Ep.2
“ไม่ได้โกหกครับ ผมมีเจ้าสาวของผมแล้วจริงๆ” ตายห่า! เจ้าสาวของเขาสิงสถิตอยู่แห่งหนตำบลใดกัน พูดออกไปได้ รสรินงั้นหรือ คือว่าที่เจ้าสาวของเขา ใช่แล้ว! ก็แค่โทรหาหล่อนกริ๊กเดียว ก็เรียบร้อยแล้ว แต่...เขาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าคิดจะแต่งงานกับรสรินจริงๆ
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น แกต้องพาเมียของแกมาที่บ้านวงศ์พิพัฒน์ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันนี้” นี่คือประกาศิต ที่คุณนายสายสมรบัญชา
“ได้ครับแม่” ธนาวินรับปากทันที ทั้งๆ ว่าที่เจ้าสาวที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นเธอ ยังอยู่ที่เมืองนอก
หนุ่มหล่อเจ้าสำราญถอนหายใจยาวออกมาอย่างคิดหนัก ถ้าหากว่ารสรินกลับมาไม่ทันภายในสามวันนี้ล่ะ เขาจะทำยังไง ในเมื่อรับปากท่านไปแล้ว ถ้าหากบิดพลิ้วผลัดวันประกันพรุ่ง แม่ของเขาต้องไม่เชื่อคำพูดของเขาอีกแน่ แต่ว่าเขาจะโทรไปพูดเรื่องนี้กับรสรินแน่หรือ
ขณะที่สองสาวกำลังเม้าธ์กระจายกันอยู่ ร่างสูงก็ถอดแว่นตากันแดดออก แล้วเดินเข้าไปหาสาวสวยทั้งสอง เพื่อที่จะบอกน้องสาวของเขาว่า
“พี่ขอตัวไปหาเพื่อนที่ห้างหน่อยนะ เย็นๆ จะพาไปทานอาหารอร่อยๆ กัน”
“ตามสบายค่ะ พี่วิน”
เมื่อเดินออกไปเกือบจะพ้นประตูบ้าน สายตาคมกริบก็ไปสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นหนังสือของน้องสาว ชายหนุ่มเพียงแค่จะจัดมันให้เข้าที่เท่านั้น เพราะหนังสือเล่มนั้นมันโผล่ออกมา เพราะธีระวรรณรีบเอาไปใส่ไว้บนชั้นด้วยความรีบเร่ง
แต่ความอยากรู้หนึ่งก็ฉุดให้สองเท้าหยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อเปิดมันออกอ่าน บทความบางตอนในหนังสือเล่มนั้น ทำให้ชายหนุ่มต้องพลิกไปยังอีกหน้าก่อนนั้น แล้วพลิกหน้าถัดไป แล้วก็ถัดไป จนจบตอน และเมื่อพลิกกลับไปดูหน้าปก ดวงตาคมกริบต้องอึ้ง เป็นรอบที่สอง ‘จินดารา เธอเองเหรอ ที่เป็นคนเขียนหนังสือนิยายเล่มนี้’
“ได้โปรดนะคะคุณวิน อย่าทำอะไรน้ำผึ้งเลย เราไม่ใช่ผัวเมียกันจริงๆ นะคะ” ชญาดาพยายามถอยหนีพนาวินด้วยท่าทางหวาดกลัวและตื่นตระหนก
“ทำไมจะไม่ใช่ เราแต่งงานกันแล้ว แล้วก็...จดทะเบียนกันแล้วด้วย เพราะฉะนั้นคืนนี้คุณต้องเป็นของผม ทั้งคืน”
คนที่กำลังเมาได้ที่เริ่มรุกรานภรรยาของตนเอง เพราะฤทธิ์ของความหึงหวงที่คละเคล้าไปกับฤทธิ์ของน้ำเมาทำให้ชายหนุ่มหมดสิ้นซึ่งการควบคุมอารมณ์ปรารถนากำลังลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่นะคะ คุณกำลังเมามาก คุณกลับไปนอนที่ห้องของคุณดีกว่านะ”
ร่างบางสั่นเทาไปทั้งตัวเมื่อร่างสูงใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะฟังเธอเลย แต่เขากลับผลักร่างของเธอลงกับที่นอนและขึ้นทาบทับจนคนตัวเล็กแทบจะหายใจไม่ออก
“ทำไมล่ะน้ำผึ้ง สามีของเธอคนนี้ไม่เร้าใจเท่าไอ้หมอนั่นที่เธอหายไปกับมันมาทั้งวันอย่างนั้นเหรอ” พนาวินมองภรรยาแค่เพียงในนามของเขาด้วยแววตาเชือดเฉือนแต่ทว่ากลับหวานซึ้งเต็มไปด้วยเสน่หา
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ เขาเป็นแค่เพื่อนสนิทของน้ำผึ้งเท่านั้น เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันเลยนะคะ” ชญาดาพยายามอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง ทั้งๆ ที่หัวใจของเธอก็เริ่มหวั่นไหวจนสั่นไปทั้งตัว เพราะว่าแอบมีเขาอยู่ในหัวใจตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็พยายามแกล้งแสดงละครมาตลอดเวลาว่าทุกอย่างเป็นเพียงมายาที่ใช้หลอกคนอื่นเท่านั้น เธอไม่ได้รักเขาจริงๆ
เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะรัก เพราะรู้ว่าเขามีคนรักตัวจริงอยู่แล้ว และอีกไม่นานพวกเขาก็จะได้เจอกันและแต่งงานกันในที่สุด แต่สำหรับชญาดาหล่อนมันก็แค่เครื่องมือที่ใช้ในการต่อรองเพื่อถ่วงเวลารอคอยคนรักของเขากลับมาและเพื่อแสดงละครตบตาแม่ของเขาเท่านั้น วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาผู้หญิงบ้านนอกอย่างเธอก็ต้องออกไปจากชีวิตของเขา
“แน่ใจเหรอว่าไม่มี ฉันเห็นเธอคบกับมันมาตั้งนาน อย่าหลอกฉันซะให้ยากเลยสาวน้อย ฉันว่าเธอเองก็คงจะมีใจให้ฉันไม่น้อยเลยใช่รึเปล่า เธอคงอยากจะรู้ล่ะสิ ว่าระหว่างฉันกับคู่ขาเก่าของเธอ ใครมันจะมีลีลาเด็ดกว่ากันจริงมั้ย”
สายตาล้อเลียนร้ายกาจไหวระริกไปมาเหมือนจะหยอกเย้า แต่มันกลับเต็มไปด้วยความต้องการอยากจะครอบครองร่างกายอันสั่นเทาเหมือนกับว่าหล่อนกลัวเขานักหนา
“คุณวิน ปล่อยน้ำผึ้งเถอะค่ะ คุณวินอย่านอนกับผู้หญิงที่ตนเองไม่ได้รักเลยนะคะ”
“แล้วใครบอกล่ะว่าฉันไม่ได้รักเธอ อยากรู้มั้ย...ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกกับเธอยังไง” ดวงตาสีนิลที่มีเปลวเพลิงปรารถนาอยู่ภายใน มันแทบจะแผดเผาร่างกายและหลอมละลายหัวใจของหญิงสาวให้มอดไหม้ไปกับอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของเขา
ใจหนึ่งก็อยากปฏิเสธ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะรู้ว่ารสสัมผัสจากชายที่เธอรักจะให้ความรู้สึกพิเศษมากน้อยแค่ไหน ยิ่งคิดร่างกายและหัวใจก็ยิ่งสั่นไหวไปด้วยความกลัวระคนตื่นเต้น แล้วเธอกลัวอะไรล่ะ แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะจินตนาการต่อ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาปานเทพบุตรในฝันนั้นก็โน้มต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากแสนหวานของเขาประกบลงมาบนริมฝีปากเล็กสีกุหลาบอย่างอ่อนหวานและหิวกระหายในคราเดียวกัน ชญาดาแทบลืมหายใจ หัวใจของเธอเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกมาจากซี่โครง หญิงสาวกลัวเหลือเกินกลัวว่าชายหนุ่มจะรู้ว่าตอนนี้เธอตื่นกลัวและสั่นสะท้านในหัวใจมากแค่ไหน
แล้วทำไมนักรักอย่างพนาวินจะไม่รู้ล่ะ ว่าคนตัวเล็กใต้ร่างของเขากำลังรู้สึกอย่างไร สาวน้อยในอ้อมกอดอายุห่างจากเขาเกือบสิบปี ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าตอนนี้ชญาดาหวั่นกลัวเขามากแค่ไหน เขารู้ว่าหล่อนกลัวอะไร
ชญาดาใจเต้นระทึก เมื่อร่างหนาบดเบียดริมฝีปากหนักขึ้น และสอดลิ้นร้อนๆ เข้าหาตวัดดูดกลืนความหอมหวานซึ่งเธอเองก็รู้สึกได้ว่ามันหวานล้ำมากแค่ไหน จนกระทั่งเธอมึนเมากับรสรักที่เขามอบให้ ดวงดาวพร่างพรายเต็มหัวไปหมด และไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป
พนาวินครางออกมาอย่างพึงพอใจ ร่างกายของเขาก็กำลังร้อนรุ่มดั่งเพลิงแผดเผาเช่นเดียวกัน ความรู้สึกต้องการครอบครองเพิ่มมากขึ้นจนเกือบบ้าคลั่ง ยิ่งเห็นอาการตอบสนองที่ไร้เดียงสาของสาวน้อยในอ้อมแขน ยิ่งรู้สึกว่าหล่อนสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเพราะความกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันยิ่งทำให้เขาคึกคะนองเป็นเท่าทวีคูณ เขาอยากจะรุนแรง โหมกระหน่ำให้หนำใจ แต่ก็ต้องหักห้ามยั้งใจเอาไว้อย่างสุดที่จะกลั้น
มือเรียวยาวเริ่มปลดอาภรณ์ของหญิงสาวออกช้าๆ อย่างเบามือจนชญาดาแทบจะไม่รู้สึก แต่เมื่อถอดออกเกือบหมด ร่างบางก็เริ่มสั่นระริกด้วยความหนาวสั่นจนฟันกระทบกันเบาๆ
“หนาวจังเลย” เสียงหวานกระซิบสั่นๆ ดวงตาปรือเยิ้มไปด้วยอารมณ์พิศวาส แต่เมื่อมองเห็นร่างเปลือยเปล่าที่แสนจะใหญ่โตกำยำของเขากำลังจะโน้มตัวลงมาอีกครั้ง ร่างงดงามยั่วเย้าของหล่อนก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะความกลัวและตื่นตระหนก
“คุณวิน อย่าค่ะ น้ำผึ้งกลัว” ริมฝีปากบางสีกุหลาบที่บวมเจ่อเล็กน้อยขยับพูดอย่างสั่นๆ ยิ่งสร้างความกระหายให้กับพญาราชสีห์หนุ่มให้กางเล็บออกมาตะครุบร่างเหยื่ออันโอชะให้สยบคามือเร็วขึ้น
“ไม่ต้องกลัวสาวน้อย อย่ากลัวฉัน ฉันสัญญาครั้งแรกของเธอฉันจะพยายามไม่รุนแรง และจะทำให้เธอสุขสมให้จงได้”
ธนาวินยืนอ่านนิยายของจินดาราตรงหน้าแผงหนังสือมาถึงแค่นี้ ก็เหงือแตกซิก รู้สึกปวดร้าวแทบจะคลั่งตายอยู่ตรงชั้นวางของหนังสือในหมวดนิยายตรงนั้นแล้ว
‘วิวาห์ร้อนซ่อนเสน่หา อย่างนั้นเหรอ จินดาราเธอนี่เก่งไม่ใช่เล่นนะ ที่ทำเอาฉันแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ ชื่อของพระเอกยังคล้ายกับชื่อของฉันอีก หึ...นี่ขนาดยังอ่านไม่ถึงไหนเลยนะเนี่ย อยากรู้จังว่าเธอเคยเรื่องอย่างว่าหรือเปล่า แต่ยัยวรรณบอกว่าเธอยังโสดสนิทนี่นา แล้วทำไมเธอถึงได้เขียนได้ลึกซึ้งถึงพริกถึงขิงได้ขนาดนี้ มันต้องเคยมาแล้วบ้างสิน่า’
