บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

คืนแรก

ภาษรเล่นไอแพดอยู่บนเตียง แม้ส่วนล่างจะใช้การไม่ได้ แต่สมองเขายังคงอยู่ ชายหนุ่มเปิดดูข่าวบ้าง ตลาดหุ้นในต่างประเทศประเทศบ้าง

ตอนนี้เขายอมแต่งงานตามความคาดหวังของบิดามารดาแล้ว พรุ่งนี้เขาจะได้ทำอย่างที่หวัง คือกลับไปบริหารโรงสี จะทำทั้ง ๆ ที่อยู่บนรถเข็นนี่แหละ

ร่างอ้อนแอ้นเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทีแรกเขาไม่ได้สนใจ แต่แล้วกลับวกสายตามามองใหม่

มิเรียมใส่ชุดนอนท่อนบนเป็นสายเดี่ยวผ้าซาตินสีหวาน ข้างล่างเป็นกางเกงตัวสั้นโชว์ขาอ่อนน่าสัมผัส ชวนให้เขาไม่อาจละสายตาไปไหนได้

เธอแกล้งหยิบโลชันมาลูบไล้ลำแขนช้า ๆ พยายามทำให้เหมือนโฆษณาครีมทาผิวให้มากที่สุด คะเนว่าให้เวลาพอประมาณแล้วค่อยเดินไปที่เตียง ภาษรจ้องอยู่จริง ๆ เสียด้วย

“รีบปิดไฟนอนได้แล้ว ฉันแสบตา”

เขาวางไอแพดลงบนโต๊ะข้างเตียง นอนหันหลังให้ มิเรียมโล่งใจปนโมโหนิด ๆ ยั่วขนาดนี้แล้ว แสดงท่าทีหื่น ๆ อะไร ๆ มากมาเยอะ ๆ สิ เธอจะได้เอาเป็นข้อต่อรองให้เขายอมทำกายภาพบำบัด หรือว่าชุดนี้เซ็กซี่น้อยไป

เธออุตส่าห์เลือกมาจากชุดนอนไม่ได้นอนอันดับท็อป ๆ ในแอปพลิเคชันขายของชื่อดังในอินเทอร์เน็ตแล้วเชียวนะ แต่ไม่เป็นไร ในกระเป๋ายังมีอีกเพียบที่เธอกับมีนาช่วยกันหาซื้อมา ต้องมีสักชุดละน่าที่โดนต่อมหื่นของเขา

ภาษรนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะมีคนมาร่วมเตียงด้วย แต่เป็นเพราะท่อนแขนเนื้อนิ่ม ๆ ที่ดิ้นปะป่ายมาทางเขา ยามเนื้ออุ่นสัมผัสสมองเขาไพล่จินตนาการถึงชุดนอนตัวเล็กบนกายเธอ

นี่กะจะยั่วกันหรืออย่างไร สนุกมากหรือไงกับการกวนอารมณ์คนอื่น

ความจริงน้องชายเขายังใช้ได้ แต่มันไม่แข็งมานานแล้ว มันตายด้านเพราะถูกคนโน้นคนนี้สัมผัสเหมือนตุ๊กตายามเขาต้องให้คนอาบน้ำให้ แต่วันนี้กับแปลบปลาบนิด ๆ เมื่อมือนิ่มของเจ้าสาวสัมผัส

“เอ็งจะมาแข็งกับยัยนี่ไม่ได้”

เขาบอกมันในใจ ถ้าเช่นนั้นเขาจะตกหลุมพรางผู้หญิงประสงค์ร้าย หวังกอบโกยคนนี้ ภาษรไม่ยอมตกเป็นเหยื่อเธอแน่

ชายหนุ่มหลับไม่เต็มอิ่มนัก เพราะภรรยาหมาด ๆ นอนดิ้น เขาลืมตาทุกครั้งที่ผิวนุ่มนวลมาสัมผัส พอเปิดโคมไฟตั้งใจจะปลุกมาดู ภาพที่เห็นทำเขากลืนน้ำลาย

เสื้อนอนสายเดี่ยวของเธอเลื่อนจากไหล่มาอยู่ที่ต้นแขน เนื้อผ้าแนบติดผิวอวดอกที่ดุนดันผ่านเสื้อ มิเรียมหลับตาพริ้ม ขนตางอนยาวเป็นแพ จมูกโด่งน้อย ๆ ริมฝีปากอวบอิ่ม จนนึกอยากสัมผัสด้วยปากตนเองว่าจะนุ่มสักเพียงใด

มิเรียมกำลังยั่ว เธอรู้ว่าเขาทำอะไรไม่ได้ แต่เธอยังแต่งตัวเช่นนี้ เธอคือผู้หญิงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ภาษรไม่โง่ขนาดตกเป็นเหยื่อหรอก

เสียงล้อรถเข็นเสียดสีพื้นไม้ปาเก้ทำให้มิเรียมปรือตาขึ้น

“ตื่นได้แล้วยัยขี้เซา พาฉันไปอาบน้ำที”

เธอมองตามไปทางคนร่วมห้อง ภาษรหน้าบึ้งบนรถเข็นข้างม่านกั้นประตูระเบียง

“นี่มันเพิ่งกี่โมงเองคุณ”

มิเรียมปิดปากหาวหวอด เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึก เช้านี้ตื่นสายหน่อยก็ไม่ได้

“จะกี่โมงก็ช่าง ในเมื่อเธอเป็นเมียก็ฟังคำสั่งผัวด้วย ฉันสั่งให้ลุก พาไปอาบน้ำ”

มิเรียมลุกขึ้นจากเตียงจริง ๆ ในสภาพหัวฟู สายเสื้อตกอยู่ที่แขน อวดอกตึงตั้งเต้า

“เธอไปจัดการตัวเองเสียก่อน ฉันไม่อยากคุยกับคนยังไม่แปรงฟัน”

ตาเรียวยาวแกล้งมองออกไปข้างนอก เพื่อหลีกเลี่ยงภาพที่ก่อกวนชวนอวัยวะเบื้องล่างให้คับปึ๋ง มิเรียมยกมือเกาศีรษะ เดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ พอจัดการให้สภาพตัวเองดูดี ผมขมวดเป็นมวยเรียบร้อย จึงออกมาเข็นคนตื่นนานแล้วเข้าห้องน้ำ

ภาษรยกแขนขึ้นเป็นสัญญาณให้เธอถอดเสื้อให้

“คุณเดี้ยงแค่ส่วนล่างนี่ ข้างบนยังเป็นปรกติ ทำเองบ้างสิคะ”

พอสติกลับมาเธอค่อยเป็นตัวเองของตัวเองหน่อย เรื่องจะให้ยอมเขาไปเสียทุกเรื่องนั้นไม่ใช่คนอย่างมิเรียมเสียด้วย

“หน้าที่ของเมีย” คนแต่งกับเธอเสียงเข้ม

“ฉันแต่งงานกับคนเดี้ยง ไม่ใช่อัมพาต เพราะฉันนั้นคุณต้องทำเอง”

“ยัยหนูน้อย” ชายหนุ่มขบฟัน ตาวาวโรจน์

“ขา...คุณสามี” มิเรียมพึงใจที่ได้ยั่วโมโห “ถ้าไม่ทำเองก็นั่งตัวเหม็นอยู่ในห้องน้ำนี่แหละค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปกินข้าวเช้าแล้ว”

“ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์ ม้าให้เธอแต่งงานเพื่อมาดูแลฉันนะ”

ภรรยาหมาด ๆ ยักไหล่

“ม้าบอกว่าคุณเดี้ยงส่วนล่าง ไม่ได้บอกว่าเป็นง่อย จนทำอะไรเองไม่ได้ค่ะ”

ภาษรอยากกำราบคนลอยหน้าลอยตานัก มือแข็งแรงเพราะเข็นรถประจำคว้าเอวคาดมาใกล้

“อุ๊ย!”

มิเรียมไม่คิดว่าเขาจะมีฤทธิ์กว่าที่คาด กลายเป็นร่างเธอเกยก่ายอยู่บนร่างเขา ก้นกลมกลึงนั่งทับหน้าขาอุ่น ๆ และอะไรบางอย่างที่ตุง ๆ

“ถึงเดี้ยงแค่ส่วนล่างฉันยังจัดการเธอได้ละน่า”

อีกมือหนึ่งแกล้งแทรกเข้าไปในเสื้อนอนผ้าลื่น สัมผัสผิวนวลเนียนละเอียดมือ

“ปล่อยฉันสิ จะลวนลามเหรอ”

เพราะอยู่ในสภาพนั่งบนตัวเขา อกเต่งตึงจึงอยู่ระดับเดียวกับหน้าชายหนุ่ม ยิ่งขยับ ยิ่งเสียดสี จนเห็นตุ่มไต

“คุณอี้”

จมูกโด่งฝังลงบนเนินออกอย่างเผลอตัว สูดดมกลิ่นเนื้อนาง ที่หอมราวกลิ่นดอกไม้ฉ่ำฝน

“ปล่อย”

คนตั้งใจมายั่วชักเสียงอ่อย ด้วยเหยื่อกำลังจะกินเบ็ด ลิ้มชิมรสจนแก้มเธอขึ้นริ้วแดง มือสองข้างยันบ่ากว้างไว้

“คุณอี้” เธอเตือนสติอีกครั้งเมื่อเขาทำท่าจะรุกราน วัดขนาดปทุมงามด้วยริมฝีปากหยัก “...ต้องอาบน้ำนะคะ”

“เธอนี่พูดมากจังยัยหนูน้อย”

ภาษรพูดผ่านเสื้อผ้าซาตินของเธอ หนูในถังข้าวสารของเขามีดีกว่าที่คิด ขนาดเต็มไม้เต็มมือ ทำเขาเพลินจนลืมความตั้งใจเดิม ช่างปะไร แม่จ่ายสินสอดไปแล้ว เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ แต่อย่าหวังว่าเธอจะอยู่เหนือเขา จะควบคุมเขาได้

มิเรียมรู้สึกเลือดที่ไหลเวียนในกายร้อนรุ่ม ด้วยไม่เคยถูกจู่โจมขนาดนี้ ยิ่งฝืนกายหนี แขนแกร่งก็ยิ่งดึงเธอกลับมาแนบชิด ภาษรสำรวจสัดส่วนเธอทั้งหน้าหลัง

ปลายปทุมงามถูกชิมรสด้วยลิ้นอุ่นสาก เธอแหงนหน้า กัดริมฝีปากกลั้นความวาบหวามที่พุ่งสูง พร้อมโยกตัวเบา ๆ กลายเป็นการบดเบียดให้ส่วนล่างเขายิ่งคึกคัก

“อย่าดิ้นมาก เดี๋ยวฉันก็ได้เอาเธอตรงนี้หรอก”

มือเขาผละจากด้านหลังคนตัวเล็กกว่า เปลี่ยนเป็นจับต้นคอเธอรั้งให้ใบหน้าคนกำลังงงเข้าใกล้ แล้วใช้ริมฝีปากประกบ มิเรียมตาโตกับการจู่โจมรอบสอง พยายามบ่ายเบี่ยงริมฝีปากตนหนี ประท้วงเสียงอู้อี้ แต่คนเชี่ยวชาญกว่าอาศัยจังหวะที่เธอเปิดปาก แทรกเรียวลิ้นนุ่มชื้นเขาสำรวจ ทักทาย ยั่วเย้า

ในเมื่ออีกฝ่ายหลบ เขาก็รุกเข้าหา พัวพัน นัวเนีย ก่อให้เกิดอารมณ์เพริศ จนหญิงสาวหลับตาพริ้ม มือนิ่มที่เคยยันกลายเป็นขยุ้มเสื้อบนบ่ากว้างไว้ เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างขยุกขยิกดุนดันเสียดสีใต้แก้มก้น

ภาษรใช้มือที่ว่างล้วงเข้าไปไหนกางเกงนอนขาสั้นเนื้อลื่น ก้านนิ้วเรียวไปหยุดอยู่ที่เนินนูนแห่งความสาว แตะต้องผะแผ่วในดอกไม้แห่งชีวิต เธอผวาเฮือกด้วยเป็นครั้งแรกที่มีชายใดใกล้ชิดแนบแน่นถึงเพียงนี้

เขาค่อย ๆ สำรวจ แทรกอย่างเบามือ ยั้งใจไม่ให้เร่งร้อนเมื่อสัมผัสถึงการบีบรัดหนักแน่น มิเรียมขยับสะโพกอย่างเผลอไผล เธอต้องการบางสิ่งที่ลึกขึ้นมาเติมเต็มอารมณ์ปรารถนาแปลกใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น นิ้วแกร่งสอดแทรกอีกครั้ง ร่างกายหญิงสาวตอบสนองโดยเสียงเฉอะแฉะ

“คุณอี้” มิเรียมครางด้วยเสียงกระเส่า จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นเสียงตัวเอง

“เธอเป็นของฉันนะยัยหนูน้อย เป็นเมียต้องฟังคำสั่งผัว” ภาษรปล่อยรอยยิ้มที่นาน ๆ จะเห็นสักครั้งออกมา “พาฉันไปอาบน้ำได้แล้ว”

คิดจะยั่วเขานะหรือ เร็วไปร้อยปี ภาษรแสดงให้เห็นแล้วว่าใครเป็นคนคุมเกม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel