บท
ตั้งค่า

สองเราให้รักปฏิวัติ ตอนที่ 8

จิรัสย์ขับรถสปอร์ตสีขาวคันหรูเข้ามาจอดในลิฟท์ ใช้เวลาไม่นาน ตัวลิฟท์ก็พาทั้งคนทั้งรถขึ้นมาบนเพ้นท์เฮาส์สุดหรูที่อยู่ชั้น 67

ฝั่งมีนา หลังจากเก็บครัวจนสะอาดเนี๊ยบพร้อมฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อและดับกลิ่นเรียบร้อยแล้ว เธอก็เปลี่ยนมาถูพื้นตรงลานกว้างที่ไม่มีอะไรอยู่บริเวณนี้เลยนอกจากผนังสีเงินแปลกๆ คล้ายห้องอะไรสักอย่าง ส่วนซ้ายมือเป็นลิฟท์ที่เธอขึ้นมาพร้อมกับลูกชาย

เพราะการที่ปกป้องมีนิสัยแปลกๆ ที่ติดมาจากจิรัสย์ทำให้มีนาค่อนข้างที่จะไม่รู้สึกยุ่งยากอะไรกับการทำความสะอาดบ้านให้ไร้ฝุ่นทุกซอกทุกมุม แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเพ้นท์เฮาส์ของจิรัสย์ทั้งใหญ่ทั้งกว้าง

ถูไปถูมา จู่ๆ ผู้ชายที่ยืนหล่ออย่างมีคุณภาพในรูปหลายๆ ใบที่ตั้งโชว์อยู่ในบ้านก็ผุดขึ้นในหัว มีนาเผลอชะลอไม้ถู จนกระทั่งหยุดทำงานแล้วเอาไม้ถูตั้งตรงระนาบกับลำตัวทิ้งแรงครึ่งหนึ่งไว้ที่มัน ยืนเพ้อเหม่อลอยถึงดวงหน้าหล่ออดีตแฟนที่พ่วงตำแหน่งพ่อของลูก

พี่จิดูเปลี่ยนไปมาก ก็แหงล่ะ เจ็ดปีเชียวนะ ตอนนั้นเขาทั้งขยันทั้งเรียนเก่ง แม้จะต้องเรียนไปด้วยฝึกงานที่บริษัทของครอบครัวบุญธรรมไปด้วยแต่เขาก็ไม่เคยปล่อยให้เธอเหงา ยังดูแลเอาใจใส่ตลอด พอมาเห็นเขาประสบความสำเร็จในวันนี้ เธอก็อดที่จะเปรยยิ้มยินดีกับความสำเร็จของเขาไม่ได้ มันคุ้มค่ากับการที่เธอพาตัวเองออกมา ไม่เพียงแต่เขาจะประสบความสำเร็จ เขายังไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนอกตัญญูเนรคุณผู้มีพระคุณอีกด้วย

ติ๊ง!

รอยยิ้มสวยลึกซึ้งค่อยๆ ดีดตัวกลับมาเหยียดตรงเมื่อจู่ๆ ไอ้ฝาผนังสีเงินแปลกๆ ที่เธอเห็นก็แยกตัวออกไปคนละฝั่ง เบื้องหน้าปรากฏรถสปอร์ตคันหรูสีขาว จากนั้นประตูฝั่งคนขับก็เปิดออก ร่างสูงคมผมถูกเซ็ตเป็นระเบียบก้าวขาลงจากรถออกมายืนอวดความหล่อแบบไม่ได้ตั้งใจพร้อมทั้งมองประสานสายตากับเธอ

เขาคือจิรัสย์หรือ 'พี่จิ' คนดีคนนั้น

นานแล้วที่ไม่ได้สบตากับเขาแบบนี้ หากจะนับดูนี่คือการเผชิญหน้าครั้งแรกในรอบเจ็ดปีตั้งแต่เธอเดินออกมาจากชีวิตเขา ออกมาทั้งๆ ที่ยังรัก แต่เพราะหวังดีกับเขาไม่อยากให้เขาผิดใจกับผู้มีพระคุณเธอเลยถือวิสาสะตัดสินใจแทนเขาแล้วก้าวขาออกมาจากวงจรชีวิตของผู้ชายคนนี้

"วุฒิสวยหรูที่ฝรั่งเศษไม่ได้ช่วยหางานดีๆ ให้เธอเลยเหรอ? ไหนว่าอนาคตไปได้ไกล เท่าที่เห็นเหมือนเธอจะถอยหลังนะมีนา" ปักใจเชื่อไปแล้วว่าหญิงสาวมีคนใหม่ถึงได้ทิ้งเขาไปตอนนั้น ก็เลยปากพล่อยใส่ไปซะ ลึกๆ ในใจอยากถามเธอว่า 'สบายดีไหม?' แต่เรื่องที่เธอทิ้งเขาไปตัดผ่านเข้ามาในหัวตลอดเวลา เลยอดแซะให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นไม่ได้

สรรพนามที่จิรัสย์ใช้มันเปลี่ยนไปจนมีนาหน้าถอดสีทำตัวไม่ถูก มือบางกำไม้ถูพื้นแน่น นึกละอายใจกับสิ่งที่เคยพูดไว้ เธออวดเก่งใส่เขาไปเยอะ เพราะอยากให้จิรัสย์ตัดใจเลยต้องทำแบบนั้น

เรื่องที่ผ่านมาแล้วยังไงก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เหลือเพียงแค่เรื่องราวในปัจจุบันและอนาคต แต่ตอนนี้ ณ วินาทีนี้เธอต้องตอบคำถามของคนตรงหน้าก่อน จะแก้ตัวอย่างไร จะต้องอธิบายถึงการมายืนตรงนี้ยังไงให้จิรัสย์ปล่อยผ่านเธอไปง่ายๆ โดยไม่คาดคั้นอะไรให้มันลึกไปมากกว่านี้

เขาเปลี่ยนไปมาก ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนพี่จิคนเดิมอีกแล้ว ก็นะ เธอทำอะไรกับเขาไว้ย่อมรู้ตัวดี เพราะนี่คือราคาที่ต้องจ่าย

"พี่!...เอ่อ" ไม่ได้สิ เธอเรียกเขาแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว "คุณไม่ต้องมาสนใจฉันหรอกค่ะ ฉันทำงานให้คุณ คุณจ่ายเงินให้ฉัน ขอโทษด้วย ฉันไม่รู้ว่านี่บ้านคุณ ฉัน...เผลอรับเงินเดือนล่วงหน้ามาแล้ว เพราะงั้นจะอยู่ทำให้ครบเดือน แล้วจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก"

ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่ารับเงินล่วงหน้าไปแล้ว ดวงตาคมก็เบือนทิ้งไปด้านข้าง

เตวิช! หมอนั่นต้องรู้แน่ๆ ว่ามีนาเป็น...

จิรัสย์ไม่อยากต่อคำพูดนั้นในใจ จึงดึงสายตากลับมาจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า

"ถ้าอยากจะไปนักหนาก็เชิญเดินออกไปได้เลย รับเงินแล้วก็แค่โอนคืนมา มันไม่ยาก" คิดถึงเธอจะเป็นจะตายยังทำปากดีอีก จิรัสย์เองก็อยากจะตบปากพล่อยๆ ของตัวเองเหลือเกิน ปากพูดอีกอย่าง ใจคิดอีกอย่าง สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่ใจเขาอยากจะพูดออกไปก็คือ ทำไมวันนั้นเธอต้องไปจากเขา แล้วตอนนี้เธอรู้สึกยังไงกับเขา ความรู้สึกเดิมๆ ยังหลงเหลืออยู่บ้างไหม เจ้าซาลาเปาไส้หวานนั่น...เป็นลูกของผู้ชายคนใหม่ของเธอจริงๆ หรือเปล่า ว่าแต่...เห็นเจ้าซาลาเปาอยู่ในกล้องแวบๆ ตอนนี้ไปซ่อนอยู่ตรงไหนเสียแล้วล่ะ?

ได้ยินแบบนั้นมีนาก็ยิ่งกำไม้ถูพื้นแน่นขึ้นไปอีก คิดว่าเธอไม่อยากคืนเงินและไม่อยากพาลูกออกไปหรือไง ก็เงินมันถูกใช้ไปแล้ว เอ๊ะ! ปกป้อง ให้ตายเธอลืมปกป้อง! ไม่ได้! จะให้อีกฝ่ายเห็นปกป้องไม่ได้!

ด้วยความที่มีนาคิดว่าจิรัสย์ยังไม่รู้เรื่องลูก เธอเลยยืนกระสับกระส่ายสอดส่ายสายตามองหาเจ้าลิงดื้อโดยไม่ให้ตัวเองแสดงพิรุธ ปกติเธอจะร้อนใจมากหากลูกชายไม่อยู่ในสายตา แต่ตอนนี้เธอกลับอยากให้ปกป้องไปอยู่ตรงไหนก็ได้ที่จิรัสย์จะไม่สามารถรู้ถึงการมีอยู่ของลูกชายเธอได้

อย่าออกมานะลูก

"สรุปไม่ไป?"

"เอ่อคือ...ฉันจะทำตามที่พูดกับคุณไว้เมื่อกี้ ยังไงก็ช่วยหลับหูหลับตาทนหน่อยก็แล้วกันนะคะ"

จิรัสย์จดจ้องไปยังคนที่ยืนกระสับกระส่าย ก่อนนึกขึ้นได้ว่ามีนาคงยังไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องลูกเธอแล้ว คงกลัวเจ้าซาลาเปาจะวิ่งโผล่ออกมาให้เขาเห็นล่ะสิท่า หึ! งั้นมาลองดูหน่อยก็แล้วกัน ว่าเธอจะแก้ตัวเรื่องนี้ยังไง

"งั้นก็ตามสบาย ฉันจะไปอาบน้ำพักผ่อนแล้ว" มือหนาสอดลงในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างพร้อมตั้งคอตรงเตรียมเดินเข้าไป และแล้วมีนาก็ทำในสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว

"เดี๋ยวค่ะพี่จิ!..เอ่อคุณจิคือว่า...." มีนากระโดดเข้าไปขวางหน้าร่างสูงกำยำพร้อมทั้งจับเสื้อสูทของเขาเอาไว้ พอดวงตาคมกดมองลงมาเธอถึงได้เพิ่งรู้ตัวว่ามือก็จับไม้ถูพื้นอยู่ด้วย เลยสะดุ้งดีดไม้ถูพื้นทิ้งแล้วรีบล้วงทิชชู่เปียกในกระเป๋าเอี๊ยมซึ่งเตรียมไว้ให้ลูกชายโดยเฉพาะออกมาเช็ดทำความสะอาดให้เขา เช็ดทั้งมือ เช็ดทั้งเสื้ออย่างลวกๆ ลนๆ นั่นเป็นเพราะมีนากลัวจิรัสย์จะจามออกมาแล้วเป็นหวัดเอา

จิรัสย์ยืนนิ่งปล่อยให้หญิงสาวเช็ดมือเช็ดเสื้อ พอเห็นว่ามีนายังจำเรื่องโรคประหลาดของเขาได้ ขอบตาจึงเริ่มแดงเพราะมันทำให้นึกถึงตอนที่เรายังมีกัน แต่แล้วภาพวันที่เขานอนนิ่งราวกับร่างไร้วิญญาณบนพื้นเย็นเยียบก็ฉายแทรกเข้ามา ขอบตาจึงเริ่มร้อนผ่าว จับมือบางคู่นั้นไว้แล้วบีบแน่น จนใบหน้าสวยต้องเงยขึ้นมาสบตาพร้อมนิ่วหน้า

"ปล่อยฉันนะคุณจิ!" อยู่ๆ ก็มาบีบข้อมือรั้งตัวเธอไม่ให้ขยับถอยหลังหนีแบบนี้มันหมายความว่าไง

"ทำไมเธอต้องทำร้ายฉันมีนา!" จิรัสย์แทบไม่รู้ตัวว่าเผลอแสดงอารมณ์โกรธเคืองออกมาจนทำให้มีนาเจ็บปวดที่ข้อมือ จนกระทั่งรู้สึกถึงเขี้ยวคมเล็กๆ เจาะเข้าที่ปลีน้องข้างขวา จิรัสย์ถึงได้รู้สึกตัวพร้อมแหกปากร้องลั่น "อ๊ากก!!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel