สองเราให้รักปฏิวัติ ตอนที่ 1
'มีนา...เจอกันหน่อยได้ไหม พี่ไม่เข้าใจทำไมจู่ๆ!...'
'ฉันเลือกแล้วพี่จิ พี่เปลี่ยนใจฉันไม่ได้หรอก ขอร้อง...อย่าติดต่อฉันอีก'
'มีนาเดี๋ยว! มีนา!!'
"มีนา!!!" ชื่อของใครคนหนึ่งดังออกมาจากริมฝีปากหยักลึกพร้อมกับร่างกายที่ผุดลุกขึ้นนั่งกลางดึกเวลาเกือบตีสอง
จิรัสย์ นั่งหอบหายใจกลางความมืดที่เงียบสงัด แม้แต่เสียงเครื่องปรับอากาศก็แทบจะไม่ได้ยินมันด้วยซ้ำ
มือหนาจับผ้าห่มสะบัดออกแล้วตวัดขาลงมาสวมรองเท้า จากนั้นก็เดินออกไปรับลมริมระเบียง ทอดมองวิวเมืองหลวงในยามราตรีบนเพนท์เฮาส์สุดหรูชั้นที่ 67 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องเดินออกมาพึ่งพาอากาศบริสุทธิ์กลางดึกเช่นนี้ แต่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนต่างหาก
เป็นเพราะความฝันนั่น!
ผู้หญิงคนนั้น!
เธอทำให้เขาต้องฝันร้ายแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ตื่นมาจิตใจก็อ่อนแอ ต้องมาหวังพึ่งวิวกลางคืนในการสงบสติอารมณ์ อารมณ์ของคนยังตรอมใจ ที่ครั้งนึงเคยถูกผู้หญิงที่เขารักทิ้งไปหาอนาคต อนาคตที่ไกลแสนไกล
วันต่อมา...
"สวัสดีค่ะคุณจิ"
"อืม"
"คุณจิสวัสดีครับ"
"หวัดดี"
"สวัสดีตอนเช้าครับคุณจิ! ตารางจัดโปรโมชั่นครับ"
"เห็นฉันใจดีหน่อยก็ริมาสายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" จิรัสย์รับแฟ้มจากเลขาคนสนิทที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงมาเปิดดู ใช้เวลาอ่านไม่นานเขาก็เจอจุดที่เป็นปัญหา ปากกาด้ามทองที่เหน็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทสีน้ำเงินถูกดึงออกมาใช้วงกลมเป็นจุดใหญ่ๆ แล้วยื่นคืนเลขาไป จากนั้นก็เดินเอามือไพร่หลังตรงไปที่ลิฟท์
"รถติดน่ะครับคุณจิ" เตวิชแก้ตัวพร้อมยิ้มเก่ อยากเถียงออกไปว่าจิรัสย์น่ะเหรอใจดีแต่ก็กลัวถูกไล่ออก อย่างน้อยทำงานกับจิรัสย์ย่อมดีกว่าทำกับคนอื่น
จิรัสย์ได้ขึ้นเป็น ceo ของสวนสนุกเดอะแลนด์ออฟฟันเมื่อสามปีที่แล้ว เดอะแลนด์ออฟฟันเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1000 ไร่ มีทั้งเครื่องเล่น สวนน้ำ สวนสัตว์ และอุโมงค์ใต้น้ำที่รวมสารพัดสัตว์ใต้ท้องทะเล นับว่าเดอะแลนด์ออฟฟันประสบความสำเร็จอย่างมากและสร้างกำไรมหาศาลเลยทีเดียว
"คุณจิจะลงไปที่สวนสนุกเหรอครับ?" เตวิชรีบแทรกตัวเข้าไปในลิฟท์ตามเจ้านายหนุ่ม
"อืม"
พอได้คำตอบเลขาอย่างเขาก็รีบทำหน้าที่กดปุ่มชั้นใต้ดิน จากนั้นลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลงจากชั้นเก้ามุ่งสู่ชั้นล่างสุดของตึกบริหาร
พอลิฟท์เปิดเตวิชก็รีบจ้ำเท้าไปถอยรถกอล์ฟมารับเจ้านายหนุ่ม จิรัสย์ขยับเสื้อสูทให้เข้ารูปหนึ่งทีเพราะเป็นคนรักสะอาดและมีความเป็นระเบียบสูง จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนรถซึ่งมีเตวิชเป็นคนขับ
รถกอล์ฟเคลื่อนตัวขึ้นสู่ชั้นบนหลังประตูชั้นใต้ดินเปิดออกอัตโนมัติโดยเตวิชเป็นคนกดรีโมทเปิดเอง จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สวนสนุกโดยเข้าทางด้านหลังและขับไปเพียงแค่สองกิโลเมตรเท่านั้น พอเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ คนนับพันก็ปรากฏแก่สายตาคม
เตวิชรู้งาน รู้ว่าเจ้านายหมายจะไปที่ใด จึงขับรถกอล์ฟมุ่งหน้าไปทางนั้น จะเป็นที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่ด่านขายตั๋วด้านหน้า
เมื่อถึงด่านขายบัตรเข้าสวนสนุก จิรัสย์ก็ลงไปเดินดูคนต่อแถวซื้อตั๋วด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ นึกในใจว่า... เงินฉันมาแล้ว...เงินฉันมาแล้ว
ตลอดทางมีพนักงานทักทายชายหนุ่มตลอด พอดูผู้ปกครองต่อแถวซื้อบัตรให้ลูกให้หลานเสร็จ จิรัสย์ก็เข้าไปในห้องขายบัตร ตรวจตราพนักงานที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่เบื้องหลัง
ช่วงหน้าร้อนเป็นแบบนี้ทุกปี ลูกค้าเหล่านี้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศก็มักจะมารวมตัวที่นี่กันหมด พูดง่ายๆ ก็คือเอาเงินมาให้เขากันหมด
แล้วยังไง ก็เขาขายความสนุกและความสุขให้กับเด็กๆ ย่อมได้รับผลกำไรเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว ไม่ถูกตรงไหน
"คุณจิจะไปที่ไหนต่อเหรอครับ?" ไม่ถามเปล่า แต่เตวิชขึ้นนั่งประจำตำแหน่งคนขับเตรียมออกรถดิบดี ทว่าผู้โดยสารในคราบเจ้านายกลับเดินผ่านรถซะงั้น เตวิชจึงต้องรีบโดดลงมาเดินตามหลังจิรัสย์ต่ออย่างแนบเนียน หน้าแตกเลยเรา
"ใครเป็นคนดูแลส่วนตรงนี้?" เสียงเข้มถามขึ้น
"อะ..เอ่อ...คุณกรณ์ครับผม" เตวิชรีบเสนอหน้าขึ้นมาตอบ
"เห็นนั่นไหม?"
"ยังไม่เห็นครับ" เตวิชยืนเอามือกุมเป้ายิ้มแป้นให้เจ้านาย ทว่ากลับถูกสายตาคมตวัดมอง เตวิชจึงได้สติรีบมองตามมือหนาที่ชี้ไปยังศาลานั่งพักใกล้ตู้ขายน้ำ "อ้อ! เห็นแล้วครับคุณจิ ไว้ผมจะรีบแจ้งให้คุณกรณ์แก้ไขนะครับ!"
"ลดดาวไปด้วยหนึ่งดวง" ดึงหางตาที่มองเลขากลับมา ก่อนเอามือล้วงกระเป๋ากระเกง มองรถรางที่กำลังวิ่งผ่านมาทางนี้ รอยยิ้มของเด็กนี่มันดีจริงๆ ยิ้มเยอะๆ นะหนูน้อย วันหลังพ่อกับแม่จะได้พามาอีก
เตวิชก้มหน้าก้มตาจิ้มไอแพด ลดดาวให้หนุ่มผู้โชคร้ายอย่างกรณ์ ช่วยไม่ได้ ดันปล่อยให้ศาลาหลังคาแตกได้ยังไง รอยเท่าจานร้าว แต่มีหรือจะรอดพ้นสายตาจับผิดของเจ้านายเขา
ตุบ!
ขณะที่จิรัสย์กำลังยืนชื่นชมรอยยิ้มของผู้คน จู่ๆ ก็มีเด็กชายตัวกระปุ๊กลุ๊กวิ่งมาชนขา แถมยังทำน้ำโกโก้เลอะกางเกงเขาอีก
ลูกใครวะ!
จิรัสย์ได้แต่ยืนผ่อนลมหายใจ เอาโทสะทั้งหมดไปลงไว้ที่กำมือ ซึ่งมีเตวิชยืนคอยให้กำลังใจในการข่มโทสะของเขาอยู่ข้างๆ ไม่อยากบอกว่าเตวิชเองก็ยืนลุ้นจนฉี่แทบราด เจ้านายหนุ่มจะระเบิดอารมณ์ออกมาไหมนะ อย่าระเบิดตรงนี้เชียวนะ
เมื่อเห็นว่าจิรัสย์พอจะสยบโทสะลงได้ เตวิชก็รีบจกผ้าเช็ดหน้าที่มีแทบจะทุกกระเป๋าบนตัวออกมาเช็ดขากางเกงให้เจ้านายหนุ่มอย่างลวกๆ ลนๆ รีบเช็ดรีบสะอาดก่อนที่จิรัสย์จะกลับมามีน้ำโหอีก
หนุ่มน้อยตัวต้นเรื่องยืนถือน้ำโกโก้ที่กระฉอกเลอะมือมองเตวิชที่กำลังเช็ดทำความสะอาดก่อนแหงนหน้าไปมองร่างสูงที่ยืนเท้าเอวอย่างอารมณ์เสีย
"คุณลุงก็ไม่ชอบสกปรกเหมือนกันเหรอครับ?"
จิรัสย์ก้มหน้าลงมองเจ้าของคำถามที่ยืนตัวเตี้ยอยู่ใกล้ๆ เจ้านี่มันลูกเต้าเหล่าใคร กล้าเรียกคนหล่อๆ อย่างเขาว่าลุงเชียวเหรอ? แก่สุดเขาก็เป็นได้แค่พ่อแหละวะ
"เอ่อคุณจิครับ ถ้านับอายุที่ห่างกัน...จะเป็นลุงก็ไม่ผิดนะครับ" เตวิชเงยหน้าขึ้นมายิ้มแห้งรีบแก้ตัวช่วยเหลือเจ้าหนุ่มน้อยครั้นเห็นว่าจิรัสย์กำลังจะอ้าปาก กลัวเจ้านายหนุ่มโวยเด็กที่ไม่รู้ประสีประสา หนำซ้ำคนยังพลุกพล่านเต็มไปหมด
"ถ้าฉันเป็นลุงนายก็เป็นตาสินะ!"
"ครับคุณจิ ผมเป็นตาก็ได้ ตอนนี้ใจเย็นๆ ก่อนนะคร๊าบ!" ประโยคหลังเตวิชก้มหน้าพูดกับตัวเอง พลางรีบเช็ดขากางเกงให้จิรัสย์จนเหลือแค่คราบเปียกนิดหน่อย ขณะนั้นก็เหลือบไปเห็นสายข้อมือสีรุ้งที่ข้อมือน้อยๆ นั่นพอดี เตวิชจึงรีบยืนขึ้นเอนหัวไปใกล้เจ้านาย "ข้อมือสีรุ้งครับข้อมือสีรุ้ง!"
สิ้นเสียงกระซิบของเลขา จิรัสย์ก็ชะงักงันกดตาลงมองที่ข้อมือหนุ่มน้อย ทันใดนั้น ริมฝีปากหยักลึกสีเหมือนผลเชอร์รี่สุกก็คลี่ยิ้มออกมาทันที
บัตรวีไอพี บัตรแพงสุดแบบนี้จะไม่ยิ้มได้ไง
"หนุ่มน้อย วันนี้มากับใครเหรอครับ?"
เตวิชเหลือกตามองตามร่างสูงของเจ้านายที่หดลงไปนั่งยองๆ คุยกับเด็กน้อยราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องเงินขอให้บอกเจ้านายเขาเถอะ ขาดทุนอย่าพูดเด็ดขาด แต่ถ้าได้กำไรตะโกนให้ตายก็ไม่โดนดุ
"มากับมามี๊ครับ"
"แล้ว...หนูชื่ออะไรเหรอครับ?" จิรัสย์ยังคงยิ้มขื่นถามออกไป ให้ตายเถอะ ทำตัวเป็นเทพบุตรทำไมมันยากอย่างนี้วะ!
"ชื่ออคิราห์ ชื่อเล่นชื่อปกป้องครับ"
