บทที่ 1 หญิงสาวที่มาเคาะประตู
ชายหนุ่มรูปร่างท้วมในชุดสีเขียวอ่อน เสื้อตัวนอกโปร่งใสชวนวาบหวามจนเกินกว่าจะเป็นชุดปกติของบุรุษทั่วไปได้ เขาเดินไปดูหน้าต่างที่เพิ่งลงกระดาษใหม่ ยังคงมีกลิ่นหอมเฉพาะของกระดาษอย่างดีและยางไม้ราคาแพงลอยออกมาจากหน้าต่างพวกนั้น
ปลายนิ้วผอมและเรียวยาวยื่นออกไปผลักหน้าต่างให้เปิดออก สายลมพัดเข้าทางหน้าต่าง ส่งลมหนาวสายหนึ่งเข้ามากระทบใบหน้าของชายหนุ่ม เรือนผมดำสลวยราวกับเส้นไหมของเขาปลิวสยาย เผยใบหน้าหล่อเหลาที่ยากจะหาใครงดงามเท่า
ขนตายาวบนดวงตากลมโต แต่ปลายหางตากลับเฉียงขึ้น งดงามราวกับดวงตาของหงส์ ขับให้ใบหน้าเรียวยิ่งดูทระนงน่าค้นหา แก้มเนียนถูกทาแป้งจนขาวผิดปกติ ริมฝีปากบางแต่งแต้มสีชาดจนแดงราวกับสีเลือด ไม่เข้ากับใบหน้าหยิ่งทะนงของเจ้าของ แต่เขาคล้ายไม่ได้ใส่ใจ สายตาของเขามองออกไปทางแม่น้ำด้วยความโหยหา
แม้อากาศในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูคิมหันต์จะยังหนาวเย็นอยู่บ้าง แต่บุรุษชุดเขียวกลับยืนนิ่งที่หน้าต่างจ้องมองแม่น้ำ ไม่สะทกสะท้านกับลมหนาว ราวกับแม่น้ำสายนั้นมีสิ่งที่เขาเฝ้าคะนึงหาอยู่ แม้ยามนี้ท้องฟ้าจะมืดมิดแทบมองไม่เห็นสายน้ำและข้างหน้าต่างก็ติดโคมไฟสีแดงแสบตาอยู่เต็มไปหมดก็ตาม
ก๊อก ๆ ๆ !!
เสียงเคาะประตูดังลั่นหลายครั้ง เรียกสติของชายชุดเขียวให้หันกลับไปมองที่ประตู เขาเห็นผ้าม่านสีเขียวอ่อนที่สะท้อนโคมไฟสีแดงกำลังสั่นไหว คนเคาะประตูคงจะเคาะแรงมาก
ปึง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !
เสียงเคาะประตูดังรัวอีกครั้งคล้ายกับว่าคนข้างนอกมีเรื่องกำลังรีบร้อนมาก
"มาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบ เสียงของเขาเล็กและใสกังวาน แต่ก็นุ่มนวลน่าฟัง ไพเราะราวกับเป็นเสียงของนกขมิ้น ฟังผิวเผินยากจะคาดเดาว่าเป็นบุรุษหรือสตรี
ชายกระโปรงสีเขียวอ่อนโปร่งใสสะบัดไปมายามที่เขาเดินไปเปิดประตู ทุกย่างก้าวงดงามชวนมอง น่าเสียดายที่ยามนี้ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องคอยชมท่วงท่าการเดินอันงดงามของเขา
รองเท้าของเขาดูแล้วประหลาดตายิ่ง เพราะถูกเย็บหลอกให้เข้าใจว่าเขาเสริมส้นรองเท้าจนสูงมากกว่าปกติ สตรีและบุรุษที่นี่อาจเสริมส้นรองเท้าเพื่อให้ดูสูงส่งสง่างาม เขากลับต้องสร้างเรื่องโกหกเพื่อหลอกลวงไปทางอื่น แม้ตัวเขาจะสูงกว่าแปดฉื่อ [1] แต่รองเท้าหลอกตาทำให้เขาดูแล้วเหมือนว่าสูงเพียงเจ็ดฉื่อเท่านั้น
ชายหนุ่มยื่นมือไปเปิดประตู บานประตูเปิดยังไม่ทันกว้างพอ คนข้างนอกก็รีบร้อนเบียดตัวเข้ามาในห้อง ผลักตัวบุรุษในชุดเขียวจนล้มลง พร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้ฝ่ามือนั้นจะรูปร่างเล็กไปสักหน่อย
"อย่าส่งเสียง" เสียงสตรีพูดข่มขู่
บุรุษในชุดเขียวอ่อนมองสตรีที่นั่งคร่อมเขาอยู่ด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาชิงชังผู้ที่ไม่ทำตามกฎเกณฑ์บุกเข้ามาหาเขาถึงในห้องเช่นนี้ที่สุด!
หญิงสาวที่เพิ่งบุกเข้ามาในห้องมองสบตาผู้ที่นางนั่งคร่อมอยู่ นางรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัว โกรธเคือง รังเกียจและความอึดอัดในสายตานั้น นางจึงรีบลุกขึ้น
“ขออภัย” หญิงสาวพูดและหันไปปิดประตูลงกลอน ก่อนจะก้มลงช่วยพยุงบุรุษในชุดเขียวด้วยความเป็นห่วง แต่เขากลับสะบัดมือของนางทิ้งด้วยความรังเกียจ
"ขออภัยแม่นางด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจทำให้เจ้ากลัว" นางเข้าใจผิดว่าเขาเป็นสตรีผู้หนึ่ง เพราะดูจากหน้าตาท่วงท่าและการแต่งกายของเขาแล้ว ช่างงดงามเกินกว่าจะเป็นบุรุษเพศไปได้
"..." ชายหนุ่มในชุดเขียวนิ่งอึ้ง เขาเองก็เข้าใจผิดนึกว่านางเป็นพวกที่หลงใหลคลั่งไคล้ตัวเขาจนทนไม่ไหวและบุกเข้ามาหาถึงในห้องหอ
ที่แท้สตรีผู้นี้กลับไม่รู้จักเขา ทั้งยังเข้าใจผิดว่าเขาเป็นสตรี ที่สำคัญนางใส่ใจความรู้สึกของเขา แม้จะเพียงสบตาก็เข้าใจว่าเขากำลังอึดอัดกับสัมผัสของนาง
"แม่นางอย่าได้กลัว ข้าเพียงกำลังเดือดร้อน อยากขอความช่วยเหลือจากท่าน ได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย หากท่านช่วยข้า ข้าให้สัญญาว่าจะตอบแทนท่านทุกอย่างตามที่ท่านขอ"
ชายหนุ่มในชุดเขียวลุกขึ้น มองท่าทางร้อนรนของสตรีตรงหน้า นางหันไปมองประตูครั้งหนึ่งหันมาขอร้องเขาครั้งหนึ่ง และหันไปมองที่ประตูอีก สายตายามที่นางขอร้องเขาราวกับต้องการความช่วยเหลืออย่างยิ่ง
‘เฮอะ..ประจบประแจงเก่งจริง’ ชายหนุ่มคิด เพราะสตรีน้อยเปลี่ยนคำเรียกขานเขาจาก เจ้า เป็น ท่าน
เขามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง แม้หน้าตาของหญิงสาวจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่แววตากลมโตราวกับผลซิ่งนั้นกลับชวนมองอย่างประหลาด สองข้างแก้มก็กลมราวกับอมหมั่นโถวสองลูกเอาไว้ ดูแล้วยังอ่อนเยาว์ อายุนางคงไม่เกินสิบแปด
เสื้อผ้าและการเกล้าผมของนาง เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสาวใช้ของจวนผู้มีอำนาจสักคนหนึ่ง อีกทั้งด้านนอกยังเริ่มมีเสียงครึกโครมของฝีเท้า คล้ายมีคนกำลังตามล่าสตรีผู้นี้อยู่
ชายหนุ่มไม่ต้องคิดให้มากความก็รู้ว่าไม่อาจให้ความช่วยเหลือสาวใช้หลบหนีผู้นี้ได้ เขาอาจทำให้ผู้มีอำนาจคนใดคนหนึ่งไม่พอใจเพียงเพราะสาวใช้คนเดียว และเขายังรักชีวิตอยู่
แต่..การที่นางใส่ใจความรู้สึกของเขา เข้าใจและไม่หักหาญความต้องการของเขา มันทำให้เขาลังเล..ตัดสินใจไม่ได้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้พบกับคนที่ไม่พยายามเอาเปรียบตัวเขา แม้จะยืนอยู่ใกล้กันเพียงเท่านี้
ในที่สุดบุรุษในชุดเขียวก็พยักหน้ายอมให้ความช่วยเหลือกับสตรีตรงหน้า ยามนั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจะต้องให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ดูก็รู้ว่าต้องนำความเดือดร้อนมาให้เขา
"ขอบคุณ ขอบคุณแม่นางมากๆ ข้าจะต้องตอบแทนท่านแน่นอน" สตรีผู้นั้นยิ้มด้วยความดีอกดีใจ
นางทำท่าว่าจะมากอดแขนเพื่อขอบคุณเขา แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าสตรีในชุดเขียวไม่ชอบให้โดนตัว นางจึงรีบถอยออกไปและย่อตัวขอบคุณ
"ขอบคุณแม่นางมากจริงๆ"
ชายหนุ่มในชุดเขียวดูท่าทางของหญิงสาวที่กำลังยิ้มราวเด็กน้อยแล้วให้ความรู้สึกแปลกประหลาดในอกอย่างบอกไม่ถูก
"ไม่ต้องเกรงใจ" เขาเอ่ยตอบ
“เชิญทางนี้”
[1] 1 ฉื่อ เท่ากับ 23-24 เซนติเมตรโดยประมาณ
