บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 อยากได้กี่ดื่ม

สองขายาวก้าวออกมาจากช่องผู้โดยสารขาเข้า นัยน์ตาสีฟ้ากำลังมองหาคนที่บอกว่าจะมารับ แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่ป้ายกระดาษแผ่นใหญ่ที่เขียนชื่อเขาเอาไว้อย่างเด่นชัด

...ขุนเขา...

“ท่านประธานครับ ทางนี้ครับ” ชายหนุ่มที่น่าจะอายุน้อยกว่าเขาโบกมือไปมาเพื่อส่งสัญญาณว่ารออยู่ตรงนี้

“ป้ายใหญ่ขนาดนั้น ไม่ต้องโบกมือก็ได้มั้ง” ขุนเขาพูดกับตัวเองเพียงเบา ๆ แล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางตรงมายังคนที่รออยู่

“สวัสดีครับท่านประธาน ผมชื่อณวัตนะครับ เรียกวัตเฉย ๆก็ได้ครับ คุณท่านบอกให้ผมมารับท่านประธานครับ”

ขุนเขามองดูชายหนุ่มที่โค้งหัวราวกับกำลังทำความเคารพ แล้วก็แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ คงเป็นลูกน้องสักคนที่พ่อเขาส่งมาให้เป็นผู้ช่วยนั่นแหละ

“คุณวัต เดี๋ยวไปส่งผมที่ร้านเพื่อนนะ ผมยังไม่อยากจะกลับคอนโดตอนนี้ ส่วนกระเป๋า คุณช่วยเอาไปเก็บที่คอนโดให้ผมหน่อย” เขาออกคำสั่งกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกัน และณวัตก็ก้มหัวรับอย่างแข็งขัน

นัยน์ตาสีฟ้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถตลอดเวลาที่กำลังเดินทางไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ สิบปีแล้วที่เขาไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย สิบปีที่เขาใช้เวลาทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต เมื่อรู้สึกว่าปล่อยวางและไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องพวกนั้นแล้ว เขาจึงเลือกที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

“ถึงแล้วครับท่านประธาน”

เสียงของลูกน้องทำให้ขุนเขาหันกลับมามองด้านหน้า ก็เห็นว่ารถมาจอดอยู่หน้าร้านเพื่อคุณ แล้วเรียบร้อย

“คุณวัตกลับได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมกลับเอง”

ขุนเขาพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เปิดประตูลงจากรถทันที สองขายาวรีบก้าวเข้าไปข้างในเพื่อทักทายกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันตั้งสิบปี

“โอ้โห้ ดูซิว่าวันนี้มีใครมาเยือนที่ร้าน”

เสียงของเคน เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันและเป็นเจ้าของที่นี่พูดขึ้นเมื่อเห็นขุนเขาเดินเข้ามาข้างใน นอกจากเพื่อนแล้ว ยังมีสายตาอีกหลายสิบคู่ทั้งของลูกค้าและพนักงานมองมาทางเขาเช่นกัน

มันก็ไม่แปลกหรอกที่คนจะมอง เพราะรูปร่างและหน้าตาของเขามันโดดเด่นขนาดนี้ ชายหนุ่มวัย 35 ปี รูปร่างสูงกำยำ ผมสีทองและมีนัยน์ตาสีฟ้า หน้าตาก็เรียกได้ว่าหล่อเหลาเข้าขั้นเทียบดาราดังได้สบาย ใครเห็นก็ต้องมองเป็นธรรมดา

“นี่ฉันลงจากเครื่องมาก็มาหาแกเลยนะ”ขุนเขาพูดขึ้นพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์

“เป็นเกียรติมากครับท่านประธาน ว่าแต่อยากดื่มอะไร”

“ขอเป็นออนเดอะร็อคสักแก้วก็พอ”

“งั้นก็รอเดี๋ยว”

เคน เข้าไปในบาร์แล้วก็ลงมือจัดเครื่องดื่มตามที่เพื่อนต้องการ ระหว่างที่รอ ขุนเขามองดูรอบ ๆ ร้าน ที่นี่เป็นบาร์โฮสที่มีลูกค้าเยอะมาก เรียกได้ว่าแทบจะเต็มทุกโต๊ะ

มีตั้งแต่สาวใหญ่ สาวแท้ ไม่แท้ พร้อมชายหนุ่มที่หน้าตาดีคอยบริการดูแลอยู่ข้างกาย จนสายตาของเขาไปสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง เธอดูเด็กมาก นั่งอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพนักงานคอยดูแล

“กิจการดีเลยนี่หว่า ฉันไม่คิดว่าแกจะมาเปิดบาร์โฮส”

“ก็แฟนฉันอยากเปิดนี่หว่า แต่ก็ไม่เลวใช่มั้ยล่ะ กิจการไปได้สวยเลยทีเดียว”

ขุนเขายังมองดูรอบ ๆ ร้านอย่างสนใจ ที่นี่ออกแบบและตกแต่งได้สวยสะดุดตา ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด มันก็ไม่แปลกที่ลูกค้าจะชอบมาที่นี่

“บาร์โฮสนี่ทำเงินดีหรือเปล่าวะ” เขายังถามต่ออย่างสนใจ คงเพราะไม่ได้อยู่ประเทศไทยนาน ทุกอย่างเลยยังไม่คุ้นเท่าไหร่

“ดีมากเลยล่ะ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นสายเปย์กันเยอะ จ่ายหนักกว่าพวกผู้ชายอีก”

“เด็กขนาดนั้นก็มาเที่ยวที่แบบนี้ด้วยเหรอวะ”

เคนหันไปมองตามที่ขุนเขาบอก แล้วก็เห็นผู้หญิงที่เพื่อนพูดถึง

“อ๋อ นั่นน่ะคุณมีนตรา เป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน แล้วร้านของฉันก็ได้คุณมีนนี่แหละออกแบบให้ ส่วนเรื่องที่มาเที่ยว เธอไม่ได้มาเที่ยวหรอก พอดีอกหัก ไม่รู้จะไปไหนก็เลยมานั่งดื่มที่นี่ก็แค่นั้น”

เคนอธิบายสิ่งที่เพื่อนอยากรู้ให้ฟังอย่างละเอียด เมื่อหลายวันก่อน มีนตราเข้ามาที่ร้านแล้วก็สั่งเหล้าชุดใหญ่ พอเมาได้ที่นั่งก็ร้องไห้โฮไม่หยุด เพราะสนิทกันอยู่บ้างจากตอนมาออกแบบร้าน เธอเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“ยังเด็กอยู่เลยแท้ ๆ มานั่งฟูมฟายกับเรื่องแบบนี้แล้วเหรอวะ” ขุนเขาพูดต่อแล้วก็ยกแก้วเครื่องดื่มเข้าปาก

“ทำเป็นว่าเธอ แกเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอไอ้ขุน ที่ต้องหนีจากเมืองไทยไปตั้งสิบปี ก็ไม่ใช่เพราะว่าอกหักหรือไง”

คำพูดของเพื่อนเหมือนไปสะกิดสิ่งที่อยู่ภายในใจ ก็จริง เพราะเขาอกหักจากเทียนไข จึงต้องหนีไปอยู่อเมริกาตั้งสิบปี กว่าจะกลับมาเป็นปกติเหมือนทุกวันนี้

“คุณเคนขา คนนี้เด็กใหม่เหรอคะ หล่อจังเลย”

ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ เสียงยาน ๆ ของคนเมาก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อหันกลับไปดูก็เห็นเป็นหญิงสาวที่กำลังพูดถึง

“ไม่ใช่ครับคุณมีน คนนี้เพื่อนผมครับ” เคนรีบตอบปฏิเสธทันที แต่มีนตราก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างขุนเขาแล้วเรียบร้อย

“แอ๊ะ คุณเคนไม่ต้องมาโกหกมีนนะคะ นี่กะจะเรียกค่าตัวเพิ่มเหรอเนี่ย”

นิ้วเรียวจิ้มลงไปยังต้นแขนของชายหนุ่มที่เธอนั่งอยู่ข้าง ๆ ดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำเยิ้มเพราะความเมากำลังมองดูเขา พร้อมกับส่งยิ้มมาให้

“ไม่ใช่จริง ๆ ครับคุณมีน คนนี้เป็นเพื่อนผมครับ”

เคนยังคงปฏิเสธ แต่คนที่กำลังเมานั้นไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ดวงตาคู่สวยยังมองชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองตรงหน้า ก่อนที่เธอจะพูดขึ้น

“อยากได้กี่ดื่ม”

“ฮะ?”

ขุนเขาขานรับด้วยความงุนงง ดูท่าผู้หญิงคนนี้คงจะเมามากจนไม่รับรู้ว่าเพื่อนเขาบอกว่าอะไร

“ถามว่าอยากได้กี่ดื่ม บอกมาเร็ว ๆ สิ เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง หล่อ ถูกใจ”

คราวนี้นิ้วเรียวจิ้มไปยังแผงตกใต้เสื้อเชิ้ตสีดำหลายครั้ง จนขุนเขาต้องจับมือเธอเอาไว้

“คุณครับ ถ้าเมามากแล้วก็กลับไปนอนเถอะครับ ผมไม่ใช่พนักงานที่นี่”

“แน๊...กะจะอัพค่าตัวเหรอเราน่ะ”

แม้ว่าจะปฏิเสธด้วยตัวเองแล้วก็ตาม แต่มีนตราก็ไม่ได้สนใจจะฟัง แถมยังหันไปสั่งเครื่องดื่มในบาร์อีกต่างหาก

“ห้าสิบดื่มสำหรับสุดหล่อคนนี้ค่ะคุณเคน”

“คุณ ผมบอกว่าผมไม่ใช่” ขุนเขารีบปฏิเสธเสียงแข็ง

“งั้นเพิ่มเป็นร้อยดื่ม เขียนบิลเลยค่าคุณเคน”

มีนตราไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น ส่วนเคนที่อยู่ในบาร์ได้แต่หัวเราะไม่หยุด ที่จู่ ๆ เพื่อนของเขาที่เป็นถึงประธานบริษัทตอนนี้กลายเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ในบาร์โฮสไปเรียบร้อยแล้ว

“ร้อยดื่มนะครับ เดี๋ยวผมเขียนให้ครับ” เคนหันมาพูดกับมีนตราแล้วก็หันกลับไปเขียนบิลต่อ

“ไอ้เคน หยุดเลยนะ” ขุนเขาเองก็รีบห้ามเพื่อนพัลวัน

“ไม่ต้องห่วง ฉันแค่พูดไปแบบนั้นแหละ แกว่าคุณมีนเธอจะจำได้เหรอว่าได้จ่ายหรือยัง เมาขนาดนี้แล้ว”

เคนกระซิบลงข้างใบหูเพื่อนเบา ๆ แค่พอได้ยินกันสองคน ส่วนคนเมาก็ยังนั่งจ้องหน้าขุนเขาไม่ละสายตา

“ถูกใจจังเลย ชื่ออะไรน่ะเรา”

“มันชื่อขุนเขาครับคุณมีน”

ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปาก เพื่อนตัวดีก็ชิงตอบให้ก่อนแล้ว ขุนเขาจำใจต้องนั่งดื่มเป็นเพื่อนมีนตราอย่างเสียไม่ได้ อีกอย่างก็เพราะเพื่อนขอให้ดื่มเป็นเพื่อนเธอหน่อย เพราะเห็นว่ามีนตราร้องไห้เสียใจมาหลายวันแล้ว เพิ่งจะเห็นยิ้มได้ตอนเจอหน้าขุนเขานี่แหละ

สงสัยจะถูกใจจริง ๆ

“ไอ้เคน จะเอาไงต่อวะ” ขุนเขาถามขึ้นทันทีที่เพื่อนเดินกลับมาที่บาร์ เพราะหญิงสาวที่พูดไม่หยุดเมื่อกี้ ตอนนี้ได้เมาหลับไปแล้วเรียบร้อย

“ยุ่งแล้วไง ฉันก็ไม่ว่างจะไปส่งด้วย แกว่างมั้ยวะ”

“ฉัน?”

ขุนเขาชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมกับทำหน้างุนงง มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องไปส่งผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมยังมาหาว่าเป็นเด็กบาร์โฮสอีก

“เออ แกนั่นแหละ ไหน ๆ ก็เพิ่งกลับมาเมืองไทย ไปขับรถให้ชินทางไว้มั่งก็ดี” เพื่อนตัวดียังคงยัดเยียดหน้าที่สารถีพาคนเมากลับบ้านให้กับเขาอย่างไม่ยอมแพ้

“ทำไมต้องเป็นฉัน” คนมีตั้งเยอะแยะ เรียกแท็กซี่ให้ก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องให้เขาไปส่ง “เรียกแท็กซี่ดิ”

เคนถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนที่จะพูดประโยคต่อไป และนั่นก็ทำให้ขุนเขาปฏิเสธไม่ได้

“แกคิดว่าผู้หญิงที่สวยขนาดคุณมีน แล้วก็เมาขนาดนี้ ให้นั่งแท็กซี่กลับคนเดียว มันจะปลอดภัยเหรอวะ” สิ่งที่เคนพูดมันทำให้เขานึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเทียนไข

“แล้วฉันต้องไปส่งยัยเด็กนี่ที่ไหน” ยังไงคงปฏิเสธไม่ได้แล้ว อีกอย่างก็ไม่อยากเห็นพาดหัวข่าวหญิงสาวถูกแท็กซี่ลากไปข่มขืน

“คอนโดวีเค ห้อง 1102”

“แล้วแกรู้ที่อยู่ได้ไง”

“ฉันกับจัสเคยไปส่งตอนที่เลี้ยงขอบคุณหลังจากตกแต่งร้านเสร็จน่ะ”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย เคนก็เรียกพนักงานมาช่วยอุ้มมีนตรามายังรถของเธอที่จอดอยู่ด้านหน้า ขุนเขายัดตัวเองเข้ามานั่งตำแหน่งคนขับด้วยความรู้สึกเซ็ง เพิ่งกลับมาถึงแท้ ๆ แต่ดันต้องมาช่วยเพื่อนไปส่งยัยเด็กที่เมาจนหัวราน้ำเพราะอกหักเสียได้

ทำไมมันถึงได้ซวยขนาดนี้...เขาคิดในใจ

///////////////////////////////////////////////////////

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel