บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.2 ทำตัวให้เหมือนคนไร้ตัวตน

กึก

เจียงเยี่ยนฟางแทบจะได้ยินเสียงฟันของตัวเองที่ขบกันจนเกือบแตก! แต่นางก็ประคองสติไว้ได้เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำให้สำเร็จ "ขออภัยเพคะท่านอ๋อง เป็นหม่อมฉันเลินเล่อเอง"

ร่างสูงในชุดเจ้าสาวสีแดงขยับเข้าใกล้เขาอีกนิด

"ยืนตรงหน้าข้า" เขาเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย "ตระกูลเจียงไม่สอนแม้กระทั่งพิธี?!"

คำก็ตระกูลเจียง สองคำก็ตระกูลเจียง! นางจะอดทนไปได้สักกี่น้ำเชียว เพียงเพราะชอบสตรีผู้นั้นอยู่ก่อนแล้วและไม่ได้อยากแต่งงาน เหตุใดจึงดูจงเกลียดจงชังไปถึงตระกูลเจียงด้วย

เจียงเยี่ยนฟางเลือกที่จะทิ้งคำถามมากมายไว้ในใจ ก้าวเท้ากลับไปยืนตรงหน้าเขา ก่อนจะถูกดึงผ้าคลุมหน้าออก นางอดแปลกใจมิได้ ตัวนางเป็นสตรีร่างสูงพอ ๆ กับบุรุษ ไหนจะเครื่องประดับบนหัวที่สูงเกินหนึ่งฝ่ามือ แต่ผู้ที่เพิ่งกราบฟ้าดินกับนางมาซึ่งต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด กลับสามารถตวัดผ้าออกจากศีรษะของนางที่ยืนเต็มความสูงได้อย่างง่ายได้

ชั่วลมหายใจนั้น นางก้มตาลงต่ำ แล้วคิดว่าเดี๋ยวค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมองหน้าเขาอย่างเชื่องช้าเพื่อทำเหมือนกำลังเขินอายให้สมกับเป็นสตรีทั่วไปเสียหน่อย ทว่าเมื่อได้มองอีกฝ่ายแล้วก็ต้องชะงัก ไม่ทันได้ดึงสายตากลับมาอย่างที่คิดไว้ในใจคราแรก สุดท้ายกลับกลายเป็นเหมือนตนเองตกใจในรูปโฉมของผู้อื่นแทน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

'ซีฮันชินอ๋องรูปโฉมงดงามชวนเพ้อฝัน สง่างามยิ่งกว่าเทพเซียนบนแดนสวรรค์ รูปร่างสูงใหญ่องอาจ ความปรีชาเหนือผู้ใดทั้งปวง'

นั่นคือคำเล่าขานที่นางเคยได้ยินมา เรื่องเล่านั้นช่างดูไกลตัวในคราแรก แต่ยามนี้พอได้แย้มยลด้วยตาตนเองก็พบว่า ไม่เกินจริง!

สิ่งที่ทำให้เจียงเยี่ยนฟางกลับมามีสติอีกครั้ง ก็คงจะเป็นสายตาเย้ยหยันของเขาที่มองนางกลับมา

"ขออภัยที่ใบหน้าของหม่อมฉันทำให้ท่านอ๋องทรงรู้สึกไม่สบายพระทัยเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางรีบค้นหาผ้าปิดหน้าที่พกมาด้วยมาคลุมไว้ครึ่งหน้า

เป็นผู้ใดได้ยลโฉมนางก็ต้องตกใจกับแก้มที่บวมเป่งเหมือนโดนผึ้งต่อย แม้นในสายตานางถือว่าไม่ถึงขั้นอัปลักษณ์ แต่ก็มิได้น่ามอง ยังดีที่สายตาของเขาเพียงแค่มีความไม่พอใจเล็กน้อยเท่านั้น มิได้ถึงขั้นรังเกียจกัน

"ดื่มสุรามงคลเถิด" ประหนึ่งว่าเซียวลี่หยางมิอยากเสียเวลาเสวนากับนางให้มากความ จึงพูดถึงขั้นตอนต่อไปออกมา แถมยังเบนสายตามองไปทางอื่น

เจียงเยี่ยนฟางรับคำ พลางขยับตัวไปเข็นเก้าอี้รถเข็นพาเขาไปที่โต๊ะอาหาร

ต่อจากนั้นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็เริ่มลงมือรินสุรามงคลให้นางด้วยตนเอง และมิทันรอให้สุราได้กำจายกลิ่นจรุงออกมา เขาก็ทำท่าจะยกจอกสุราของตนเองขึ้นมาแล้ว ดูอย่างไรก็รู้ว่าต้องการรีบเร่งพิธีให้จบอย่างไม่คิดจะปิดบัง หรือแม้แต่คิดจะรักษาน้ำใจนาง

ถึงแม้ใบหน้าของเจียงเยี่ยนฟางจะเรียกได้ว่าสามัญจนแทบจะไม่น่ามอง แต่แววตาคู่ที่อยู่พ้นผ้าปิดหน้าขึ้นมากลับสว่างไสวราวกับแสงดาว ยามนี้ดวงตาคู่นั้นที่กำลังชำเลืองมองจอกสุราก็สั่นไหวเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะปรายตาไปมองมือเรียวยาวของผู้ที่ตนเพิ่งเข้าพิธีมงคลด้วย กำลังยกจอกสุราขึ้นมา

นางก็รีบคว้าจอกสุราของตัวเองตามมาติด ๆ แต่กลับไม่ระวัง ตอนที่กำลังจะยกจอกไปหาอีกฝ่าย มือก็ปัดกาสุราหล่นจากโต๊ะจนตกแตก เสียงเคร้งคร้างของกาสุราที่ทำมาจากหยกชั้นดีก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ แม้นกาหยกจะมีราคาแพง แต่ช่างแสนเปราะบาง เมื่อหล่นลงพื้นก็แตกกระจายไปคนละทิศละทางจนไม่เหลือรูปร่างเดิม

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เพราะความตกใจและมัวแต่หันไปมองตามกาสุราที่หล่นลงไป เจียงเยี่ยนฟางยังเผลอปัดมือไปชนกับมือของเซียวลี่หยางอย่างแรง เป็นผลให้จอกสุราของทั้งคู่หลุดออกจากมือไปพร้อมกัน

"..." เซียวลี่หยาง

เจียงเยี่ยนฟางรีบทรุดตัวนั่งลงหน้ารถเข็น ตัวสั่นงันงก "ขออภัยเพคะ ขออภัยเพคะท่านอ๋อง" นางเอ่ยด้วยเสียงอันสั่นเครือและรวดเร็ว แต่ภายใต้ใบหน้าที่ก้มอยู่ ดวงตากลับมองหาจอกสุราที่หล่นไปเมื่อครู่ว่าแตกไม่เหลือชิ้นดีเช่นกันกับกาสุราแล้วหรือไม่

ก่อนหน้านี้ตอนที่ทำจอกหลุดมือ คราแรกยังคิดว่าท่านอ๋องคงจะอารมณ์เสียใส่นาง เพราะดูจากการกระทำที่ผ่านมาตั้งแต่เจอหน้ากันเขาก็เอาแต่ไม่ชอบใจนาง ยามนี้มันควรจะเป็นอย่างที่นางคาดไว้ แต่เขากลับเพียงแค่ผ่อนลมหายใจแรง ๆ ออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจแทน ไม่เหมือนคนในตระกูลของนางที่แม้นจะเป็นตระกูลอันมีชื่อเสียง แต่การกระทำกลับไม่สูงส่งเหมือนคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

เจียงเยี่ยนฟางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่นั่งอยู่สูงกว่า ใบหน้าใต้ผืนผ้าบางนั้นแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

"คุณหนูใหญ่เจียง เพียงแค่พิธีง่าย ๆ เจ้าก็ทำให้มันพังลงได้ ช่างมีความสามารถยิ่งนัก" หากแต่เมื่อเขาเอ่ยวาจาแล้วนั้น แม้ไม่ด่าทอทว่ากลับเจ็บแสบยิ่งนัก

คนฟังได้แต่นิ่งงัน ตกอยู่ในสภาพที่ไม่รู้ว่าควรเอ่ยสิ่งใดได้อีก กล่าวเช่นนี้ มิสู้ตบหน้านางเสียยังดีกว่า มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังคงกล่าวต่ออีกว่า

"แม้เจ้าจะถูกส่งไปอยู่บ้านเดิมของมารดาที่ห่างไกล แต่อย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรสาวของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักอยู่ดี อีกทั้งยังได้ตบแต่งมาเป็นเช่อฝูจิ้น [1] ในจวนชินอ๋อง อย่างไรก็ควรวางตัวให้ดีกว่านี้"

"หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ ขอท่านอ๋องโปรดอภัย..." เจียงเยี่ยนฟางคลานเข่าเข้าไปเกาะที่หัวเข่าของอีกฝ่าย หยาดน้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาคู่สวยจนดูน่าเวทนา

"ข้าขอเตือนเจ้า..." เซียวลู่หยางใช้มือบีบแก้มชายารองคนใหม่ของตนแน่น บังคับให้นางเชิดหน้าขึ้นมาสบตาตนเอง ไม่สนว่าอีกฝ่ายอยู่ในอาการหวาดกลัวตนเอง จนมือที่กำลังเกาะอยู่บนหัวเข่าของเขาจะสั่นเพียงไร นางก็แค่หมากตัวหนึ่งที่จะต้องกำจัดทิ้งในสักวัน ไม่ต้องให้เขานำมาใส่ใจ

[1] เช่อฝูจิ้น คือ ตำแหน่งพระชายารองของชินอ๋อง มีได้ทั้งหมดสี่คน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel