บท
ตั้งค่า

บทที่ 2.1 เริ่มแผลงฤทธิ์

2 สุรามงคล มอบใหม่แด่ท่านแล้ว

หน้าห้องหอที่ไร้เจ้าบ่าว สาวรับใช้นางหนึ่งมาตะโกนปลุกเจียงเยี่ยนฟางตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพื่อจะพาอีกฝ่ายไปที่เรือนด้านหลังตามรับสั่งของเจ้านาย

ด้วยเจียงเยี่ยนฟางเดิมก็เป็นคนที่ตื่นก่อนฟ้าจะทันได้เปลี่ยนสีอยู่ตลอด ดังนั้นจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สักพักแล้ว อาภรณ์บนกายของนางไม่ได้ดูหรูหราสมกับเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลขุนนางอย่างที่ควรจะเป็น หากแต่คล้ายชุดของบุรุษชาวบ้านทั่วไปเสียมากกว่า เนื้อผ้าก็ทั้งหยาบทั้งหนา สีก็ดูหม่นหมอง แถมยังใช้ผ้ารัดไว้ที่ข้อมือเหมือนกับชาวบ้านที่ต้องทำงานแบกหามทั้งวันนั้นก็ด้วยอีก คงมีเพียงผ้าปิดหน้าสีม่วงที่ดูดีอยู่เพียงชิ้นเดียวบนตัวนาง

"เมื่อครู่คนจากวังหลวงเพิ่งจะมาส่งข่าวว่า ไทเฮาทรงพระอาการไม่ค่อยดี อยากพักผ่อน ไม่ต้องรบกวนเจ้าไปยกน้ำชาตามพิธี" สาวใช้ว่าพลางหมุนตัวเดินนำไปที่เรือนไม้ด้านหลังสุดของจวนทางทิศซี [1]

"..." เจียงเยี่ยนฟางไม่ได้ตอบ นางคร้านจะใส่ใจผู้อื่นเป็นทุนเดิม เพียงเดินตามเงียบ ๆ พอไม่ต้องอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องผู้นั้นนางก็ค่อยมีเวลาที่เลิกเสแสร้งบ้าง

ระหว่างเดินอยู่ก็กำลังคิดว่า ต่อให้ตระกูลเจียงเป็นถึงขุนนางในวัง ทว่าก็ยังถูกเลือกปฏิบัติอยู่ดี ถึงแม้นนางจะไม่เคยสัมผัสการถูกปรนนิบัติจากผู้อื่นมาก่อน แต่ย่อมรู้แน่ว่าปกติตระกูลสูงศักดิ์เวลาแต่งเข้ามาจำต้องมีสาวใช้มาดูแล และยามนี้นางก็เป็นถึงพระชายารองในจวนชินอ๋อง แม้ทำผิด ถูกพระสวามีลงโทษก็แล้วไป แต่บ่าวรับใช้ก็ควรจะใส่ใจนางบ้างถึงจะถูก และต่อให้ชินอ๋องผู้นี้เคยประกาศขอถอดยศตนเอง แล้วย้ายมานอกวังก็ตาม แต่ทว่าขนบทำเนียมเดิมก็ควรจะพอหลงเหลือไว้บ้างไม่ใช่หรือไร

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทุกคนรู้อยู่แล้วรึเปล่าว่า อย่างไรเสียชินอ๋องรูปงามผู้นั้นก็มีใจหนึ่งเดียวให้พระชายารองอีกคน จึงไม่ต้องสนใจนางก็ได้กระมัง

เอาเถอะ จะไปโทษคนพวกนี้ก็ไม่ได้ ขนาดขุนนางเจียงผู้เป็นบิดาก็ยังไม่ส่งบ่าวรับใช้ติดตามนางมา คนในจวนนี้พอเห็นนางไร้สาวใช้ที่ติดตามมาจากสินเดิม ก็คงคาดเดาไว้แล้วว่า นางมีสถานะเช่นไรในจวนตระกูลเจียง

เช่นนี้ก็สะดวกดี เจียงเยี่ยนฟางคิดแบบนั้น แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่า เมื่อวานนางเพิ่งตัดสินใจอะไรลงไป

'ข้าเพียงหวังพบมารดาอีกสักครั้ง พานางออกมาจากที่แห่งนั้น หนีไปใช้ชีวิตด้วยกัน' เสียงอ่อนหวานเจือแววห่วงหาดังสะท้อนอยู่ในห้วงความคิดของนาง ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่นานที่นางไม่มีทางลืมก็ยังคงวนเวียนกลับมาอีกครั้ง ทำให้ตระหนักได้ถึงสิ่งที่ตนต้องทำให้สำเร็จ

แรกเริ่มเดิมที นางคิดว่าตนสามารถไม่ใส่ใจเจ้าคนพิการผู้นั้นได้ แต่ตามฤกษ์ยามแล้ว อีกสิบสี่ [2] วันต่อจากนี้ยังต้องกลับตระกูลเจียง อย่างไรก็ยังต้องพึ่งพาเขาอยู่ดี

นึกถึงฤกษ์ยามที่ว่าแล้วก็ช่างน่าขัน ทั้งหมดทั้งมวลเป็นมารดาเลี้ยงผู้นั้นที่พูดเองเออเอง เจ้าตัวบอกนางว่าค่อยกลับบ้านเดิมหลังจากสิบห้าวันผ่านไปแล้ว ไม่รู้ฤกษ์แท้จริงเป็นอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่รู้แน่นั่นก็คือ อีกฝ่ายเพียงประวิงเวลาออกไป ด้วยไม่อยากเจอหน้านางเร็วเกินไปก็เท่านั้น หรือไม่ก็อยากให้นางถูกชินอ๋องไล่ออกจากจวนไปด้วยตัวเขาเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาต้อนรับอีกฝ่ายที่พานางกลับบ้านเดิมไป

ยามนี้ที่กำลังนึกเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้น แววตาของเจียง เยี่ยนฟางที่เฉยเมยอยู่แล้วก็วาบผ่านด้วยความเย็นชาสายหนึ่ง

ไม่นานสาวใช้ก็พานางมาถึงเรือนด้านหลัง แม้จะโชคดีที่สภาพเรือนไม่ได้ย่ำแย่เหมือนเรือนร้างที่นางเคยอยู่มาก่อน แต่ก็ไม่อาจใช้คำว่า 'ดี' มาเปรียบเปรยได้ ถ้าเทียบกับวังหลวงก็คงจะเป็นเหมือนวังเย็น ต่างแค่ไร้กำแพงหนาปิดกั้น เปลี่ยนเป็นรอบด้านถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ไผ่ผุพังแทน หากแต่รั้วไม้ไผ่เองก็สภาพย่ำแย่ ตั้งสูงต่ำไม่เท่ากัน ดูก็รู้ว่าไม่ได้มีความใส่ใจจะตัดมันให้เท่ากันเลยสักนิด เพียงกั้นไว้แบบขอไปทีเท่านั้น

ตัวนางไม่ได้อยากมีปัญหา คิดอยากทำสิ่งที่ตั้งไว้ในใจให้สำเร็จแล้วจากไป แต่การถูกปฏิบัติเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้วหากยอมทนต่อไป ก็รังแต่จะทำให้นางลำบากในภายหลัง เรื่องอาหารการกินไม่เตรียมไว้ให้ก็แล้วไป นางหาเองได้ แต่นางจะไม่ยอมทำความสะอาดที่นี่เองหรอกนะ

มือเรียวยาวจึงถูกยื่นออกไปขวางทางสาวใช้ที่กำลังหมุนตัวจะจากไปไว้เสียก่อน "ชาวบ้านด้านนอกต่างพูดว่าชินอ๋องไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน ปลีกตัวออกมาจากวังตั้งแต่ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าไม่สนใจในบัลลังก์มังกร แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นละเลยการอบรมบ่าวในจวนถึงขั้นนี้"

เจียงเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่ตัวสูงกว่าสตรีทั่วไปในแคว้นเฉิง ยามนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและกดตาลงมองผู้ที่ตัวเตี้ยกว่า ก็ช่างดูน่าเกรงขามไม่น้อย ทำเอาสาวใช้ที่กำลังถูกจ้องมองถึงขั้นเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจชั่ววูบหนึ่ง

แต่สาวใช้ผู้นั้น พอนึกถึงคำนินทาที่คนในจวนต่างพูดถึงพระชายารองพระนางใหม่ที่เพิ่งตบแต่งเข้ามา ก็ทำให้นางที่หวาดกลัวไปในตอนแรกใจกล้าขึ้นมากกว่าเดิม ราวกับกินดีเสือต่างน้ำเปล่าในตอนตื่นมาก็ไม่ปาน

"คุณหนูใหญ่เจียงอย่าทำให้บ่าว..."

"พระชายา" เจียงเยี่ยนฟางพูดคำนี้เองก็ตะขิดตะขวงใจเอง แต่ก็ต้องพูดออกไป

"คุณหนูใหญ่เจียง..." สาวใช้ยังคงแข็งข้อ แต่ไม่ทันได้พูดจบก็ถูกมือเรียวยาวบีบลงที่บ่าอย่างแรง ทำเอาเจ็บจนน้ำตาซึม เข่าแทบทรุดลงกับพื้น และเหมือนคนที่ลงมือคล้ายรู้ได้ว่านางกำลังจะล้มลงไป มือที่ดูอ่อนนุ่มคู่นั้นจึงบีบนางแรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อดึงรั้งตัวนางไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว "อึก" สาวใช้แทบร้องไม่ออก รับรู้ถึงไอสังหารที่เคยได้สัมผัสจากเจ้านายของตนครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว กำลังแผ่ออกมาจากสตรีข้างกาย ทำเอานางหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ

[1] ซี คือทิศตะวันตก

[2] ปกติการกลับบ้านเดิมที่เราคุ้นเคยตามธรรมเนียมจีนมักจะเป็นเวลาสาม 3 วันหลังแต่งงานตามที่เห็นกันบ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้วมีทั้งหมดสามช่วง คือ 3 วัน 7 วัน และ 15 วัน ในกรณีนี้เป็น 15 วันค่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel