บท
ตั้งค่า

6. ไม่สมปรารถนา (2)

“ท่านพี่ให้เสี่ยวปิงไปด้วยมิได้หรือเจ้าคะ อย่างน้อยก็ให้นางไปปรนนิบัติท่านพี่” เหลียงอี้ถงพูดไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจอยากให้บุตรสาวได้มีโอกาสได้พบบุรุษยศสูง

เพราะแม้ท่านชายอี้โจวมียศศักดิ์ แต่ก็เป็นเพียงบุตรชายชินอ๋อง หากมีเชื้อพระวงศ์สายตรง อย่างองค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายมาสนใจเสี่ยวปิงของนาง ก็คงเป็นเรื่องดี

“เหลียงอี้ถง นับวันเจ้ายิ่งจะไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติ กลับเข้าห้องตนเองไปเสีย อย่าทำให้ข้าปวดหัวนักเลย” ท่านราชครูถือเรื่องกฎเกณฑ์เป็นที่สุด แต่อนุของเขาผู้นี้ กลับคะยั้นคะยอให้เขาพาบุตรสาวคนโตไปด้วย

หากเสี่ยวปิงเป็นบุตรฮูหยินเอก ไหนเลยเขาจะไม่ให้นางไป แต่งานเลี้ยงเหล่านี้ มีเพียงบุตรที่เกิดจากฮูหยินเอกเท่านั้น ที่สามารถออกงานได้

“ท่านพี่ก็เป็นเช่นนี้ทุกที เสี่ยวปิงมิใช่ลูกท่านหรืออย่างไรกัน”

“เฮ้อ! อาหัว พาน้องสาวเจ้าขึ้นรถม้า ประเดี๋ยวจะไม่ทัน” ท่านราชครูสวีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพยุงภรรยาเอกขึ้นรถม้าไป

ไม่นานนักรถม้าของสกุลสวี ก็เดินทางมาถึงลานพิธีในพระราชวัง เนื่องด้วยสวีเหมิงซานเป็นถึงราชครูขององค์ฮ่องเต้และชินอ๋อง จึงมีผู้คนเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย

ลี่อิ่งเองก็นั่งพูดคุยกับเหล่าคุณหนูหลายสกุลที่เคยรู้จัก กระทั่งฮ่องเต้และฮองเฮาพาองค์ชายน้อยเข้ามาในลานพิธี งานเลี้ยงจึงเริ่มขึ้น

“ดูท่าโอรสของข้าจะชื่นชอบการแสดงนี้ ใช่หรือไม่หลี่เฉียง”

“พ่ะย่ะค่ะ งดงามยิ่ง” เด็กน้อยวัยสาวหนาวพูดเจื้อยแจ้ว

“ฮ่าๆ เช่นนั้นก็ตกรางวัลให้พวกนางเสียหน่อย”

ลี่อิ่งอดยิ้มให้กับความช่างพูดของเด็กน้อยไม่ได้ แม้จะรู้สึกหน่วงๆ อยู่บ้าง แต่นางก็พยายามเก็บซ่อนความโศกเศร้าที่สูญเสียบุตรไว้ เพราะวันนี้ถือเป็นวันดี

“อิ่งเอ๋อร์ วันนั้นเจ้ากับท่านแม่ทัพมีเรื่องกันรุนแรงหรือ พี่ใหญ่เห็นเขาหันมามองเจ้าอยู่หลายครา” เพราะเคยชินกับการอยู่ในค่าย สวีต้าหัวจึงเอ่ยเรียกว่าที่น้องเขยว่าท่านแม่ทัพ

“มิมีสิ่งใดเจ้าค่ะ พี่ใหญ่อย่าได้ใส่ใจ ท่านดูแม่นางน้อยพวกนั้นร่ายรำเถิด อยู่ในค่ายคงไม่ได้เห็นกระมัง”

“ก็จริง ฮ่าๆ แต่ละคนงดงามทั้งนั้น” ลี่อิ่งส่ายหัวให้กับท่าทีกระชุ่มกระชวยของพี่ชาย ก่อนจะปรายตาไปทางที่นั่งของเชื้อพระวงศ์ ซึ่งก็เป็นอย่างที่พี่ใหญ่พูด

เขามองนางอยู่จริงๆ

แต่ไม่นานอีกฝ่ายก็มองไปทางอื่น ลี่อิ่งจึงไม่คิดจะสนใจ หันมาดูความน่ารักขององค์ชายน้อยแทน

เด็กชายวัยสามขวบพูดคุยไม่หยุด เดินไปหาคนนั้นทีคนนี้ที ทั้งยังอ้าปากรับเอาอาหารที่มารดาป้อน ด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย

แต่แล้วคิ้วได้รูปก็ขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าองค์ฮองเฮากำลังป้อนบางอย่างให้องค์ชายน้อย

“ช้าก่อนเพคะ! นะ น้ำแกงนั่นมีส่วนผสมของกุ้ง” ลี่อิ่งตะโกนออกมาท่ามกลางการร่ายรำ ทำให้นักดนตรีต้องหยุดเล่น

“คุณหนูสวีว่าอย่างไรนะ” คำถามขององค์กษัตริย์ทำให้คนในลานพิธีจ้องมาที่สวีลี่อิ่งเป็นตาเดียว

“เมื่อครู่หม่อมฉันชิมน้ำแกง พบว่าเนื้อหมูบดที่ปั้นเป็นก้อน มีส่วนผสมของกุ้งอยู่เพคะ ฝ่าบาท”

เรื่องที่องค์ชายน้อยแพ้กุ้งมิได้เป็นความลับ ไม่แปลกที่ลี่อิ่งจะรู้ ดีที่นางชิมน้ำแกงถ้วยนี้แล้ว จึงได้เอ่ยเตือนทันเวลา

“ฝ่าบาท เป็นจริงอย่างที่คุณหนูสวีว่าเพคะ” ฮองเฮาลองตักเข้าปาก ก็พบว่ามีส่วนผสมของกุ้งอยู่จริงๆ

“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ลูกของตรวจสอบด้วยตนเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม ให้พ้นงานนี้ไป รัชทายาทก็จัดการให้เรียบร้อยเถิด” องค์รัชทายาทเจี้ยนหลิวเหว่ยรับคำสั่ง

เรื่องนี้อาจจะเป็นเพียงความผิดพลาด หรือมากกว่านั้น อย่างไรเสียก็ต้องตรวจสอบให้รู้เรื่อง มิเช่นนั้นน้องชายร่วมมารดาของเขาคงต้องตกอยู่ในอันตราย

“ดีที่คุณหนูสวีเตือนไว้ก่อน หม่อมฉันจึงยังไม่ได้ป้อนน้ำแกงให้กับหลี่เฉียง” องค์ฮองเฮาถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลันทำให้ทุกคนในลานพิธีพลอยยินดีไปด้วย

“ขอบใจคุณหนูสวีมาก เจ้าอยากได้สิ่งใดเล่า ข้าจะให้เป็นรางวัลตอบแทน” ก่อนหน้าก็เอ็นดูบุตรสาวของท่านอาจารย์อยู่แล้ว ยิ่งนางช่วยชีวิตโอรสของพระองค์ไว้ ก็ยิ่งรู้สึกยินดี

“เอ่อ มิเป็นไรเพคะ หม่อมฉันเพียงเป็นห่วงองค์ชายน้อยเท่านั้น”

“ว่ามาเถิด เจ้าอยากได้สิ่งใด ข้าจะมอบให้”

สวีเหมิงซานพยักหน้าให้บุตรสาวเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไป เพราะการไม่รับของพระราชทานจากฝ่าบาท มิใช่เรื่องดีนัก

“หม่อมฉันมีเพียงเรื่องเดียวที่อยากให้ฝ่าบาทช่วยเหลือเพคะ”

“เจ้าว่ามา”

“หม่อมฉันกำลังจะแต่งให้กับท่านชายเจี้ยนอี้โจวในอีกสามเดือนข้างหน้า” ลี่อิ่งเหลือบไปมองสีหน้าร้อนรนของว่าที่สามีเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอออกไป

“…”

“จึงมิอยากให้ท่านชายแต่งสตรีใดเข้ามา นับจากนี้ไปอีกสามปี”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel