ep1
ชะเอม นั่งรอที่ล็อบบี้ของคอนโดหรูอย่างมีความหวัง เธอเข้ากรุงเทพฯ มาเพื่อหางานทำหลังจากที่จบระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแถวภาคเหนือ ชีวิตของเธอเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เมืองเชียงใหม่เป็นส่วนใหญ่ การเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ จึงดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอ ผู้ดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าให้ที่อยู่ของอาหนิง ผู้ที่อุปการะเธอมาตั้งแต่เด็ก อาหนิงไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่รู้จัก พ่อของเธอ ที่เสียชีวิตไปแล้ว
อาหนิงบอกว่า พ่อของชะเอมอายุมากกว่าอาหนิงเกือบ ๒๐ ปี อาหนิงรักและเคารพพ่อมาก แต่อาหนิงก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูชะเอม เพราะเธอไม่พร้อม จึงได้แต่อุปการะชะเอม ในบางเรื่องเท่านั้น
อาหนิงบอกกับสถานรับเลี้ยงเด็กว่า เธอไม่รู้ว่าชะเอมมีญาติพี่น้องที่ไหน เธอเองก็เป็นแค่คนอาศัย และหนีออกจากบ้านพ่อของชะเอมไปกับผู้ชายคนหนึ่ง และไม่เคยกลับมาอีกจนกระทั่งพ่อเธอเสียชีวิต เธอตอบแทนบุญคุณพ่อของชะเอม ด้วยการช่วยเหลือชะเอมเท่าที่เธอจะทำได้
ชะเอม จำอาหนิงของเธอได้คลับคล้ายคลับคลา ภาพจำครั้งสุดท้ายที่เธอมีอยู่คือ อาหนิงเป็นผู้หญิงที่สวยมาก อาหนิงพูดเพราะและใจดี และเธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่ออาหนิงหายไป เพิ่งจะมารู้ก็ตอนที่เธอจะเข้ากรุงเทพฯ นี่เอง
“คุณชะเอมใช่ไหม?ครับ”
เสียงทุ้มนุ่มทักขึ้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะนั่งลงตรงหน้าเธอ ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะชายหนุ่มที่ทักทายเธอนั้น เป็นชายหนุ่มรูปงาม นัยน์ตาคมปราบ จมูกโด่งได้รูปและมีรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์อย่างเหลือร้าย ไม่บอกก็รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่งแน่นอน
“เอ่อ...ใช่ๆ ค่ะ หนูชื่อชะเอม”
ชะเอมพยักหน้ารับพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัวอย่างสงสัย
“เธอบอกว่าเธอมาหาคุณหนิง”
“ใช่ค่ะ หนูมาหาอาหนิง แล้วอาหนิงไปไหนซะละคะ คุณรู้จักใช่ไหม?”
ชะเอมยิ้มกว้าง เมื่อคิดว่าเขาต้องรู้จักอาหนิงของเธอแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาทักเธอ
“ผมชื่อมาร์ค เป็นสามีของคุณหนิง”
“คะ?”
หญิงสาวเบิกตาโตจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะยกมือไหว้ด้วยมารยาทอันดี
“สวัสดีค่ะ หนูคิดว่า อาหนิงอยู่คนเดียวเสียอีก”
เธอมีสีหน้ากังวล ถ้าอาหนิงมีครอบครัวแล้ว เธอก็คงลำบาก แต่ว่าตอนนี้ จะไปหาที่อยู่ใหม่ ก็คงยาก เธอคงต้องขอค้างกับอาหนิงสักคืนสองคืน ให้อาหนิงหาที่พักให้ใหม่ น่าจะดีสำหรับเธอ
“เอ่อ....หนูจะมาหางานทำที่กรุงเทพฯ ค่ะ เลยว่าจะมาขออาหนิงพักที่นี่สักวันสองวันค่ะ พอหาที่อยู่ได้ใหม่ก็จะไม่รบกวนแล้ว”
หญิงสาวรีบพูดด้วยความร้อนใจ เพราะถ้าให้เธอต้องไปจากที่นี่ เธอลำบากแน่ๆ ถนนหนทาง และที่สำคัญ เงินทองที่มีติดตัวมา มีไม่มากนัก
ชายหนุ่มมีสีหน้าหนักใจ มองเด็กสาวตรงหน้าอย่างขบคิด กระเป๋าและข้าวของพะรุงพะรัง ถ้าเขาปฏิเสธไปก็ดูเหมือนจะทำร้ายเด็กสาวๆ คนหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นไปพักบนห้องเถอะ ข้าวของมีเท่านี้ใช่ไหม?”
เขาลุกขึ้นยืมมองกระเป๋าและข้าวของของเธอ แล้วช่วยถืออย่างใจดี ชะเอมยิ้มแป้น พยักหน้ารับ สีหน้าดีใจจนเห็นได้ชัดเพราะยังไงคืนนี้ เธอก็ไม่เคว้งแล้ว
******
มาร์คไขกุญแจเข้าห้อง ก่อนจะเดินนำหญิงสาวเข้ามาในห้องชุดหรูหราของเขา ภายในห้องตกแต่งด้วยรสนิยมของเขาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นมุมเครื่องเสียง บาร์เหล้า เครื่องออกกำลังกาย มุมพักผ่อนที่ตกแต่งด้วยทูโทนสีเข้ม ไม่มีมุมไหนที่จะมองว่าเป็นมุมของผู้หญิงเลย
“อาหนิงกลับดึกหรือคะ?”
ชะเอมมองไปรอบๆ ตัว แล้วลองถามเขาเพื่อความแน่ใจ เพราะลางสังหรณ์ของเธอบอกว่า เขาน่าจะอยู่คนเดียวเสียด้วยซ้ำ
“เขาไม่เคยกลับมา...ไม่เคยกลับมานานแล้ว”
น้ำเสียงนั้นบอกด้วยความขมขื่น เขาวางกระเป๋าไว้ข้างๆ ตัวเธอ แล้วเดินไปที่บาร์เหล้า รินเหล้าใส่แก้วแล้วยกดื่มอย่างกระหาย
“ตามสบายนะ ฉันมีห้องว่างอยู่ทางนั้น จริงๆ มันเป็นห้องเก็บของ...ของหนิงเขา”
เขาชี้มือไปยังมุมๆ หนึ่ง อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งที่มุมพักผ่อน ก่อนจะเปิดทีวีดูอย่างสบายอารมณ์
“หมายความว่ายังไงคะ?. อาหนิงไปไหน?”
หญิงสาวเดินมาใกล้เขา แล้วถาม...เธอต้องการความชัดเจน เพราะถ้านี่เป็นห้องอาหนิง แต่ไม่มีอาหนิง ทว่า...กลับมีชายแปลกหน้าที่มาอ้างว่าเป็นสามีของอาหนิงครอบครองอยู่
มาร์คเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว เธอบอกเธอชื่อชะเอม เป็นหลานของผู้หญิงที่เขารัก เค้าหน้าของเธอไม่ได้ละม้ายคล้ายอาของเธอเลย ใบหน้าเธอหวานกว่า และเยาว์วัยกว่า แต่เขาดูแววตาเธอแล้ว เธอไม่น่าจะโกหก
“ฉันไม่รู้....ถ้าฉันรู้ว่าเขาไปไหน ฉันคงตามเขากลับมาได้”
“อาหนิงหายไป....”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แววตาของเขาเศร้า
“เรียกว่าหนีไปจะดีกว่า”
ชะเอมอึ้งไป ถ้าไม่มีอาหนิง ก็หมายความว่าเธออยู่ในห้องนี้กับเขาเพียงลำพังสองคนเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันคงไม่ทำอะไรหลานสาวของหนิงเขาหรอก”
