EPISODE1 (R18+)
วิศวะคลั่งเมีย
(Engineer'n Cute Girl)
EPISODE1 (R18+)
“พี่จะทำอะไร?” ไป๋เฟิ่งเอ่ยถาม
“พี่ขอดูดให้เฟิ่งนะ น้ำเฟิ่งยังติดอยู่เต็มลำเลย” รุ่นพี่สาวว่า ทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มบนมุมปากน้อย ๆ
“เอาสิ ถ้าจะดูดต้องดูดให้เกลี้ยงด้วยล่ะ ถ้าไม่เกลี้ยง...ผมจะกระทุ้งมันใส่ปากพี่”
เขาว่าเสียงเรียบ ทำให้รุ่นพี่สาวจัดการอ้าปากดูดเลียเก็บกลืนน้ำรักของเขาลงคอทันที และลีลาการขยับปากและลิ้นของเธอมันไม่ธรรมดาเลย ท่าทางเธอจะอมบ่อยชัวร์
“อืม...ดูดให้ลึก ๆ คนสวย พยายามให้มันสมกับที่อยากดูดของผมหน่อย” เขาว่า สายตาก็ทอดมองปากเธอที่กำลังดูดเลียไปทั่วลำเอ็นซึ่งยังคงคัดแข็งอยู่ก็จริง แต่ไป๋เฟิ่งไม่อยากสานต่อรอบสองแล้วล่ะ
“จุ๊บ! อ่าส์...อ็อก ๆ อืม...จ๊วบ ๆ”
“อ่าส์...อ็อก ๆ อืม...จ๊วบ ๆ อืม...ลำของเฟิ่งมันใหญ่นี่นา พี่ดูดไม่สุดหรอก อ่าส์...น้ำอร่อยจังสุดหล่อ พรุ่งนี้เรามาเจอกันอีกนะ...ได้ไหม...อืม...จ๊วบ ๆ”
รุ่นพี่สาวเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น เพราะอ้าปากดูดลำเอ็นเขาไปด้วย ทำให้ไป๋เฟิ่งคว้าเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่วางพาดไว้ปลายเตียงมาสวม สายตาก็มองดูคนที่ตั้งใจดูดเลียลำเอ็นของเขาไม่หยุดปาก ทั้งยังวอนขอให้เขามาเจออีก ทว่าทั้ง ๆ ที่เธอทำได้ดีแล้ว และมันก็เสียวลำอยู่หรอก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ไป๋เฟิ่งรู้สึกเร้าใจจนอยากมาเจอเธออีกครั้งนี่สิ เฮ้อ…ช่วงนี้เขารู้สึกว่าชีวิตเซ็กซ์มันชักกร่อย ๆ แฮะ
“พอแล้ว! เลิกดูดเถอะน่า ผมต้องรีบไปเรียน”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ก้าวถอยห่างจากเธอจนลำลึงค์หลุดออกจากปากสาวสวย ทำให้รุ่นพี่อย่าง ‘ก้อย’ ได้แต่มองตามความใหญ่โตของเขาราวเสียดายนักหนา
“แหม...เลทนิดหน่อยไม่ได้เลยเหรอ เฟิ่งเป็นเด็กเรียนรึไง” เธอเอ่ยแซว ขณะหยัดร่างขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองให้เรียบร้อย ทรวงเต้าที่ถูกเขาทั้งบีบทั้งคลึงมันแดงเป็นรอยมือไปหมดเลย แต่นั่นก็ทำให้เธอฟินสุด ๆ เช่นกัน
“เปล่า...แต่ผมไม่อยากทำแล้ว อีกอย่าง...ผมชื่อ ‘ไป๋เฟิ่ง’ ช่วยเรียกให้ถูกด้วย” เขาบอกย้ำกับเธอ ก่อนจะล้วงธนบัตรสีเทาหนึ่งใบวางทิ้งไว้ที่ปลายเตียง
“นี่อะไรน่ะ” รุ่นพี่สาวได้แต่ร้องถาม
“ค่ายา...เผื่อร่องพี่อักเสบ จะได้ไม่ต้องควักเงินตัวเองจ่ายไง ผมไปล่ะ!” เขาตอบกลับโดยได้หันมามองเธอแม้แต่น้อย นั่นทำให้รุ่นพี่สาวได้แต่ก้มมองรูร่องของตัวเองที่ถูกเขากระหน่ำตอกจนบวมช้ำ
“ปากก็ไม่ได้หวานเหมือนฉายานี่” เธอพึมพำ ไหนใคร ๆ ว่าไป๋เฟิ่งอ่อนหวานกับสาว ๆ ไงล่ะ เมื่อกี้เขาทำตัวเย็นชาสุด ๆ เลยนี่นา
เวลาต่อมา...
ไป๋เฟิ่งที่เดินออกมาจากตึกพยาบาลหลังบอกลาแม่สาวทางผ่าน สายตาคู่คมก็บังเอิญเหลือบไปเห็นว่าที่ใต้ถุนตึกคณะมนุษย์ศาสตร์ สาวสวยเจ้าของหุ่นอวบอัดโดดเด่นที่ไฟหน้าคู่โตตึงเสื้อนิสิตอย่าง ‘เอินเอิน’ กำลังถูกไอ้หนุ่มหน้ามนคนคณะไหนก็ไม่รู้มาเดินดักทางไว้ ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้ เห็นแบบนั้น ‘ว่าที่สามี’ คงต้องขอเสือกหน่อย
“พี่ขอเบอร์เอินมาเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ เมื่อไหร่จะใจอ่อนสักที” ยิ่งเมื่อเดินมาใกล้มากขึ้น ไป๋เฟิ่งก็ได้รู้ว่าไอ้เวรนั่นมารอขอเบอร์เธอนี่เอง
“เอินไม่สะดวกให้ค่ะ แล้วตอนนี้เอินก็รีบด้วย พี่ช่วยถอยไปได้ไหมคะ” น้ำเสียงหวานที่ตีคู่มากับดวงหน้าสวย ๆ ของเธอเอ่ยปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ท่าทางไม่คิดจะให้เบอร์ติดต่ออีกฝ่ายแบบนั้น ทำให้คนยืนมองยกยิ้มน้อย ๆ
“ทำไมล่ะครับ หรือข่าวลือที่ว่าเอินคบกับเด็กวิศวะจะเป็นเรื่องจริง”
เมื่อโดนปฏิเสธบ่อยครั้งเข้า ทำให้รุ่นพี่หนุ่มต้องถามย้ำถึงข่าวลือของสาวสวย ซึ่งถูกแก๊งนางฟ้าของรัดเกล้าทาบทามให้เข้าร่วมกลุ่มของพวกเธอ แถมยังมีข่าวว่าเธอข้องเกี่ยวกับน้องชายตัวแรงวิศวะด้วย
“วิศวะอะไรคะ”
แค่ได้ยินชื่อคณะวิศวะเอินเอินก็หงุดหงิดจะแย่แล้วล่ะ ยิ่งเมื่อมองเลยไปเจอเจ้าของเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนมองมายังเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ ก็ทำให้เอินเอินถึงกับเบือนหน้าหนี
“ก็หมอนั่นไง...น้องชายของปืนใหญ่”
“เอินไม่รู้จักค่ะ ขอตัวก่อนนะคะเอินต้องเอาหนังสือไปคืนห้องสมุด” สาวสวยปฏิเสธความสัมพันธ์ แล้วตัดสินใจเดินเลี่ยงรุ่นพี่หนุ่มต่างคณะไป นั่นทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ แต่ในตอนที่ชายหนุ่มหมุนตัวกลับมาเจอคนที่เพิ่งพูดถึง เขาก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำหน้ายังไงดี เมื่ออีกฝ่ายแสยะยิ้มร้ายใส่กันขนาดนั้น
ได้ยินข่าวว่าไอ้หมอนี่เป็นคน ‘ของขึ้นง่าย’ เคยขึ้นไปตีเด็กต่างคณะตอนที่เข้ามาเรียนปี 1 ใหม่ ๆ จนยับ เพียงเพราะว่าอีกฝ่ายพูดลอย ๆ ว่า ‘ไอ้กุ๊ย’ และยิ่งทุกคนรู้ว่าหมอนี่เป็นน้องชายของปืนใหญ่ ก็ยิ่งไม่มีใครอยากข้องเกี่ยวกับไป๋เฟิ่งในฐานะคู่อริ
“มึงควรเชื่อข่าวลือ แล้วก็อย่าให้กูเห็นว่ามึงมาตอแยน้องเอินอีก” เห็นอีกฝ่ายเอาแต่นิ่ง ไป๋เฟิ่งจึงเอ่ยเสียงเย็นเตือนคู่แข่ง ก่อนที่เขาจะไล่ตามรุ่นน้องสาวสวยที่หัวกระไดคณะไม่เคยแห้งไปติด ๆ
ไม่รู้ช่วงนี้ความนิยมสาวสวยไฟหน้าใหญ่กำลังฮิตในมหา’ลัยซีเอสรึไง ถึงได้มีแต่คนมาตามจีบเธอไม่เว้นแต่ละวัน ก่อนหน้านี้ไป๋เฟิ่งก็นึกสงสัยนะว่าที่เฮียมันหงุดหงิดเรื่องมีคนมาตามจีบน้องสายขิมมันเป็นยังไง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่งน่าหงุดหงิดสุด ๆ เลย
“เฮ้อ...คนยิ่งรีบ ๆ อยู่” เอินเอินเดินบ่นอุบไปทางห้องสมุด ไม่คิดเลยว่าวันนี้ไป๋เฟิ่งก็มาลาดตะเวนแถวคณะเธออีกแล้ว แต่เอ๊ะ! หรือเขาก็แค่ผ่านทางเพราะไปห้องพยาบาลมากันนะ อี๋! ไอ้คนโรคจิต และแค่คิดไปถึงรุ่นพี่ต่างคณะที่เคยมีเรื่องกันเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เอินเอินก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดทีเดียว ทำไมกันนะ ทำไมวันนั้นเธอต้องไปเจอเขาด้วย
ตุบ!
ทว่าขณะที่เดินคิดย้อนไปถึงวันที่ได้เจอกับไป๋เฟิ่งครั้งแรก สาวสวยซึ่งกำลังเดินเกือบจะพ้นมุมตึกก็ชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง จนหน้าสวย ๆ ของเธอกระแทกเข้ากับแผงอกกำยำของเขา นั่นทำให้อีกฝ่ายคว้ารวบเอวเธอกอดไว้ทันที น้ำหอมกลิ่นนี้ ช็อปสีนี้ และ...สีของเส้นผมที่ไม่เหมือนใครนี้มัน
“รีบเหรอ? ทำไมเดินไม่มองทางเลยล่ะคะ” แน่นอนว่าน้ำเสียงคุ้นหูที่ชอบพูดคะขากับเธอช่วงนี้ก็เช่นกัน ทำให้เอินเอินมองจ้องหน้าเขาเขม็ง
“คนโรคจิต! ทำไมพี่มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ” เธอทำเสียงขุ่นใส่ พยายามจะดิ้นให้หลุดจากวงแขนเขา ไม่รู้ว่าไป๋เฟิ่งมาโผล่ตรงนี้ได้ยังไง
“พี่เดินลัดตึกมาค่ะ ฮั่นแน่...ดีใจที่เจอพี่เหรอ”
“หน้าเอินมันดูดีใจมากเหรอ” เธอยอกย้อน
“หน้าอาจจะนิ่ง แต่จริง ๆ อาจจะดีใจไงคะ จะว่าไป...วันนี้ก็สวยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีหนุ่มใหม่มาจีบอีกแล้ว” คนที่มักจะแวะเวียนมาหลีเธอทุกช่วงพักเอ่ยยียวน ทำให้เอินเอินได้แต่กำหมัดในใจ
“พี่ดูว่างจังนะ” สาวสวยว่าประชด
“ไม่ว่างค่ะ แต่ถ้าน้องเอินเรียกพี่มาได้เสมอ”
