บท
ตั้งค่า

EPISODE4

วิศวะคลั่งเมีย

(Engineer'n Cute Girl)

EPISODE4

“เอินจะแจ้งความข้อหาอนาจาร ช่วยด้วย! มีคนโรคจิตอยู่ในนี้ ช่วย...อื้อ ๆ”

เธอเอาแต่ไม่ฟังกัน ทั้งยังส่งเสียงร้องให้คนช่วย จนรุ่นพี่หนุ่มต้องยกมือปิดปากเธอไว้แน่น เมื่อหูได้ยินเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นแว่วมาจากด้านนอก

“ชู่ว์...มีคนมาค่ะ ใจเย็นก่อนนะ พี่อธิบายได้”

เขาบอกเธอเสียงเบา ทำให้เอินเอินยอมเงียบเสียงลง เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าคนที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เป็นใคร แน่นอนว่าถ้าเป็นอาจารย์เธอจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือให้ลั่นเลย

กริ๊ก ๆ

พลันเสียงของลูกบิดประตูที่ถูกหมุนจากด้านนอก ก็ทำให้ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่ง ใจจดจ่อว่าที่ด้านนอกนั้นคือใคร

“ทำไมประตูล็อคล่ะ พี่ไป๋เฟิ่งมาแล้วเหรอ ได้ไงอะ” เสียงของหญิงสาวที่เอ่ยถึงชื่อเขา ทำให้ไป๋เฟิ่งขมวดคิ้วมองหน้าคนที่เขากอดอยู่ อย่าบอกนะว่าข้างนอกนั่นคือสาวที่นัดมา ละ...แล้วคนนี้ใครวะ!

ก๊อก ๆ

“พี่ไป๋เฟิ่ง! พี่มาแล้วเหรอคะ”

สาวหน้าห้องเคาะประตูพร้อมส่งเสียงถาม เพราะเธอเปิดประตูไม่ออก ก็ในเมื่อเขานัดเธอมา ทำไมห้องถึงถูกล็อคล่ะ

“พี่ไป๋เฟิ่งคะ นี่เบลลี่เองนะ พี่อยู่ข้างในรึเปล่าคะ”

เธอส่งเสียงอีกครั้งเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ เธออุตส่าห์รีบมาแล้วนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

“เบล! ทำไมเบลมาอยู่นี่ล่ะ ไม่สบายเหรอ” ขณะนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้น

“พี่โต้ง! เอ่อ...พอดีเพื่อนเบลปวดหัวน่ะค่ะ เบลเลยมาขอยากับพยาบาล แล้วพี่โต้งล่ะคะ”

“พี่จะไปหาเบลไงครับ พอดีแวะมาเอาของกับเพื่อนคณะข้าง ๆ เห็นหลังเบลไวไวเลยตามมาดู ไม่ป่วยก็ดีแล้วครับคนเก่ง”

“แหม...ใจตรงกันเลยค่ะ เบลก็ว่าจะไปหาพี่โต้งที่คณะเหมือนกัน งั้นเราไปกินข้าวพร้อมกันนะคะ เบลหิวแล้วล่ะค่ะ ดูท้องเบลร้องใหญ่เลย”

“งั้นไปครับ วันนี้ออกไปกินร้านข้างนอกไหม พี่มีร้านอร่อยอยากพาเบลไปด้วยครับ”

“จริงเหรอคะ น่ารักที่สุดเลยค่ะ งั้นไปค่ะ”

บทสนทนาของคนหน้าห้องดังอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ไป๋เฟิ่งที่ยืนฟังอยู่ได้แต่แค่นเสียงในคอ สาวที่นัดกันวันนี้ดันมีแฟนอยู่แล้วเหรอวะ ดีนะที่เขาไม่ได้เจอเธอไม่งั้นได้มีปัญหากับแฟนเธอแน่นอน

แต่ว่า...สาวคนนี้ที่ไม่ได้นัดล่ะวะ เขาดัน ‘ลงลิ้น’ เธอไปเต็ม ๆ เลย ทำไงดีวะเนี่ย!

“อื้อ ๆ” จากบทสนทนาทั้งหมด เอินเอินพอจะเดาได้บ้างแล้วว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง เธอจึงส่งเสียงให้เขาเอามือออก

“ผิดคนค่ะ”

ไป๋เฟิ่งบอกเธออย่างช่วยไม่ได้

“ไอ้ชั่ว! ไปตายเลยไป!”

ซึ่งเอินเอินก็ถึงกับด่าสวนพร้อมสาปส่งเขาทันที ก่อนเธอจะตะกุยเล็บคม ๆ ใส่หน้าเขา ในใจได้แต่คิดว่าผู้ชายคนนี้ต้องหน้ามืดขนาดไหนถึงได้มาทำเรื่องบ้า ๆ แบบนั้นกับเธอ ไอ้โรคจิตเอ้ย! เขายุ่งกับตรงนั้นของเธอเลยนะ

“โอ้ย ๆ พี่ไม่รู้ อ๊ะ! มันเจ็บนะ ยอมแล้ว! อู้ย!หน้าแหกแล้วเนี่ย พี่ขอโทษ โอ้ย! เลือดออกแล้ว ใจเย็นสิ!”

ไป๋เฟิ่งได้แต่ยกมือกันเล็บคม ๆ ของเธอที่ตะกุยใส่เขาไม่หยุด ก่อนจะหาทางรวบจับข้อมือเธอไว้ ไม่ให้สร้างบาดแผลที่หน้าเขาได้อีก

“ปล่อยเอินนะ!” เธอส่งเสียงดุ พยายามยื้อมือออก ซึ่งชื่อสั้น ๆ ที่เธอเอ่ยนั้นก็ฟังดูคุ้นหูเขาขึ้นมา

“เราชื่ออะไรนะ”

“ไม่บอกหรอก!” เธอแหวใส่ ทำท่าดุดันผิดกับใบหน้าสวยหวานทรงคุณหนูลิบลับ

“อ้าว...ก็เมื่อกี้เรายังพูดว่าเอิน เอินอะไร...เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าชื่อเอินเอินอะ”

ไป๋เฟิ่งที่ทวนคำเธอไปมา ก็นึกถึงชื่อของสาวสวยบนท็อปชาร์ตมหา’ลัย ที่พวกเพื่อน ๆ เขาพูดว่าแก๊งนางฟ้าจะทาบทามมาเข้ากลุ่ม ฉิบหายละ!

“ถ้าชื่อเอินเอินแล้วมันทำไม คิดจะเอาชื่อไปแบล็คเมล์กันสินะไอ้โรคจิต” เธอแหวใส่อีกครั้ง

“แบล็คเมล์อะไร พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น อีกอย่างคนที่หล่อขนาดนี้จะเป็นโรคจิตได้ไง” ชายหนุ่มแย้ง

เขาโดนเธอด่าแบบนี้หลายรอบแล้วนะเว้ย ก็บอกอยู่ว่าเข้าใจผิดไง ทำไมไม่ฟังกันเลยวะ

“นาย...นายทำอนาจารเอิน!”

“คนโรคจิต”

“ลามกที่สุด” เธอบอกย้ำไม่หยุด

“พี่ไม่รู้...มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ” ไป๋เฟิ่งไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี เขาคิดว่าเธอคือน้องเบลลี่นี่หว่า

“นายมาซุกหน้าใต้กระโปรงเอิน เอาอะไรไม่รู้มาโดนเอินด้วย โรคจิตชัด ๆ”

เอินเอินยังคงเสียขวัญกับสิ่งที่ประสบพบเจอ เธอควรจะทำยังไงดี ควรจัดการกับเขายังไง

“นั่นมันเรื่องเข้าใจผิดไง พี่คิดว่าเราคือคนที่นัดไว้ ใครจะไปรู้ว่าผิดคน พี่พูดจริงนะ”

รุ่นพี่หนุ่มพยายามจะอธิบายแล้วจริง ๆ เขาไม่ใช่คนที่จะรุกมั่วนะเว้ย แต่ว่าเธอเหมือนคนที่นัดมานี่หว่า

“นายควรถามก่อนสิ แล้วเอินกับคนที่นัดหน้าตาเหมือนกันรึไง อย่ามาอ้างพล่อย ๆ”

เอินเอินไล่บี้เขาไม่หยุด อย่ามาอ้างว่าเข้าใจผิด มันฟังไม่ขึ้นหรอก เขาก็แค่ไอ้ผู้ชายมักมากในกามเท่านั้น

“คล้ายไหมเหรอ...ก็คล้ายนะ เนี่ย!” ไป๋เฟิ่งเปิดแชทที่เขาคุยกับสาวให้เธอดู ซึ่งรูปโปรไฟล์นั้นมันเป็นภาพของเธอที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ก่อนวันรับน้อง และถ้าจำไม่ผิดภาพนี้น่าจะเป็นภาพที่ทางร้านทำผมร้านดังขอถ่ายไว้เพื่อติดเป็นแบบสีผมของทางร้านด้วย

“นี่มันรูปเอินที่ถูกร้านทำผมขอถ่ายไว้เป็นแบบตั้งแต่ก่อนรับน้อง” เธอพึมพำ ไม่คิดเลยว่ารูปของเธอจะถูกใครก็ไม่รู้เอามาใช้ในการนัดเดตกับผู้ชาย

“ใช่ไหม...ถึงภาพจะไม่ชัด แต่มันก็คือเราใช่ไหม พี่ไม่ได้มองผิด” ไป๋เฟิ่งได้แต่พึมพำ

“มีคนเอารูปเอินมานัดเดต แถมคนที่มาก็โรคจิต นี่มันวันซวยอะไรเนี่ย” ทว่าดูเธอสรุปเข้าเถอะ ก็บอกว่าเขาไม่ได้โรคจิตไง

“พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ใช่โรคจิตนะคะ”

“บ้าที่สุด! จริงสิ...นายน่ะเรียนคณะอะไร ปีไหน ชื่อไป๋อะไรนะ ไป๋เฟิ่งใช่ไหม”

เธอยกนิ้วชี้หน้าเขาถามอย่างเอาเรื่องทีเดียว

“เรียนวิศวะ ปีสอง ชื่อไป๋เฟิ่ง...ทำไมคะ?”

“นั่นแหละ! ไป๋เฟิ่งอย่าให้เอินเห็นว่านาย...ไม่สิ! ว่าพี่มาแถวคณะมนุษย์ ไม่งั้นเอินจะแจ้งความข้อหาทำอนาจารรุ่นน้อง อ้อ! แล้วถ้าพี่เอาเรื่องบ้า ๆ นี่ไปพูดที่ไหนก็ตาม เอินจะ...เอินจะสู้พี่แน่นอน” เธอเอ่ยเสียงดุทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินออกจากห้องพยาบาลไปทันที ปล่อยให้คนโดนขู่ได้แต่ยืนอึ้งอยู่

“นั่นขู่แล้ว?”

ไป๋เฟิ่งได้แต่พึมพำ แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากบางที่ยังคงมีรสชาติน้ำหวานของเธอติดตรึงอยู่ มันอาจจะเป็นโชคไม่ดีของเธอ แต่สำหรับเขามันตรงกันข้ามเลย

“เฮ้อ...คณะมนุษย์ไปทางไหนวะ”

กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน...

เจ้าของเส้นผมสีเงินได้แต่ทิ้งตัวลงนอนกับหมอน ในใจก็ได้แต่คิดว่าเขาควรจะทำยังไงเรื่องของรุ่นน้องสาวคนสวยดี ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วเธอก็ไม่ใจอ่อนให้อภัยกันเลย เขาควรจะใช้แผนไหนดีวะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel