EP 5 - มันคือเกม
EP 5 - มันคือเกม
หลังเลิกเรียน
เพียงขวัญ พร้อมเพื่อนในกลุ่มของเธอคือ น้ำอิง เซค และเซนเตอร์ พากันมารวมตัวตามที่นัดหมาย
และทันทีที่เธอมาถึง
“นี่มันหมายความว่าอะไรคะพี่ภารัณ”
น้ำเสียงติดหงุดหงิดเอ่ยถามพี่ชาย ในทันทีที่มาถึงร้านของรุ่นพี่ในคณะที่จบไปแล้วและเป็นพี่รหัสของภารัณ เพียงขวัญคาดหวังที่จะเจอพี่ชายของตนเพียงคนเดียวนั่งรออยู่
แล้วไหงดันมีไอ้หมอนั่นคนที่เธอไม่ชอบเสนอหน้ามานั่งด้วย
เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ไม่ได้จัดทรง สวมเสื้อยืดสีขาวไม่สกรีนลายและกางเกงยีน แม้จะแต่งตัวเรียบๆ แต่กลับดูดีจนยากที่จะละสายตานั่งอยู่ เขาปรายตามองเธอเรียบ ๆ ก่อนจะไหวไหล่เบา ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจต่อน้ำเสียงที่โวยวายของเธอ
และนั่นก็ทำให้เพียงขวัญหงุดหงิดกว่าเดิม
“พี่ภารัณ! ขวัญถามว่า ทำไมหมอนั่นถึงมานั่งอยู่ที่โต๊ะด้วย”
ร่างบางในชุดเดรสสีน้ำเงินขับผิวของของเธอให้นวลเนียนมากขึ้น เรือนผมสลวยถูกปล่อยยาวระบั้นเอว ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กน้อยจนดูเป็นธรรมชาติ หันไปแหวใส่พี่ชายเสียงขุ่นเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
“เอาน่า พี่ลืมว่านัดมันก่อนจะนัดเรา ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
ภารัณว่าก่อนจะใช้มือตบเบา ๆ ไปที่ที่ว่างข้างๆ ตัวเขาเพื่อให้น้องสาวนั่งลง เพียงขวัญไม่อยากกลับห้องทั้งที่พึ่งมาถึง จึงจำใจนั่งแต่โดยดี ไม่วายยังหันไปส่งสายตาค้อนให้ภารัณเป็นระยะ
“จำเอาไว้เลยนะพี่!“
แม้จะบ่นแต่ก็รับแก้วเหล้าที่พี่ชายส่งมาให้
ฝ่ายสิบทิศได้แต่นั่งเงียบ ๆ ไม่สนใจอะไร มีเพียงน้ำอิงที่มองอีกฝ่ายเขินแล้วหันไปฟาดแขนของเซค เพื่อนอีกคนในกลุ่มเป็นระยะ
“กูเจ็บอิง ไอ้ผู้หญิงแรงช้าง”
“เดี๋ยวคราวนี้กูจะตีปากมึงแทน ปากหมานักไอ้เวรตะไล”
เสียงถกเถียงดังขึ้นทำให้เพียงขวัญเลิกสนใจคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้าและนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ สิบทิศมองหน้าของน้องสาวเพื่อนสนิทนิ่งๆ และยกเหล้าขึ้นจิบเป็นระยะ
“เล่นเกมกันไหมคะ”
เป็นน้ำอิงที่เสนอขึ้นหลังจากยกเหล้าหมดแก้วไปหลายแก้ว ทุกคนในโต๊ะยกเว้นเซนเตอร์และสิบทิศต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย แทนที่จะมานั่งกินเหล้าเฉยๆ จนเมา สู้หาอะไรทำสนุกๆ เสียดีกว่า
“เกมอะไรล่ะ”
ภารัณหันไปถามน้ำอิง หญิงสาวครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะดีดนิ้วเมื่อนึกขึ้นได้
“เกมทำตามคำสั่งพระราชาค่ะ หนูพกไพ่มาด้วย”
“เตรียมพร้อมจังนะ”
เพียงขวัญหันไปแซวเพื่อนสนิทที่กำลังหยิบสำรับไพ่ออกมาจากกระเป๋าแบรนด์เนมของตน น้ำอิงยกยิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะหยิบไพ่คิงและเลขหนึ่งถึงห้าออกมาก่อนจะกลับไพ่และสลับไปมาเพื่อให้สุ่ม
“หยิบค่ะหยิบ หนึ่งรอบต่อหนึ่งชอต ใครไม่ทำตามคำสั่งพระราชาเบิ้ลสอง”
เสียงของน้ำอิงว่าก่อนจะคลี่ไพ่ในมือทั้งที่ยังคว่ำหน้าอยู่เพื่อให้คนในวงเหล้าได้สุ่มหยิบขึ้นมาคนละใบ
“เจ้าของไพ่มักจะมากับดวง คิงค่า”
เป็นน้ำอิงที่ได้ไพ่คิงประกาศออกมาและวางไพ่ในมือลงเป็นหลักฐาน เพียงขวัญอยากยกมือขึ้นกุมขมับ เพราะเล่นเกมนี้ทีไรเพื่อนตัวดีของเธอมักจะสั่งคำสั่งแผลงๆ ออกมาอยู่เรื่อย
“ให้เบอร์ 2 กับ 4 ควงแขนกันจนกว่าจะจบรอบหน้าค่ะ”
เพียงขวัญมองไพ่เบอร์สามในมือก่อนจะมองว่าใครจะได้เบอร์ 2 กับ 4และทันทีที่เห็นสีหน้าของเซคและเซนเตอร์เธอก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ขนลุกชิบหาย ทำไมต้องมาควงแขนมึงด้วยเนี่ย เป็นเมียกูเหรอ”
“เงียบปากไปเซค กูรำคาญ”
ทั้งเพียงขวัญและน้ำอิงหัวเราะกันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนเซคร้องโวยวายขึ้นมา เกมรอบต่อไปจึงได้เริ่มขึ้น ทั้งหมดยกแก้วชอตที่มีเหล้าเพียวๆ บรรจุอยู่ขึ้นกระดกรวดเดียวหมด น้ำอิงทำหน้าที่เป็นคนสับไพ่เหมือนเดิมและยื่นให้คนอื่นๆ เลือก
“รอบนี้พี่คิง”
เสียงของภารัณดังขึ้น เพียงขวัญมองหน้าพี่ชายแท้ ๆ ของตนอย่างหวาดระแวง ภารัณแม้ภายนอกจะดูใจดีแต่จริงๆ กลับเหมือนเป็นหมาป่าห่มหนังแกะ ใบหน้าหล่อแสนดีนั่นลึก ๆ ร้ายเสียไม่มี
“เบอร์ 3 ลุกไปให้ทิปนักร้องพร้อมตะโกนบอกว่าพี่สวยหรือหล่อและรวยมาก”
เพียงขวัญถอนหายใจ เป็นอีกครั้งที่โชคเข้าข้างเธอเพราะไพ่ในมือเป็นเลข 5 ก่อนที่เธอจะเหลือบมองมือเรียวสวยของเพื่อนสนิทสาวที่ชูไพ่หมายเลข 3อยู่
น้ำอิงโดนเล่นแล้วไง
น้ำอิงเบ้ปากพลางมองภารัณที่นั่งยิ้มไม่แยแส เซคที่หัวเราะและปรบมือชอบใจที่เห็นคนที่เป็นคนสั่งเขาเมื่อครู่ต้องออกไปโดนลงโทษบ้าง แถมยังหนักกว่าการที่เขาต้องมาควงแขนกับเซนเตอร์อีก
สะใจโว้ย
น้ำอิงยอมเดินออกไปให้ทิปนักร้องประจำร้านด้วยธนบัตรใบสีเทาก่อนจะตะโกนสิ่งที่ได้รับคำสั่งมาต่อหน้าคนทั้งร้านที่มองมาด้วยความสงสัย
ต่างจากเพียงขวัญ เซค และภารัณที่หัวเราะชอบใจ โดยเฉพาะเซคที่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเอาไว้
