ตอนที่ 4 เราไปกันเถอะ
แอนน์เปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด ก้าวเดินเข้าไปในเรนชาวเวอร์ทันที เธอปล่อยให้สายน้ำไหลลงมาบนเรือนร่างขาวผ่องของเธอ มือเรียวลูบใบหน้าเพื่อปัดน้ำออกไป เธอมองไปในผนังห้องน้ำทำให้เธอเห็นใบหน้าหวานดูอ่อนวัย นัยน์ตาสีน้ำตาล จมูกโด่งเป็นสัน โหนกแก้มและเหนือริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยหนวดครึ้มที่จัดได้รูปสวยตามแบบฉบับหนุ่มอาหรับ วิกตอเรียเคยเล่าให้เธอฟังว่า ซาริมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล มีแม่เป็นชาวอังกฤษ และแม่ของเขาก็มีฐานะอย่างมากร่ำรวยเช่นเดียวกับเฮนรี่ และอเล็กซานเดอร์ อีกทั้งพ่อของเขาเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันหลายบ่อในตะวันออกกลาง แต่ทว่าซาริมเลือกจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลแม่ของเขาในบ้านเกิดด้วยโรคมะเร็งจนแม่ของเขาสิ้นใจไป ส่วนพ่อของเขานั้นก็ทิ้งทรัพย์สินไว้มากมายให้เขาใช้ทั้งชาติก็ไม่รู้จะหมดหรือเปล่า
ถึงเวลานัดแนะกับซาริม เขามายืนรอแอนน์หน้าสปอร์ตคาร์สีเหลือง บอดี้การ์ดสี่ถึงห้าคนยืนตามจุดกระจายออกไป แต่ไม่ไกลจากเขา เพื่อความปลอดภัยของเจ้านาย ซาริมมองไปยังคอนโดมิเนียมอย่างใจจอดจ่อ ทำให้เขาสงสัยตัวเองว่า ทำไมถึงต้องมารอผู้หญิงที่รู้จักกันแค่คืนเดียว และทำไมถึงมายืนรอเธอก่อนเวลานัดหมายเป็นครึ่งชั่วโมง ทั้งที่ไม่ใช่วิสัยของเขาเสียเลย เพราะส่วนมากผู้หญิงจะต้องมารอเขาไม่ใช่เขามารอเธอ ซาริมรู้สึกได้ว่าหญิงสาวหรือหญิงวัยกลางคนที่เดินผ่านไปผ่านมา นั้นยิ้มยั่วให้เขา เขาไม่สนใจผู้หญิงเหล่านั้น
เพราะเขาสนใจผู้หญิงใบหน้าสวยแต่งแต้มใบหน้าโทนอ่อน ริมฝีปากสีนู๊ดสวย เธอนั้นสวมชุดใส่บอดี้สูทสายเดี่ยวสีขาว กระโปรงยาวลายลูกไม้ซีทรูจรดพื้น และรองเท้าสี่นิ้วสีขาว
“สวัสดีครับ” ซาริมเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ คุณรอแอนน์นานไหมคะ” แอนน์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจ เพราะลงมาก่อนเวลาถึงสิบนาที แต่เขาดันถึงก่อน
“ไม่นานครับ”
“เช่นนั้นเรากันไปเถอะค่ะ”
“ครับ”
