ep2
“นายหัวหรือ? แล้วคุณปู่ของฉันล่ะ”
“เกรงว่าคุณจะไม่ได้พบท่านในเวลานี้ครับ เพราะท่านบินไปพักผ่อนต่างประเทศ ก่อนหน้าที่คุณจะมา”
“ไม่จริง....คุณปู่เพิ่งโทร.บอกให้ฉันมาที่นี่”
“ด้วยเรื่องอะไรหรือครับ”
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวใหญ่ เดินมาทางเธอ ร่างสูงใหญ่ของเขาแทบจะบังร่างเล็กของเธอจนมิด
“เรื่องส่วนตัวของฉัน” ริลยามองเมินไปทางอื่น ไม่กล้าสบตา
“ผม...ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวคุณ ถ้าหากว่าคุณมาเพราะเรื่องร้านเหล้าที่มอมเมาผู้คน”
“ร้านเหล้าของฉัน สร้างความสุขให้ผู้คนต่างหาก” หล่อนเถียงขึ้นทันควัน
ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด เขาหันหลังเดินออกไปจากห้อง ริลยารู้สึกตัวก็รีบวิ่งตาม
“เดี๋ยว.... เดี๋ยวซิคุณ ฉันยังคุยกับคุณไม่จบเลยนะ อย่าเดินหนีแบบนี้ ฉันไม่ชอบ”
ชายหนุ่มหยุดกึก! ริลยาเบรกไม่ทันชนเขาเข้าเต็มเปาจนร่างถลาเกือบล้ม
“คนบ้า จะหยุดทำไมไม่บอก”
“ต้องบอกด้วยหรือ? ก็ในเมื่อคนที่บอกให้หยุดเป็นคุณ” เขาย้อน
“นั่นแหละ ก็น่าจะบอกกันก่อน ไม่ดูเลยหรือไงว่าผู้หญิงกำลังจะล้ม”
เขาจ้องใบหน้าของเธอ แววตากลมโตแจ่มใส มีแววเอาเรื่องดื้อรั้น จมูกโด่งเชิด รับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ใบหน้าสวยหวานขนาดนี้....ไม่น่าเปิดร้านเหล้าจนเกิดเรื่อง!
“จะมองฉันอีกนานไหม”
“ก็คนสวย...ผมก็มองนานหน่อย” เขาตอบกวนๆ
ริลยาเจอคำตอบตรงๆ ถึงกับทำหน้าไม่ถูก นึกไม่ชอบหน้าเขา ที่มีขนเต็มหน้าราวกับโจร
“คุณอยากรู้ว่าทำไมคุณปู่ไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วยังนัดฉันมาที่นี่อีก แถมคุณปู่ยังไม่ส่งคนไปรับฉันที่สนามบินด้วย” เสียงของหล่อนอ่อนลง
“เดี๋ยวคุณลองอ่านจดหมายของท่านดูก็แล้วกัน แล้วคุณจะรู้เรื่องทั้งหมด โดยที่ผมไม่ต้องอธิบาย ส่วนการไปรับคุณที่สนามบินนั้น ผมขอโทษ นึกว่าปกติคุณมาเอง จึงจัดคนไปรับแค่ที่ท่าเรือ”
“อ้อ....เป็นความผิดของคุณนี่เอง ฉันจะจำไว้ แล้วไหนล่ะจดหมาย” ริลยาแบมือขอ
“ผมให้คนเอาไปวางไว้บนห้องของคุณแล้ว ห้องของคุณที่ยังเหมือนเดิม เพราะคุณปู่ของคุณบอกผมไว้”
คุณปู่บอกไว้....หมายความว่ายังไง ทำไมให้ผู้ชายคนนี้มีสิทธิในการเปลี่ยนแปลงบ้านที่คุณปู่รักมากขนาดนี้ ริลยาผละจากเขาทันทีรีบขึ้นไปบนห้องของตัวเองอย่างรวดเร็ว ทันทีที่หล่อนเปิดประตูเข้าไป กระเป๋าเดินทางถูกวางไว้ที่ปลายเตียงแล้ว สภาพห้องยังอยู่เหมือนเดิม เหมือนสมัยที่เคยมาพักอยู่กับคุณปู่ ริลยาชอบห้องนี้ เพราะมองเห็นวิวกว้างของท้องทะเล หล่อนบอกท่านว่าขอห้องนี้ไว้ เมื่อไหร่ที่มีเรื่องทุกข์ใจจะมาพักที่นี่ คุณปู่อนุญาตและยกห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของหล่อนตลอดมา
เธอกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง จนพบว่าเก้าอี้เขียนหนังสือตัวโปรด มีซองสีน้ำตาลวางอยู่ มันถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา เพื่อให้เธอได้เปิดอ่านมันเป็นคนแรก
ริลยาหลานรัก
วันที่หลานได้จดหมายฉบับนี้ ปู่คงไม่อยู่ต้อนรับหลาน
ถ้าปู่เลือกได้ก็อยากจะบอกหลานด้วยตัวของปู่เอง เมื่อตอนที่หลานเป็นเด็ก หลานเคยถามปู่ใช่ไหมว่าทำไมเกาะแห่งนี้ ถึงชื่อเพทาย ปู่บอกหลานเพียงว่าเพราะเกาะแห่งนี้เปรียบเหมือนอัญมณีมีค่าสำหรับปู่ ไม่ใช่ว่าเพราะมันสร้างรายได้ให้กับปู่หรอกนะ แต่เพราะมันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของผู้หญิงที่ปู่รักมากคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นชื่อ “เพทาย”
เพทาย เป็นผู้หญิงที่ปู่หลงรัก เขาเป็นนักธุรกิจสาวสวย เก่ง และฉลาด เรามาซื้อเกาะนี้ร่วมกัน และทำธุรกิจร่วมกันอยู่ระยะหนึ่ง จนเขาท้อง...
เขาไม่ได้ท้องกับปู่หรอก เพราะเขาเอ็นดูปู่เท่านั้น เพทายเขามีสามีแล้ว หลังจากที่เขาท้อง เขาก็ยกกิจการให้ปู่ดูแล แล้วไปตั้งรกรากที่อเมริกาตามสามีของเขา ส่วนปู่ก็ได้ลงหลักปักฐานกับย่าของหลาน จนย่าหนีปู่ไปเที่ยวสวรรค์แล้ว
วันนี้ ปู่ได้รับคำเชิญจากเพทาย ให้ไปหาเขาที่อเมริกา ปู่ไม่อยากไปหรอก ไม่อยากทิ้งเกาะนี้ไป แต่ความจำเป็น รวมทั้งเขาได้ร้องขอ ปู่จำต้องทิ้งเกาะให้กับมาร์ค หลานของเพทาย เขาดูแลแทนทุกอย่างแทนปู่
ริลยา....ทรัพย์สินที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบ้านหลังนั้น เป็นของเพทาย ไม่ใช่ของปู่แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างบนเกาะแห่งนี้...ปู่ก็ติดสินใจขายให้กับเพทายเขาหมดแล้ว ปู่ขอเขาเอาไว้แค่ว่าขอเก็บห้องของหลานไว้ มันเป็นของหลาน ส่วนปู่จะขอเก็บมันไว้ในความทรงจำ
เอกสารที่ใส่มาพร้อมจดหมายฉบับนี้ เป็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่างๆ ให้หลาน มันเป็นเครื่องเพชรในตู้เซฟของย่า ทนายจะเป็นคนจัดการให้หลานเอง
ส่วนทรัพย์สินของปู่...คือเกาะแห่งนี้ ถ้าหลานอยากได้คืนก็ไม่ยากอะไรหรอก แต่ต้องทำตามเงื่อนไขของเพทาย ซึ่งปู่ไม่บังคับใจหลาน แล้วแต่หลานจะตัดสินใจ
ถ้าปู่โชคดี ปู่จะกลับมาหาหลานรักของปู่
คีรินทร์
