บท
ตั้งค่า

ตอนที่3

เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งรถเข็นอยู่ตรงหน้ามีใบหน้าที่เรียบเฉยและยังไม่ยอมพูดอะไรกับเธอเอาแต่จ้องตาเธอเขม็งอยู่แบบนี้เธอจึงทำลายความเงียบนี้ด้วยรอยยิ้มละส่งเสียงทักทาเขาอย่างจริงใจเธอแอบหวังว่าใบหน้าที่ดูดุของเขาอาจจะมีรอยยิ้มให้เธอบ้าง

“เป็นไงรู้สึกผิดหวังกับว่าที่สามีมั้ยคุณ”

ภควัตรถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ก็ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินคำถามของเขา

“เอ่อ...พิมจะผิดหวังเรื่องอะไรหรอคะ”

พิมริสาถึงกับต้องรีบถามกลับว่าเธอนั้นจะผิดหวังเรื่องอะไรเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มช่างดูไม่เป็นมิตรกับเธอเลยเสียจริงๆเพราะคนที่พึ่งเจอกันน่าจะทักทายกันแบบที่เธอทักทายเขาเมื่อครู่ไม่ใช่หรอแต่นี่กลับยิงคำถามให้เธอได้อึ้งเสียอย่างนั้น

“ก็ผมมันแค่คนพิการอีกทั้งก็ยังเป็นพ่อเลี้ยงที่อยู่แต่ในป่าในไร่อีก...คุณหนูแบบคุณจะทนอยู่ได้เร้ออ!!!”

ภควัตรเห็นว่าแม่สาวคนนี้ช่างเข้าใจที่เขาพูดยากเสียจริงเขาเลยต้องแจงเรื่องที่คิดว่าทำให้หญิงสาวผิดหวังเกี่ยวกับตัวของเขาให้เธอได้ฟัง

“พิมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ”

พิมริสาวเองตอบไปตามความจริงเธอไม่ได้ผิดหวังกับรูปร่างของเขาว่าเขาจะพิการอะไรหรือว่าใช้ชีวิตอยู่แต่ในป่าในไร่ไม่สุขสบายแต่ตอนนี้ที่เธอผิดหวังก็คงจะเป็นการต้อนรับแบบไม่เป็นมิตรของเขาต่างหากล่ะ

“อืมม...ก็ดี”

ภควัตรพยักหน้าให้กับคำตอบของหญิงสาวเขาจะดูซิว่าเธอจะทนอยู่กับคนพิการอย่างเขาได้สักกี่น้ำคุณหนูที่เคยอยู่ที่สบายๆแต่จู่ๆกลับต้องมาอยู่ในป่าในดงเขาคิดว่าอีกไม่นานเธอก็คงจะวิ่งแจ้นกลับไปหาแม่เธอเป็นแน่คงจะอยู่ไม่ครบสัญญาการแต่งงานอย่างแน่นนอน

“ทานข้าวก่อนสิคุณ”

“ค่ะ...เอ่อ..แล้วพิมต้องพักที่ไหนคะ”

หลังจากที่พิมริสาเห็นว่าชายหนุ่มเลื่อนรถของเขามาที่โต๊ะทานข้าวตรงข้ามกับเธอแล้วเธอจึงนั่งลงที่โต๊ะอาหารพร้อมทั้งถามชายหนุ่มเรื่องที่พักของเธอว่าอยู่ตรงไหนเพราะเธอกะว่าทานข้าวเสร็จแล้วก็จะไปพักผ่อนวันนี้เธอเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

“ก็ห้องผมไง”

ภควัตรตอบหญิงสาวทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปากหน้าตาเฉย

“อะไรนะคะ!!!”

พิมริสาต้องตกใจกับคำพูดของชายหนุ่มอีกครั้งเกิดมาจนอายุ26ปีเธอยังไม่เคยนอนร่วมห้องกับใครเลยแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันก็ตามเธอชินกับการนอนคนเดียวแต่นี่เธอต้องมานอนกับผู้ชายแปลกหน้าที่เจอกันไม่กี่ชั่วโมงทำให้เธอต้องตกใจเป็นธรรมดา

“ตกใจอะไรคุณ...อีกหน่อยคุณก็แต่งกบผมอยู่แล้วถ้าอยู่คนละห้องเดี๋ยวก็ต้องเก็บของย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันอยู่ดีอยู่มันซะตั้งแต่วันนี้แหละ”

ภควัตรนึกขำในสีหน้าและอาการของหญิงสาวเมื่อรู้ว่าต้องนอนห้องเดียวกับเขาเพราะนี่พึ่งจะเป็นเรื่องแรกที่เขาจะแกล้งเธอ

“อะ...เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”

พิมริสาเห็นว่าที่ชายหนุ่มพูดมันก็จริงเธอเลยตอบตกลงไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่อีกใจนึงก็คิดว่าเขาน่าจะให้โอกาสเธอปรับตัวให้นานกว่านี้อีกสักหน่อยแบบนี้คืนนี้เธอจะนอนหลับมั้ยเนี่ยถึงจะรู้ว่าชายหนุ่มคงจะทำอะไรเธอไม่ได้แต่เธอก็ทำใจได้ยากอยู่ดี

“อิ่มแล้วหรอ...ทานไปนิดเดียวเอง”

ภควัตรเงยหน้าไปมองหญิงสาวหลังจากที่เขาสนใจการทานอาหารของเขาอยู่พักใหญ่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งนิ่งไม่ได้แตะข้าวในจานแล้วเขาจึงถามเธอว่าทานแค่นี้อิ่มแล้วหรอเพราะข้าวในจานมันยังไม่ยุบไปสักเท่าไรเลยถึงเขาจะไม่ได้ยินดีที่เธอมาอยู่ที่นี่แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้เธออดๆอยากๆเมื่ออยู่ที่นี่หรอกนะเดี๋ยวคนอื่นจะว่าเขาเลี้ยงคนในหารปกครองไม่ดี

“เอ่อ...พิมอิ่มแล้วค่ะ”

พิมริสาเองมีเรื่องกังวลในใจตั้งมากมายจะให้เธอนั่งทานข้าวอย่างสบายใจมันเป็นไปไม่ได้ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองทานอะไรไม่ลงจริงๆถึงกับข้าวที่วางอยู่มันจะน่าตาน่าทานก็เถอะ

“คุณเดินทางมาทั้งวันทานแค่นี้เองหรอ...คุณต้องทานให้หมดจาน”

ภควัตรสั่งหญิงสาวให้ทานให้หมดจานเพราะเขารู้ว่ายังไงเธอก็ต้องหิวอีกอยู่ดีเพราะทานไปแค่นั้นถึงจะบอกว่าอิ่มแล้วเขาก็ไม่มีทางเชื่อหรอกเด็กตัวเล็กๆยังทานเยอะกว่าเธอตอนนี้ด้วยซ้ำ

“คะ...ก็ฉัน..บอกว่าอิ่มแล้วไงคะ”

พิมริสาไม่ชอบในการบังคับของชายหนุ่มเลยสักนิดเธอก็พึ่งเคยเจอคนแบบนี้ก็วันนี้นี่แหละเธอบอกว่าอิ่มแล้วยังจะมาบังคับให้เธอทานข้าวเป็นเด็กๆไปได้เธอจึงเถียงชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่แข็งเท่าไรนักแต่ก็เป็นการทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นไม่พอใจที่เขามาสั่งเธอแบบนี้

“ผมบอกว่าให้คุณทานหรือจะให้ผมป้อน”

ภควัตรเข็นรถนั่งของเขามาฝั่งตรงข้ามตรงที่หญิงสาวนั่งอยู่ทันทีเขาไม่ชอบให้ใครมาดื้อรั้นกับคำสั่งของเขา

“คุณภาคคะ...พิมบอกว่า..โอ้ยย”

พิมริสาพยายามที่จะบอกกับชายหนุ่มว่าเธอทานไม่ลงจริงๆแต่เธอก็โดนมือของเขาจับมาที่ปากของเธอพร้อมบีบปากของเธอให้มันอ้าขึ้นส่วนมืออีกข้างของเขาก็ตักกับข้าวเข้าปากเธออย่างไม่ได้สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไงหญิงสาวเองจึงต้องจำใจเคี้ยวข้าวคำนั้นกลืนลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ก็แค่นั้น...อื้อ”

“พิมทานเองได้ค่ะ”

ภควัตรเห็นว่าหญิงสาวยอมเคี้ยวข้าวแต่โดยดีเขาเองจึงตักข้าวเพื่อที่จะป้อนเธออีกคำแต่หญิงสาวก็จับช้อนที่เขาถือไปทานเองด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

นานสองนานกว่าหญิงสาวจะทานข้าวจนหมดจานเธออยากจะร้องให้ตรงนี้ด้วยซ้ำเพราะตอนนี้เธอเหมือนนักโทษที่โดนผู้คุมจับจ้องตลอดเวลาเพราะชายหนุ่มเอาแต่นั่งมองเธอทานข้าวจนหมดคำสุดท้ายเขาถึงจะละสายตาจากการจ้องเธอได้

“เอ่อ...คุณภาคจะไปพักเลยมั้ยคะ..เดี๋ยวพิมเก็บจานที่นี่ไปล้างก่อนค่ะ”

พิมริสาจำใจทานข้าวจนหมดจานเธอเองเห็นว่าชายหนุ่มยังไม่ยอมออกไปจากตรงนี้เสียทีแถมยังนั่งเงียบอยู่อีกด้วยเธอไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้สักเท่าไรจึงเอ่ยปากขอตัวไปล้างจานเพื่อที่จะหาอะไรทำโดยที่ไม่สีสายตาของเขาจับจ้องอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel