ตอนที่สี่ รู้สึกดีเช่นนี้เอง2 (NC)
ตอนที่สี่ รู้สึกดีเช่นนี้เอง
“หากท่านเหงามากเหตุใดไม่หาภรรยาสักคนหรือไปที่หอคณิกา ข้าได้ข่าวมาว่าแม่นางลี่ปี้รอท่านอยู่ทุกวัน ข้าเป็นหญิงสาวดีงามคนหนึ่ง ภายหน้ายังต้องแต่งงานมีสามี ไม่ใช่ของเล่นที่ท่านจะนำมาขยำขยี้แล้วทำตามใจชอบ” ตวนมู่เจียวพยายามต่อรอง
“ลี่ปี้คนงาม เชอะ มิใช่เพราะนางหรือ ข้าจึงต้องหาทางออกไร้ยางอายเช่นนี้”
ตวนมู่เจียวไม่คิดว่าการเอ่ยชื่อคณิกาคนงามจะจุดโทสะของแม่ทัพหนุ่มให้เพิ่มขึ้น
“ในเมื่อเจ้าปากเก่งไม่เกรงกลัวใคร อีกทั้งข้าไม่มีการศึกให้กระทำ เช่นนั้นอยู่เล่นกับข้าสักหลายวันเถอะ”
โยวหย่งคังสรุปเองก่อนจะถอดกางเกงที่เหลือติดกายจนมังกรตัวเขื่องเด้งผงาดขึ้นชี้หน้า
ตวนมู่เจียวตาเหลือกตะเกียกตะกายพุ่งหนีก่อนจะถูกลากขากลับมาด้วยแรงที่มากกว่า
“ปล่อยข้า ข้ากลัวแล้ว” หญิงสาวร้องอ้อนวอนเสียงสั่น
แม้จะเคยลอบดูการร่วมรักของเหล่าคณิกา แต่ภาพที่เห็นย่อมเป็นแท่งเนื้อที่กำลังสอดใส่ทิ่มแทงจึงไม่อาจมองได้ถนัด ไฉนเลยจะเคยพานพบแท่งกายซึ่งใหญ่โตปูดโปนน่ากลัวเพียงนี้
ยามนี้ผ้าปกปิดใบหน้าของตวนมู่เจียวถูกดึงทิ้งไปนานแล้วจึงเผยความอ่อนหวานงดงามชวนให้น่าสงสาร
โยวหย่งคังพิศมองความงามมากเสน่ห์ซึ่งเคยเห็นยามลอบติดตามและหญิงสาวเผลอไผลอยู่หลายครา
ครั้งแรกเขาเพียงสงสารสองแม่ลูกซึ่งทำงานหาเงินอย่างยากลำบากอีกทั้งเห็นว่าเด็กน้อยกำพร้าบิดาเช่นเดียวกัน
จนเมื่อนางกำพร้ามารดาอีกคน ความสงสารจึงเปี่ยมล้นคิดหาหนทางช่วยเหลือ โดยไม่คาดคิดว่ากลับได้พบการลอบส่งข่าวให้กับคนแคว้นต๋า
ยังดีที่ข่าวสารเหล่านั้นไม่ใคร่สำคัญ แม่ทัพหนุ่มจึงปล่อยผ่านและจับตามองตวนมู่เจียวมากขึ้นจนได้เห็นความงดงามที่เติบโตขึ้นตามกาลเวลา
แม้นางจะน่าสงสารแต่ยามนี้เขาไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้แล้วมีแต่ต้องเดินหน้าเท่านั้น
“เจ้าหรือจะกลัวจริง ตวนมู่เจียว เมื่อครู่ยังปากกล้าเถียงข้าไม่หยุด” ชายหนุ่มกระชากเสื้อตัวนอกของหญิงสาวออกขว้างทิ้งอย่างไม่ไยดีก่อนจะคว้าเสื้อบังทรวงดึงออกตามกันไปจนเนื้อขาวโดนบาดเป็นรอย
“ว้าย...” เสียงเล็กกรีดร้องพลางใช้มือปกปิดแตงสองลูกอันใหญ่โตของตนเอง
ทรวงอกขาวสล้างเต่งตูมเผยความเย้ายวนเรียกสายตาหิวกระหายจากร่างสูงซึ่งออกแรงเพียงนิดก็จับสองมือเล็กรวบเอาไว้ได้ด้วยมือเดียว
“ไม่คิดว่ารูปร่างบอบบางกลับมีเต้าทรวงน่าขย้ำเช่นนี้ ดีจริง น่ากินนัก” ปากหนาก้มลงขบเม้มพลางดูดดุนซาลาเปาสองลูกราวอาหารอันโอชะ
“อย่า...อย่ากัดข้า”
สาวน้อยดีดดิ้นพยายามหันทรวงอกอวบให้หนีห่างความอุ่นชื้นที่ละเลงเลียลงมา
แต่มือเรียวขาวทั้งสองถูกจับไว้แน่นไม่อาจหลีกหนี ตวนมู่เจียวทำได้เพียงดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลืมตัวเด้งร่างขึ้นเพื่อส่งความอวบหยุ่นเข้าปากให้เขาได้ดื่มกินด้วยความรู้สึกแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส
อื้อ...รู้สึกดีเช่นนี้เอง
มิน่า...บรรดาพวกพี่สาวที่หอคณิกาจึงชื่นชอบให้ชายหนุ่มดูดกลืนทรวงอกของตนเอง
เมื่อหญิงสาวเริ่มคล้อยตามโยวหย่งคังจึงปล่อยมือนุ่มแล้วหันมากอบโกยบีบขยำความอวบอิ่มทั้งสองข้างส่งเข้าปากสลับไปมา
ริวฝีปากอุ่นบีบบี้บดขยี้เม็ดสีชมพูซึ่งแข็งแน่นสลับเงยขึ้นจุมพิตหวามไหวแล้วลากริมฝีปากร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้างาม
ความอุ่นชื้นไล่เลียทั้งขมเม้มซอกคอขาวผ่อง ติ่งหูน่ารัก เนินขาวสล้างจนถึงหน้าท้องเรียบเนียน
กว่าตวนมู่เจียวจะรู้ตัวส่วนกลางกายของนางก็เย็นวาบเสียแล้ว เรียวขาขาวถูกจับแยกออกเปิดจังหวะให้มือใหญ่เข้าลูบไล้ร่องดอกไม้แดงพลางหยอกเย้าติ่งสีหวาน
ยามนิ้วเรียวบดคลึงเล้าโลมไปทั่วซอกกลีบสลับกับติ่งแดงแข็ง ตวนมู่เจียวถึงกับลืมตัวส่งเสียงครางกระเส่าเด้งร่องกลีบงามให้ชายหนุ่มได้เชยชม
อื้อ...เสียวจัง ดีกว่าทำเองตั้งมาก
มิน่า ท่านแม่จึงบอกว่าไม่เหมือนกัน
หญิงสาวเคลิบเคลิ้มล่องลอยไปกับลีลาพลิ้วไหวของแม่ทัพหนุ่ม แม้เขาจะไม่ได้ร่วมรักมานานปี แต่เรื่องเช่นนี้ย่อมศึกษามาบ้างไม่น้อยทีเดียว
โยวหย่งคังเห็นร่างน้อยเลิกขัดขืนและคล้อยตามด้วยความหวามไหวจึงลงมือโลมเลียความงดงามตรงหน้าอย่างหิวกระหาย
