7
บทที่ 7
“เล็ก”
อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม
“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”
ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง
“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า
“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”
“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก
“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป
“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”
“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”
“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด ๆ แอด ๆ มานานแล้ว”
“จ้ะ”
“เพราะแบบนี้ฉันจึงตัดสินใจจะขายที่ดินแปลงนี้ เพื่อจะเอาเงินไปเป็นค่ารักษา ก็เลยจะมาคุยให้แม่เล็กเข้าใจ จะได้มีเวลาเตรียมตัวย้าย”
“อะไรกันพี่อุดม!” หญิงวัยกลางคนที่ตอนแรกนั่งฟังอย่างสงบเสงี่ยม เริ่มส่งเสียงเอะอะไม่พอใจ “อยู่ ๆ พี่ก็มาพูดแบบนี้ ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ ไอ้ต่อกับผัวของมันก็เพิ่งเอามะนาวมาลงเพิ่มได้ไม่นาน ลงทุนไปก็มากโข แล้วพวกมันจะทำยังไงกันล่ะ”
“แน่ใจเหรอที่พูดน่ะ” อุดมถามกลับพร้อมกับจ้องสายตานั้นอย่างเอาเรื่องเช่นกัน “ที่พี่รู้มามันไม่ใช่แบบที่เอ็งพูดเลยนะเล็ก”
“ใครพูด พี่รู้มาจากใคร บ้านหลังไหนมันปากหมาอีก อีนวลหรือว่าอีไพล่ะ” นางเล็กโกรธจัดจนควันออกหู “ชอบใส่ร้ายกันนักนะอีพวกนี้ เห็นคนเขาลืมตาอ้าปากได้หน่อยไม่ได้เลย คอยแต่อิจฉากันอยู่นั่นแหละ”
“เอ็งไม่ต้องไปด่าเขาหรอก พวกเขาไม่ได้บอกอะไรข้าทั้งนั้น สรุปว่าเอ็งช่วยจัดการเรื่องของข้าให้เรียบร้อยภายในเดือนหน้าก็แล้วกัน แต่ตอนนี้เอ็งเอาโฉนดมาให้ข้าก่อน” เห็นอีกฝ่ายเสียงแข็งใส่ อุดมก็เสียงแข็งกลับไปบ้าง
โดนถามถึงโฉนดขึ้นมา นางเล็กก็ยิ่งลนลาน “พี่จะไล่หลานจริง ๆ เหรอพี่ดม พี่ใจดำเกินไปแล้วนะ”
“ข้าบอกแล้วนี่ว่าข้าจำเป็น เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ถ้าขายที่ได้ข้าจะแบ่งเงินให้เจ้าต่อมันสักส่วนหนึ่งก็แล้วกัน เอาโฉนดมาให้ข้าสิ ข้าจะได้เอาไปเสนอขาย”
“โฉนงโฉนดอะไร ฉันไม่มีหรอก มันที่ของเมียพี่ไม่ใช่ที่ของฉัน พี่จะมาเอาโฉนดกับฉันได้ยังไงล่ะ” เมื่อจนต่อหนทางนางจึงบอกปัดอย่างหน้าด้าน ๆ
“เอ็งพูดอย่างนี้ได้ยังไงวะ ก่อนที่เมียข้าจะตายเอ็งเป็นคนบอกกับเขาเองว่าให้เอาโฉนดฝากไว้ที่เอ็งจะปลอดภัยกว่า แล้วข้าก็เห็นกับตาว่าเมียข้าเอาโฉนดให้เอ็ง”
“พี่มีพยานมายืนยันไหมล่ะว่าฉันเป็นคนเอามา ถ้าไม่มีก็อย่ามาปรักปรำกันแบบนี้”
“เอ็งคิดจะโกงพี่เอ็งเหรอนางเล็ก”
“ฉันไม่ได้โกง แต่ฉันไม่ได้เอามาจริง ๆ นี่”
ใจที่บอบบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเจ็บจี๊ดขึ้นมา เพราะคำพูดเห็นแก่ตัวของน้องเมีย อุดมกดที่หน้าอกเพื่อระงับอาการ ส่วนมืออีกข้างก็บีบมือหลานสาวเอาไว้
“ไม่เป็นไร ตอนนั้นข้าอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ ข้าจะไปแจ้งความว่าโฉนดหายก็แล้วกัน” เขาเริ่มอ้างถึงกฎหมาย
“พี่ขู่ฉันเหรอ” เล็กปรี่เข้าไปหาพี่เขยด้วยท่าทางเอาเรื่อง
“อย่าทำอะไรปู่หนูนะ” ปันหยีเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอาตัวเข้าไปขวาง กางแขนปกป้องปู่ผู้อ่อนแอของตนสุดความสามารถ “โอ๊ย!”
“หยิน!” อุดมส่งเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหลานสาวสุดที่รักถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น รีบเดินไปดูเธอด้วยท่าทางเงอะงะ “หนูเป็นอะไรไหมลูก เจ็บตรงไหนบ้าง”
“หนูไม่เป็นไรจ้ะปู่” เด็กสาวขบฟันทนเจ็บแล้วขยับตัวลุกขึ้นยืน ข้อเท้าของเธอแพลง แต่เธอก็ต้องทนฝืนเอาไว้ “เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่”
“ออกไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก ฉันไม่อยากต้อนรับคนเห็นแก่ตัวอย่างพี่แล้ว” เล็กชี้นิ้วไล่พี่เขยและหลานสาวอย่างไม่ไยดี
“เสียงดังอะไรกันแม่!” เวลานั้นเองเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในบ้าน ก่อนที่ร่างอวบอัดเหมือนนักยกน้ำหนักจะปรากฏตัว “มีอะไรเหรอแม่” หญิงสาววัยประมาณสามสิบ มองคนต่างวัยสองคนที่ประคองกันเอาไว้ด้วยสายตาเหยียด ๆ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นใครก็ไม่คิดจะทักทาย
“ไม่มีอะไรหรอก ไปพักผ่อนเถอะไป เดี๋ยวแม่จัดการเอง” เล็กกล่าวกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจ
“เอ็งจะไม่ทักทายลุงเอ็งหน่อยเหรอเจ้าต่อ” แต่อุดมไม่ปล่อยให้หญิงสาวจากไปง่าย ๆ “ลุงตั้งใจมาหาเอ็งเลยนะ”
ต่อมองหน้าชายชรา ขมวดคิ้วเข้าหากัน “มาหาฉันทำไมล่ะลุง ฉันไม่มีเวลาจะคุยด้วยหรอก วัน ๆ หนึ่งฉันยุ่งจะตาย คุยกับแม่ฉันแทนเถอะ”
“คุยกับแม่เอ็งแล้วแต่ไม่รู้เรื่อง เอ็งมาพอดีก็เลยจะคุยกับเอ็งอีกคน เผื่อเอ็งจะเข้าใจดีกว่าแม่เอ็ง”
“พูดมากนะไอ้แก่นี่! กูบอกให้มึงออกไปจากบ้านกูนี่ไม่เข้าใจเลยใช่ไหม!” นางเล็กตะคอกใส่พี่เขยอย่างเหลืออด
“ก็เอาโฉนดมาให้ข้าก่อนสิแล้วข้าจะไป”
“กูไม่ให้ มึงจะทำไมกับกูไอ้แก่”
“ในที่สุดก็ยอมรับแล้วสินะ”
“ยอมรับอะไรวะ”
“ก็ยอมรับว่าจะโกงพี่เอ็งไงล่ะอีเล็ก”
“ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้เลยนะ มึงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน ถึงมากร่างในบ้านกูแบบนี้” ต่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่ตนจะมาถึง จึงรีบเข้าพวกกับแม่เพื่อขับไล่อีกฝ่ายออกไป
“เอาโฉนดมาให้ข้าก่อนสิ แล้วข้าจะไป”
“กูบอกให้ออกไป ถ้าไม่ออกกูจะโทรแจ้งตำรวจว่าบุกรุกนะ”
“ข้าไม่ไป อยากจะแจ้งก็แจ้งมาเลย ข้าจะได้แจ้งกลับว่าเอ็งโกงข้า และที่ตรงนี้ก็คือที่ดินของข้า”
“มึงอยากตายมากกว่าอยากจะออกจากบ้านหลังนี้ใช่ไหมไอ้แก่ ถ้าอยากตายกูจะโทรเรียกผัวกูกับพรรคพวกเข้ามาจัดการมึงกับหลานมึงซะ กูจะให้พวกมันข่มขืนมันต่อหน้ามึงให้ดู”
