พี่กรนี้คุณชาวินนะคะ ว่าที่เจ้าของคนใหม่ของรีสอร์ทต่อจากคุณแก้วตา”

“สวัสดีครับคุณปกรณ์”

เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ปกรณ์จึงได้พาชาวินดูรอบ ๆ ไร่แห่งนี้ พัชชาภาจึงทำได้แค่เดินตามทั้งสองและคอยลอบมองชาวินอยู่ห่าง ๆ

เขายังดูเหมือนเดิมเลย แต่คงเกลียดฉันมากแน่ ๆ

เธอถอนลมหายใจออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว ชาวินกับปกรณ์ที่อยู่ด้านหน้าจึงหันมามอง

“น้ำเป็นอะไร” ปกรณ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ทำให้ชาวินถึงกลับมองปกรณ์และพัชชาภา และสงสัยกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่ก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าเขาจะสนใจไปทำไมกัน เขาเกลียดผู้หญิงหิวเงินคนนี้จนเข้าไส้

“เปล่าค่ะพี่กร พอดีน้ำได้กลิ่นอะไรแปลกเลยหายใจแรง ขอโทษด้วยนะคะ” เธอรีบหาข้ออ้าง

“นี้ก็บ่ายสามกว่าแล้ว ไม่ไปรับลูกเหรอ”

ปกรณ์เอ่ยบอกหญิงสาว

ทำให้ชาวินที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกเจ็บจี๊ดข้างในลึก ๆ

ลูกเหรอ คำพูดนี้ผุดขึ้นในใจของชาวิน

“อ๋อใช่ น้ำลืมไปเลยพี่” เพราะมัวแต่ต้อนรับและพาเจ้านายคนใหม่ชมรีสอร์ตอยู่ ทำให้เธอลืมไปเสียสนิทว่านี้ได้เวลาเลิกเรียนของเจ้าเด็กแสบ น้องดนตรีเด็กชายวัยสามขวบกว่า ๆ

“น้ำขอตัวก่อนนะคะ” พัชชาภากล่าวก่อนจะปลีกตัวออกมาเพื่อไปรับลูกชาย ที่ศูนย์้ด็กเล็กใกล้ ๆ รีสอร์ต

“เชิญครับ” ชาวินกล่าวเสียงเรียบ

“เดี๋ยวผมจะพาคุณชาวิน ไปดูส่วนต่าง ๆ ของไร่ต่อนะครับ”

“แล้วคุณปกรณ์ไม่ไปรับลูกด้วยเหรอครับ” ชาวินเอ่ยหยั่งเชิงดู เขาอยากรู้ว่าผู้จัดการฝ่ายไร่คนนี้เป็นอะไรกับเธอกันแน่

“อ๋อ…ไม่หรอกครับ” ปกรณ์ยิ้มรับท่าเขิน

“ผมก็อยากจะไปด้วยน่ะ แต่ติดที่ไม่ใช่พ่อของเจ้าดนตรี”

“อ๋อ ผมคิดว่าคุณปกรณ์กับคุณน้ำจะเป็นคู่รักกันซะอีก” ชาวินลอบสังเกตท่าทีของปกรณ์

“ไม่ใช่หรอกครับถึงผมจะอยากเป็นมากแค่ไหน น้ำเขาไม่เคยเปิดใจเลย” น้ำเสียงปกรณ์บ่งบอกถึงความผิดหวัง

“ครับ เขาว่ากันว่าผู้หญิงที่ไม่เปิดใจ มักจะมีอดีต”

“ผมก็ไม่เคยรู้อดีตของเธอเลยครับ น้ำพึงจะมาทำงานที่นี้ได้สามปีกว่า ตอนนั้นเจ้าดนตรียังแบเบาะอยู่เลย ส่วนพ่อของดนตรีผมก็ไม่เคยเห็นเลยครับ”

คงจะเป็นชู้ของเธอตอนนั้นสินะ ส่วนเด็กคนนั้นก็คงจะเป็นลูกชู้

ชาวินกัดฟันจนสันกรามขึ้นเป็นแนว เขานึกถึงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อสี่กว่าปีก่อน เหตุการณ์ที่ทำให้ชายกหนุ่มเจ็บช้ำ เสียใจจนแทบจะบ้าตาย…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel