EP 7 - เหตุผลที่ไม่ชอบหน้า
EP 7 - เหตุผลที่ไม่ชอบหน้า
“เพียงขวัญ!”
“โอ๊ย อะไร จะเสียงดังทำไมเนี่ย ไม่อายคนอื่นเขาหรือไง”
เพียงขวัญเอ็ดใส่น้ำอิงเพื่อนสาวที่เรียกชื่อของตนเสียงดังลั่นโรงอาหาร มือเรียวยกขึ้นกุมขมับตัวเองก่อนจะหยิบกาแฟขึ้นมาดูด
เมื่อคืนที่เพียงขวัญหนีกลับก่อนทำให้ทั้งพี่ชายและเพื่อนสนิทต่างพากันส่งข้อความมาทักถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หญิงสาวได้แต่ตอบไปว่าไม่มีอะไรเธอแค่รู้สึกง่วงและเริ่มเมา
แต่มีเหรอคนอื่นจะดูไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร!
“ก็เรียกแกตั้งหลายรอบแล้วก็ไม่ตอบ หูเป็นอะไรก่อน”
“ก็ได้ยินแล้วนี่ไง แล้วเรียกทำไม”
“จะถามว่าข้อนี้ทำยังไง มึงเอาแต่เหม่ออะ”
เพียงขวัญถอนหายใจก่อนจะมองโจทย์ในไอแพดของน้ำอิงที่ยื่นส่งมาให้ตน
ก็นะ...จะไม่ให้เหม่อได้อย่างไร เธอจูบกับคนที่เกลียดเชียวนะ แถมเธอยังตอบสนองเขากลับไปอีก
น่าอายที่สุด เสียศักดิ์ศรีเป็นบ้า
...
“ขวัญ”
เสียงทุ้มนุ่มหูดังขึ้นจากด้านหลัง น้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ทำให้เพียงขวัญรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครที่ส่งเสียงเรียกเธอเมื่อครู่ หญิงสาวหันไปหมายจะขานรับด้วยรอยยิ้ม เพราะรู้ดีว่าเป็นเสียงของภารัณ
ทว่า…
เมื่อเห็นคนที่กำลังเดินเคียงคู่กันมากับพี่ชายตัวเองก็ทำให้รอยยิ้มหวานหุบลงทันตา เพราะพี่ชายของเธอดันเดินเคียงคู่มากับคู่กรณีของเธอเมื่อคืน
สิบทิศ!
ร่างสูงกำยำในเสื้อยืดสีดำทับด้วยช็อปวิศวะพร้อมทั้งสวมกางเกงยีน เคียงคู่มากับคนที่สวมชุดแบบเดียวกัน ต่างกันตรงที่เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์สวมเสื้อยืนสีน้ำเงิน อีกฝ่ายมองมาที่เธอก่อนจะยกยิ้มเยาะ หางคิ้วของเพียงขวัญกระตุกก่อนที่เธอจะผ่อนลมหายใจออกมาให้ตนใจเย็นกว่านี้
เข้า ออก พุธ โธ แม่งเอ๊ย หงุดหงิด!
“มาหาขวัญทำไมพี่ภารัณ!”
“พี่ซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดร้านโปรดมาให้ ยังไม่หายแฮงค์เหรอทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ไหนมานี่ซิ!” เพียงขวัญเข้าลากแขนพี่ชายลากออกมาให้ห่างออกมาจากสิบทิศ เมื่อเดินออกไปไม่ไกลมากนัก เธอจึงหยุดแล้วหันกลับไปทำหน้าเหวี่ยงใส่พี่ชายทันที
“จะลากพี่ไปไหนเนี่ย“
“พี่พาหมอนั่นมาด้วยทำไม!”
“เอ้าก็เรียนคณะนี้ ทำไมมันจะมาไม่ได้ คณะเดียวกัน”
ภารัณตอบพลางไหวไหล่ ซึ่งข้อนี้เพียงขวัญเถียงไม่ออก เพราะเป็นความจริงอย่างที่พี่ชายว่า
ถึงเธอจะอยากหลบหน้าสิบทิศจากเหตุการณ์เมื่อคืน แต่ด้วยเพราะเรียนคณะเดียวกันต่อให้เธอหนีเขายังไงก็คงหนีไม่พ้น นึกแล้วพาลโมโหตัวเองที่เมื่อวานเผลอดื่มจัดจนทำอะไรบ้า ๆ ลงไป เธอได้แต่โมโหตัวเอง ก่อนจะหันขวันไปส่งสายตาอาฆาตให้กับเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้และยืนนิ่งไม่พูดอะไรอยู่ไม่ไกล
ภารัณถอนหายใจ ไม่รู้น้องสาวตัวเองไปเกลียดอะไรหมอนี่ขนาดนี้
แค่เคยถูกทิ้งดอกไม้วันวาเลนไทน์เนี่ยนะ
ใช่ เพียงขวัญเคยแอบชอบสิบทิศมาตั้งแต่สมัยชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ภารัณและสิบทิศเองก็สนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เพียงขวัญเองก็รู้จักสิบทิศมานานพอๆ กับตัวเขาที่เป็นพี่ชาย
จนกระทั่งน้องสาวเพียงคนเดียวเดินมาสารภาพกับตนที่สวนสาธารณะขณะไปเดินเล่นระหว่างทางกลับบ้านว่าแอบชอบสิบทิศมาได้สักพักแล้ว และขณะนั้นพวกเขาก็ใกล้จบชั้นมัธยมในอีกไม่กี่เดือน
เพียงขวัญตั้งใจจะสารภาพรักกับสิบทิศในวันวาเลนไทน์ เด็กสาวตั้งใจตัดดอกกุหลาบที่มารดาปลูกมาสามสี่ดอกเพื่อจัดช่อเล็กๆ และผูกโบว์อย่างสวยงาม รวมถึงเขียนการ์ดด้วยสองมือของตนเอง
เธอแอบเอาดอกกุหลาบของตนไปใส่ในล็อกเกอร์ของสิบทิศ และแอบดูอยู่ห่างๆ เมื่อสิบทิศเปิดล็อกเกอร์ออกและพบกับดอกกุหลาบของเธออีกฝ่ายกลับเอาไปทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ไยดี การ์ดที่ตั้งใจเขียนยังไม่ทันจะถูกเปิดอ่านก็ถูกทิ้งไปเสียแล้ว
หยามหน้า!
ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เพียงขวัญไม่ได้รู้สึกแย่เพราะอกหัก แต่รู้สึกแย่ที่อีกฝ่ายไม่รักษาน้ำใจของเธอเลยแม้แต่น้อย ทำให้เพียงขวัญตั้งแง่เกลียดอีกฝ่ายมาจนถึงทุกวันนี้
ไม่มีวันญาติดีด้วยเสียหรอก
“ชิ รู้งี้ไม่เรียนคณะนี้ด้วยก็ดี” เธอบ่นพึมพำเสียงเบา พลางหันกลับมามองหน้าพี่ชาย
“แล้ววันนี้พี่ไม่มีเรียนหรือไง“
เพียงขวัญเอ่ยถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก แต่ก็รับถุงใส่ข้าวเหนียวไก่เจ้าประจำมา ภารัณยกมือขึ้นลูบหัวของน้องสาวเบาๆ แม้จะถูกเจ้าตัวพยายามปัดออกก็ตาม
“มีดิ เดี๋ยวพี่จะเข้าชอปกัน เลยเอาอะไรมาให้กินก่อน ว่าแต่หลังเสร็จงานพี่ว่าจะพาเราไปเลี้ยงชาบู ไปเปล่า”
“เลี้ยงเหรอ”
“เออ เลี้ยง”
“งั้นไปดิ ถามได้ของฟรีทำไมจะไม่ไป”
เมื่อเอาของกินมาล่อ สีหน้าของเพียงขวัญก็ดีขึ้นทันตา
“แต่พี่ภารัณสัญญากับขวัญมาก่อน ว่าเราจะไปกันแค่สองคน”
“ทำไม กลัวพี่เอาไอ้สิบทิศไปด้วย” ภารัณดักคอ
“ก็...ก็...ขวัญไม่ชอบหน้าเขานี่”
เพียงขวัญจ้องหน้าพี่ชายที่ยกมือขึ้นเพื่อกุมขมับที่มันเต้นตุบๆ ก่อนที่ภารัณจะพยักหน้าออกมา เพียงขวัญยิ้มร่าแต่กลับถูกประโยคต่อไปของพี่ชายและสีหน้ากวนเบื้องล่างนั่นทำให้เธอคิ้วกระตุกอีกรอบ
“ป๊อดล่ะสิ”
“ป๊อดอะไรของพี่”
“จูบทีเดียวไม่กล้าสู้หน้าไอ้สิบทิศเลยเหรอ ขี้อายเหมือนกันนะเนี่ยน้องพี่”
ยิ่งได้ยินพี่ชายล้อ เพียงขวัญยิ่งอยากจะเอาอะไรอุดปากพี่ชายตัวดีให้รู้แล้วรู้รอดไป ภารัณเห็นเพียงขวัญเริ่มเสียอาการก็ยิ่งนึกสนุก มือหนาของพี่ชายยกขึ้นตบบ่าน้องสาวอีกครั้ง
“พี่เข้าใจ ๆ เคยมีปมก็งี้แหละ ขวัญไม่ชอบมันเพราะเคยจีบมันไม่ติด แต่ตอนนั้นขวัญยังเด็กก็ไม่กล้าจีบมันแบบจริงจังนี่เนอะ ตอนนี้ก็คงไม่กล้าจีบมันเหมือนเดิม ไม่เป็นไร ๆ ถ้าไม่กล้าจีบมันอีกงั้นเดี๋ยวพี่พยายามกันมันออกให้”
เพียงขวัญกำหมัดแน่น
โดนจี้จุดแทงใจดำซึ่ง ๆ หน้า แถมยังโดนพี่ชายหยามเอามาก ๆ
“คอยดูเถอะ”
เพียงขวัญก้มหน้างุดและว่าเสียงแผ่ว ภารัณไม่ค่อยเข้าใจนักจึงเอียงคอสงสัยและเอ่ยถามอีกทีเพื่อให้ได้คำตอบที่จัดเจน
“คอยดูอะไร”
“คอยดูนะ ครั้งนี้เดี๋ยวขวัญจะจีบไอ้หมอนั่นเอง จะจีบให้ติดเลยให้พี่มาล้อหนูไม่ได้อีก! จำไว้เลยนะพี่ภารัณ!”
เพียงขวัญว่าไว้แบบนั้นก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อนของตนนั่งอยู่ ภารัณลอบหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตะโกนไล่หลังน้องสาวไป
“งั้นแปลว่าพี่พาสิบทิศมันไปกินชาบูด้วยได้ใช่ไหม”
“แล้วแต่เถอะ รำคาญ!”
