บทที่5 คำตอบที่ไม่ต้องการ
ลงมาจากบนฝากฟ้า ที่ตกหนัก2วันสองคืนไม่มีหยุดเหมือนดั่งน้ำตาที่ไหลลงบนอาบเเก้มของชายหนุ่มที่ร้องไห้ปานจะขาดใจเพราะเสียเเม่อันเป็นที่รักไป
"ฮึกก.นะนาย...แม่ครับแล้วคินทร์กับกันต์เเละก็พี่พีร์จะอยู่ยังไงล่ะครับบนายแม่..ฮึกกฮือออ~
ลูกชายคนเล็กร้องปานจะขาดใจหน้ารูปศพของคนเป็นแม่ ก่อนที่ กันต์พี่ชายคนกลางจะเข้ามาโอบกอดที่คอของน้องชายเพื่อให้ความเสียใจนั้นทุเลาลงบ้าง ส่วนรณพีร์นั้นก็ได้เเต่ยืนนิ่งไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด ยืนไร้ความรู้สึก...ไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น
"คุณพีร์คะ..คุณเมธท่านเรียกหาค่ะ
"......
“เรียกผมทำไมครับ
รณพีร์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเปรยสายตามองสาวใช้ที่ชื่อละมัย
(“ท่านมีบางอย่าง อยากจะพูดด้วยค่ะ
“……..
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปตามที่ สาวใช้บอก … พอเดินไปถึง ที่นั่งของเจ้าภาพก็เห็นว่าคนเป็นพ่อนั้นกำลังยืนคุยกับเเขกด้วยใบหน้าเศร้าหมอง อีกทั้งยังมีน้ำตาไหลออกมาจากนัยต์ตาอีกด้วย..รณพีร์ได้เเต่คิดอยู่ภายในใจไม่ได้พูด
“พ่อนี่เล่นละครเก่งจริงๆ
ก่อนที่สายตาจะชำเรืองมองไปที่หญิงสาวคราวรุ่น ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ ทว่านั่งส่ายเท้าไปมาอย่างสบายใจด้วยซ้ำ
“อ่าวว..นั่นรณพีร์ลูกชายคนโตของคุณเมธใช่มั้ย?
นักธุรกิจหนุ่มที่เเก่คราวเดียวกับพ่อเอ่ยทักเมื่อเห็นว่ารณพีร์เดินหน้างอคอตกมา
“ใช่นั่นลูกชายคนโตผมเอง…มานี่สิลูก
“…….
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคนเป็นพ่อก่อนจะ ยกมือสวัสดีนักธุรกิจหนุ่มคนนัเนเพื่อเป็นมารยาท
“ไหว้พระเถอะลูก…น้าเสียใจด้วยนะ
“……..
“เอ่อ…พอดีลูกชายคนนี้ของผมเป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะ
“เห้ออ..แบบนี้ยิ่งต้องพูดคุยกับเขาให้มากๆ นะคุณเมธ ไม่งั้นเด็กอาจจะเป็นซึมเศร้าได้ เด็กอายุ14เอง ต้องมาเสียเเม่ไปแบบนี้น่าสงสารจริงๆ
นักธุรกิจคนนี้พูดพร้อมกับยกมือขึ้นจะลูกหัวของเด็กชาย เเต่รณพีร์รั้นหันหน้าหนีเสียก่อน ทำให้นักธุรกิจหนุ่มคนนี้หน้าเสียขึ้นมา
“……
“เอ่ออ..
“คุณก็พูดเกินไป..ผมเองก็เสียใจเหมือนกันที่เมียผมมาด่วนจากไปสะก่อน เเต่ยังดีที่มีเบญญา
“…!!
ทำไมพ่อถึงชอบอ้างผู้หญิงคนนั้นอยู่เรื่อย!!...รณพีร์ไม่อยากจะได้ยินสิ่งที่พ่อของตัวเองกำลังจะเอ่ยตนเลยเลือกที่จะเดินหนีเเต่ก็ถูกผู้เป็นพ่อคว้าเอาไว้
หมับบ!!!!
“เดี๋ยวสิ!!!
“……
“เเล้วเเบบนี้ …เบญญาก็จะขึ้นมาเป็นภรรยาเอกเเล้วล่ะสิ
“หึคงต้องเป็นแบบนั้นล่ะครับ
“….
“เบญญาน่ะ เขานิสัยดีนะ เข้ากับทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี ทีเเรกผมก็คิดว่าจะมีปัญหากับพิมพรรณเเละลูกๆ ที่ไหนได้เข้ากันได้ดีเลยล่ะ..เเล้วพอเธอตื่นขึ้นมารู้ว่าพิมเสียเธอร้องไห้ร้องห่ม ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะรักพิมมากขนาดนี้ เธอรักพิมเหมือนพี่สาวคนนึง
“…….
บัดซบสิ้นดี…ในสิ่งที่พ่อพูดมา คำพูดทุกตำไม่ต้องเล่าให้ฟังก็รู้ว่าหลงผู้หญิงคนนี้มากเพียงไหน เเทบจะถวายชีวิตเลยก็ว่าได้ เขาเองก็เบื่อที่จะยืนฟังเต็มทน จึงวะบัดเเขนของตัวเองให้หลุดจากอุ๋งมือของผู้เป็นพ่อก่อนจะหันหน้าเดินออกไป เเต่…ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินประโยคนี้ตามหลังมา
“เเล้วแบบนี้ เบญญาก็เปรียบสเหมือนเเม่เเท้ๆ ของคุณชายทั้งสามเลยน่ะสิครับ?
"...หึ..ก็ต้องแบบนั้นอยู่เเต่ก็ต้องให้เวลาพวกลูกๆของผมได้ทำใจกันหน่อยช่วงนี้ก็... ผมก็ยังทำใจยอมรับพิมพรรณที่พึ่งเสียไปไม่ได้เหมือนกัน
"พ่อว่าไงนะครับ!??
เด็กชายหัดมาสบตาผู้เป็นพ่อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตะหวัดสายตาไปทางชายหนุ่มที่พูดคำเเย่ๆแบบนี้ออกมาได้ยังไง
"น้าพูดอะไรผิดหรอ?....ถึงมองน้าแบบนั้น
"ปากหมา!!!พูดออกมาได้ยังไงเเกเป็นส่วนไหนของครอบครัวเราถึงรู้ดีไปหมด!
ใบหน้าเเดงก่ำเพราะความโกรธก่อนจะสาดคำพูดไปที่ชายหนุ่ม คำพูดที่เกินเด็กทำให้คนที่ได้ฟังนั้น สะอึกอยู่เหมือนกัน.... เมธธายืนมองสิ่งที่ลูกชายพูดอย่างไม่สบอารมณ์
"รณพีร์!!!
เสียงเรียกชื่อลูกชายดังก้องไปทั้งงานจนคนหันมามองกันเป็นตาเดียวรวมถึงเบญญาด้วย ที่หันมามองจ้องเด็กชายหนุ่ม
"แล้วผมพูดผิดตรงไหมครับพ่อ!...ที่แม่ต้องตายไม่ใช่เพราะมันหรอ!!!
"รณพีร์!!!เงียบบ
"ทำไมครับ ?หรือพ่อรับความจริงไม่ได้หรอ ที่พ่อพูดมามันเรื่องโกหกทั้งนั้นอ่ะ!!.
("เเกนี่มันอะไรกันไหนคุณเมธบอกรักกันดีไง?)
("ฉันว่าการตายของคุณหญิงพิมพรรณน่าสงสัยนะ)
("นั่นสิ...ถ้าไม่งั้นพิมพรรณจะผูกคอตายทำไม?)
คนในงานเริ่มมีความเห็นที่ต่างกันออกไป ทำให้เบญญานั้นนั่งไม่ติดเก้าอีก เธอเอาสองมือมาประสานกันไว้ที่หน้าตักก่อนจะมองจ้องไปที่ เด็กชายหนุ่มวัย14ที่กำลังยืนเถียงพ่อตัวเองอย่างไม่กลัวเกรง.. จึงมีความคิดอยูาในใจว่า ถ้าเด็กคนนี้ยังอยู่ อะไรคงยากขึ้นเเน่ เพราะเด็กชายคนนี้ไม่เป็นมิตรกับเธอมาตั้งเเต่ต้นอยู่เเล้ว
"นี่!!ถ้าเเกยังไม่หยุดนะ
หมับบ!!!
