ตอนที่ 8 ความดีใจของน้าผกา
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง
“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”
“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”
“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอน
เก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน
“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ
“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททันที เพราะอยู่ๆฉันก็ดันจำชื่อของพี่เขาได้
“หืม อะไรเหรอ” เชอรีนหันมามองหน้ากันและฉันก็รีบถามความสงสัยออกไป
“พี่เก้านี่ใช่คนที่ส่งข้อความเข้ามาหาแกเมื่อวันนั้นไหม วันที่เวหามันเอาแต่ถามๆแกอะ วันที่พวกเราไปกินข้าวที่ห้างด้วยกัน”
“ก็ใช่ พี่เก้าคนนี้นี่แหละ ทำไมเหรอ” เชอรีนพยักหน้า
“ก็เปล่าหรอกแล้วแกก็ปล่อยให้เวหามันคิดฟุ้งซ่านไปเนี่ยนะ หึ ใจร้ายชะมัดเพื่อนฉัน”
“ช่วยไม่ได้เขาทำร้ายเราก่อน..”
“เชอรีนมีแฟนแล้วเหรอ” วิเวียนที่ยืนฟังอยู่เริ่มจับใจความสำคัญขึ้น เธอพูดถามออกไปอย่างไม่ยับยั้ง เพียวที่เห็นทั้งเชอรีนและไอรีนเงียบเธอจึงกระซิบบอกวิเวียนด้วยตัวของเธอเอง
“เคยมีแต่เลิกแล้ว แฟนเก่านางก็คือเพื่อนกลุ่มเดียวกับมาร์ช คนที่เราเอารูปให้วิเวียนดูเมื่อตอนเช้าไง คนที่โดนแป้งจนหน้าขาววอก”
“อ๋อ เราจำได้แล้ว” วิเวียนนึกออกทันควันถ้าบอกว่าผู้ชายหน้าวอกที่อยู่ในรูปเธอก็นึกได้ทันที หางตาคู่สวยเหลือบไปเห็นเข้ากลับนาฬิกาแขวนของทางร้าน วิเวียนร้องอุทานออกมาทันทีมัวแต่คุยจนลืมเวลาไปเลยว่าเธอน่ะต้องรีบไปทำงานต่ออีกหนึ่งที่
“โอ๊ะ! เย็นมากแล้วเราต้องไปทำงานต่ออีก”
“งั้นแยกย้ายกันกลับเลยไหม วิเวียนกลับยังไงให้เราไปส่งไหม” เชอรีนที่เห็นท่าทางกระวนกระวายใจของวิเวียนเธอจึงเสนอให้แยกย้ายกันกลับในทันทีและไม่ลืมที่จะถามว่าเพื่อนใหม่นั้นกลับยังไงอยากให้เธอไปส่งที่บ้านหรือเปล่า
“บ้านเราอยู่แถวนี้เองนั่งวิน 10 บาทก็ถึง”
“นั่นมาร์ชเดินเข้ามานั่นแล้ว วิเวียนนั่นมาร์ชแฟนของฉันเอง” เพียวหันไปเห็นมาร์ชที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน มือเล็กชี้ไปยังแฟนหนุ่มเพื่อบอกเพื่อนใหม่ให้ได้เห็นแฟนหนุ่มของเธอ
“รอนานหรือเปล่า” มาร์ชเดินยิ้มเข้ามาแต่ไกลจนเมื่อเดินเข้ามาถึงเขาก็เอ่ยถามแฟนสาวด้วยความห่วงใย สองมือจับเข้าไปที่มือเล็กของแฟนสาวทำเอาเธอยิ้มไม่หุบพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่นาน กินน้ำก่อนสิ” เธอยื่นน้ำชาเขียวไปให้มาร์ชได้ดูดมันขึ้นด้วยหลอดที่มีขนาดใหญ่
“ลุงคนขับที่บ้านมารับแล้วงั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” เชอรีนมองออกไปด้านนอกก็พบว่ารถของที่บ้านกำลังแล่นเข้ามาจอดยังหน้าร้าน เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนพลางสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถและพร้อมหลับในทันที
ไอรีนที่เห็นว่าเชอรีนได้ขึ้นรถกลับไปแล้วเธอจึงหันไปบอกเพื่อนแล้วเดินออกไปจากร้าน
“งั้นฉันออกไปโบกแท็กซี่เลยแล้วกัน อยากกลับบ้านไปอาบน้ำจะแย่ ไปก่อนนะวิเวียน เพียว มาร์ช”
“อืม บัยบาย” วิเวียนยกมือขึ้นโบกมือร่ำลา ตัวเธอก็ถึงเวลาที่ต้องรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเหมือนกัน
“เราไปแล้วนะเพียว ไปก่อนนะมาร์ช” เมื่อบอกเพียวกับมาร์ชเสร็จเธอก็ออกจากร้านเพื่อไปโบกพี่วินให้ไปส่งที่บ้าน เพียวกับมาร์ชก็ออกจากร้านแล้วไปขึ้นรถเช่นกัน
บ้านกิตรัตนสกุลชัย
“กลับมาแล้วเหรอหนูไอรีน” ทันทีที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงของน้าผกาก็ดังขึ้นมาทันที สงสัยเธอคงจะนั่งรอฉันอยู่หรือเปล่า
“ค่ะ” ฉันหันไปส่งยิ้มบางๆให้กับน้าผกาเพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาในหลายๆเดือนเธอก็ทำอาหารให้ฉันได้กินอิ่มตลอด น้าผกาเดินเข้ามายืนใกล้ๆฉัน มือเล็กของเธอเอื้อมมากอบกุมมือของฉัน ฉันเงยหน้ามองไปยังใบหน้าสวยของน้าผกา
“เดี๋ยววันนี้หนูช่วยลงมาทานข้าวด้วยกันได้ไหมลูก” เธอพูดขึ้นอย่างร้องขอและฉันที่ไม่ค่อยอยากที่จะลงมาสักเท่าไหร่จึงพูดออกไปอย่างคนที่ต้องการจะปฏิเสธ
“แต่ว่าไอรีน..”
“ลงมาแค่แปบเดียวก็ยังดีไม่ต้องกินข้าวก็ได้จ้ะ ถ้าหนูไม่หิว” น้าผกากระชับบีบมือของฉันแน่น ฉันเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิดใจก็ดันเต้นแรงเกิดรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้ งั้นลงมาทานข้าวกับเธอหน่อยก็ได้ นานๆทีก็คงไม่เป็นไร
“งั้นก็ได้ค่ะ ไอรีนจะลงมาทานข้าวกับน้าผกานะคะ” ไอรีนยิ้มตอบกลับไป น้าผกาที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างรู้สึกขอบคุณ เธอโผเข้ากอดร่างเล็กของไอรีนทำเอาเจ้าตัวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเบิกตากว้างยืนแข็งทื่อ
ทำไมนะอ้อมกอดของน้าผกาถึงได้อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของแม่เธอเลย...
“ขอบใจมากนะหนูไอรีน” ทั้งสองผละออกจากกัน น้าผกาส่งยิ้มให้ไอรีนและพอเธอตั้งสติได้จึงยิ้มกลับพร้อมทั้งรีบขอตัวขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
20.00น.
“หนูไอรีนมานั่งเร็ว” สองเท้าเล็กเดินลงจากบันไดโดยทันทีที่เดินลงมายังชั้นล่างแล้วเสียงของน้าผกาก็ดังขึ้นทันที ไอรีนมองไปยังเสียงต้นทางก่อนจะพบว่าน้าผกากำลังกวักมือเรียกเธออยู่ ไม่รอช้าไอรีนรีบเดินไปนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามด้านข้างพ่อของเธอ
“ทำไมทำหน้าตื่นเต้นจังคะ มีอะไรหรือเปล่า” เธอมองไปยังน้าผกาก็เห็นว่าเธอกำลังมีสีหน้าที่ดูตื่นเต้นปะปนไปด้วยความดีใจจนแอบออกนอกหน้าและด้วยความที่เป็นคนช่างอยากรู้เธอจึงได้รีบถามออกไปแต่กลับกลายเป็นพ่อที่เป็นฝ่ายตอบแทนภรรยาสุดที่รัก
“น้าผกาเขาดีใจน่ะที่ลูกชายของเขาจะเข้ามาหาที่บ้าน”
อ๋อ เป็นเพราะว่าลูกชายจะเข้ามาหาที่บ้านนี้นี่เองจึงทำให้เธอดีใจหนักมาก ก็นะตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าลูกชายของน้าผกาสักครั้งเลยและด้วยความที่ปากไวไปหน่อยจึงทำให้ถามอีกครั้ง
กรี๊ด! ใครก็ได้เอาอะไรมาอุดปากของฉันที...
“ปกติแล้วไม่ค่อยได้เจอกันเหรอคะ”
“ใช่ลูก ลูกชายน้าเขาไม่ยอมมาหาน้าเลย วันแต่งงานก็ไม่มา เขาคงโกรธที่น้าแต่งงานใหม่” น้าผกายิ้มเจือนเธอยอมรับออกมาตามตรงว่าเธอกับลูกชายไม่ค่อยได้พบเจอกันสักเท่าไหร่แล้วยิ่งเธอแต่งงานกับพ่อแล้วด้วยยิ่งทำให้ลูกชายไม่ยอมมาพบเธอเลย
“เดี๋ยวเขาก็คงเข้าใจ” พ่อส่งยิ้มให้น้าผกาพร้อมทั้งพูดปลอบใจเธอ ผกาที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“คุณท่านคะ ลูกชายคุณผกามาแล้วค่ะ” แม่บ้านได้เดินเข้ามาบอกข่าวพ่อรีบมองหน้าภรรยาตัวเองพร้อมทั้งบอกไปยังแม่บ้านให้เชิญเขาเข้ามาได้เลย
“อืม ให้เขาเข้ามา”
