บท
ตั้งค่า

บทที่ 0 : เกริ่นนำ

บทนำ

"สมเด็จเจ้ามีชัยชำนะเหนือหงสาแล้ว"

ประตูเมืองต่างคลุ้งไปด้วยฝุ่นผงจากม้าเร็วที่เข้ามาแจ้งข่าวแห่งเกียรติยศระหว่างกรุงอโยธยาศรีรามเทพนครและกรุงหงสาวดีจากทุ่งหนองสาหร่าย

ชัยชำนะเป็นของสยามประเทศแล้ว!!

ข่าวการปราชัยจากการทำยุทธหัตถีขององค์อุปราชแห่งหงสาต่อเจ้าฟ้าแห่งสยามนคร ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีที่ไม่มีมานานนับตั้งแต่เมื่อครั้งเสียกรุงครานั้น ผู้คนชาวอโยธยาต่างก็อยู่ด้วยความคับแค้นใจ แต่มาครานี้ด้วยพระบารมีขององค์สมเด็จเจ้า และความกล้าหาญของพี่น้องผู้ที่มีใจหวังจะกอบกู้ชาติคืนกลับมา บัดนี้ชาวอโยธยาได้กินอิ่มนอนหลับกันเสียที

"แม่นมข่าวที่ชาวเมืองลือกันเป็นเรื่องจริงหรือจ๊ะ" เสียงหวานของสาวแรกแย้มเอื้อนออกมาจากเรียวปากบางอมชมพูได้รูป มือน้อยๆ ทั้งสองจับแขนแม่นมแน่นอย่างดีใจ

ยินดีที่สยามมีชัยมิต้องก้มหัวให้พม่ารามัญเหมือนครั้งอดีตนั้นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนที่ดีใจยิ่งกว่าคือครอบครัวได้กลับมาพร้อมหน้า และคนรักกันได้อยู่ร่วมกัน

"จริงเจ้าค่ะ เห็นเขาว่าวันพรุ่งกองทัพแห่งอโยธยาก็จะกลับเข้าพระนครแล้ว" แม่นมตอบกลับด้วยน้ำเสียงยินดีไม่แพ้ผู้เป็นนาย

"ช่างน่ายินดีเหลือเกิน เพราะพระบารมีแห่งองค์สมเด็จเจ้าแท้ๆ" มือเรียวยาวได้รูป ผิวนวลเปล่งปลั่งด้วยเป็นถึงลูกสาวของขุนนางคนสำคัญยกขึ้นประนมระดับอกอย่างซาบซึ้งในพระบารมี

"เจ้าค่ะ ครานี้อโยธยาก็มิต้องเป็นข้าใคร"

"งั้นวันพรุ่งพี่เทพก็จะกลับมาแล้วสินะ" ดวงตากลมใสก้มมองแม่นมที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เล็ก ถึงไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด แต่จะเรียกว่าแม่คนที่สองคงไม่ผิด

"พูดเยี่ยงนั้นมิงามนะเจ้าค่ะ" แม่นมได้ฟังก็นิ่วหน้า ก่อนจะเอ็ดนายสาวที่ยังนั่งยิ้มหน้าบาน มิสนใจคำบ่นว่าทัดทาน

หวนนึกถึงวันก่อนที่ทัพอโยธยาจะออกไปกร่ำศึกกับหงสาวดี ชายผู้เป็นดั่งยอดดวงใจพร่ำให้คำมั่น หากเสร็จศึกคราใด จะมาขอเจ้าหล่อนให้อยู่คู่เคียงกาย คิดไปถึงวันนั้นใบหน้านวลก็ขึ้นสีระเรื่อเอียงอาย เฉกเช่นเมื่อครั้งวันวาน

"แม่หญิงเป็นอันใดไปหรือ เหตุไฉนหน้าจึงขึ้นสีเยี่ยงนั้น" แม่นมที่สังเกตอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปของนายสาวก็อดแปลกใจไม่ได้

"มิมีอันใดดอก ข้าแค่ร้อนนิดหน่อย" แม่นมเหลือบมองนายน้อยผู้เป็นดั่งอัญมณีแห่งเรือนอย่างพิศวง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เอ่ยถามอันใดอีก ได้เพียงนั่งสังเกตท่าทีกับเร่งพัดในมือให้เร็วคลายร้อนตามคำเจ้าหล่อน

แม่หญิงน้อยยังคงนั่งเอียงอายต่อเหตุการณ์ในห้วงคำนึงอย่างมีความสุข ใกล้แล้ววันที่จะได้ครองคู่กับบุรุษอันเป็นที่รัก แต่ไหนเลยใครจะล่วงรู้การณ์ในอนาคต แม้จะอยู่ใกล้จนมือเหมือนจะหยิบคว้าไว้ได้ อสูรร้ายที่ดักซุ้มหลอกล่อให้หลงดีใจ แต่หากลงมือหัวใจดวงน้อยๆ ของหล่อนจะทานทนได้สักเพียงใด

ย่ำเช้ามาเยือน คนได้กลับสู่เรือนนอน กลิ่นอายแห่งความคิดถึงยินดีที่ได้พบหน้ายังไม่ทันจางหาย เหตุสลดแทบลิดรอนสติทำให้ร่างบางแทบประคองกายตัวเองไม่ไหว

"พี่ยอดว่าอันใดนะเจ้าคะ"

เสียงใสสั่นพร่า เมื่อคำที่ออกจากปากพี่ชายแท้ๆ แทบจะเชือดหัวใจเจ้าหล่อนให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

"ข้ามิเชื่อดอก"

พูดจบสองขาก็พาร่างระหงส์มุ่งตรงไปยังจุดหมายที่ชัดอยู่ในใจเพื่อไปกอบกู้ดวงใจที่กำลังจะแตกสลาย

แต่ภาพที่ปรากฏต่อสายตา ดั่งพญามัจจุราชมากระชากดวงวิญญาณให้หลุดจากร่างอย่างไม่มีวันหวนกลับมาอีก ร่างน้อยๆ สั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ สองขาทรุดอย่างไม่อาจจะต้านทานน้ำหนักแห่งตนได้

"ไม่จริง...ข้าไม่เชื่อ...ไม่จริง..." สองมือเอื้อมไปยังใบหน้าที่ซีดเซียวของคนที่ไม่มีดวงวิญญาณอาศัยอยู่ในกายหยาบนั้นแล้ว

"ฮือๆๆ พี่เทพ พี่บอกจะมาขอข้าแต่งงานไงเล่า เหตุไฉนจึงได้ผิดคำพูดเยี่ยงนี้" ร่างระหงส์ซบลงกับอกของชายคนรักอย่างไม่นึกรังเกียจเดียดฉันท์

"หักห้ามใจเถิดแม่ศรีนวล พ่อเทพเขาไปสบายแล้ว" มารดาของขุนศึกเทพปลอบประโลมอย่างนึกสงสารหญิงสาวจับใจ

แม้จะเงยหน้าขึ้นมาจากศพของคนรัก แต่ดวงตาใสที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตายังคงมองร่างไร้วิญญาณอย่างไม่หลบหนี น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ารินไหลต้องร่างหนาที่ทอดกายอยู่เบื้องล่าง มือบางยื่นประคองใบหน้าคมสันแต่ไร้ไออุ่นพรางตั้งคำปฏิญาณมั่น

"ฮือๆๆ ชาตินี้ข้ากับพี่เทพบุญน้อยนัก มิอาจอยู่คู่เคียงกันได้ ข้าขอตั้งคำสัตย์สัญญา ให้องค์เทวาเป็นพยาน พญามัจจุราชให้ประจัก หากแม้นภพหน้ามีจริง ไม่ว่าจะเกิด ณ ที่ใด ข้าจะขอตามรักพี่เทพทุกชาติไป ฮือๆๆ"

ครืน...นนน!!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel