EP.04
“หนูเจ้าขาขึ้นมาหาป้าเร็วๆ ลูก เดี๋ยวพี่พีทเขาก็มา ไม่ต้องรอหรอกลูก พี่พีทเขาคุยโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง”
เสียงคุณป้าสมาพรประกาศออกไมค์เหมือนตัวช่วย หล่อนเดินสวนกับคุณลุงแพทริคที่มองด้วยสายตาเอ็นดูพร้อมกับเอื้อมมือมากระชับต้นแขน บีบน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้เชื่อใจ
เจ้าขาเดินเข้าไปบนเวที แม่สวมกอดหล่อนพร้อมกับพ่อที่สวมกอดทั้งหล่อนและแม่ เสียงปรบมือจากแขกผู้มาร่วมงานดังขึ้น หล่อนบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ในเมื่อถ้อยคำนินทายังดังก้องอยู่ในหัว
“แม่คะ”
“ไม่เป็นไรลูก เจ้าขารออยู่ตรงนี้นะลูก เดี๋ยวคุณลุงแพทริคจะไปตามพี่พีทเอง”
“พ่อกับแม่อยู่ข้างๆ เจ้าขานะลูก ไม่ต้องกังวล”
“ใช่ลูก เจ้าขารออยู่ตรงนี้นะ ป้าจะไม่ยอมให้พี่พีททำให้เสียเรื่องแน่”
หัวใจหล่อนฟูขึ้นมาเมื่อได้รับกำลังใจจากพ่อแม่และคุณลุงคุณป้า หล่อนก็หวังว่าเจ้าบ่าวสุดหล่อจะมายืนเคียงข้าง หล่อนไม่อยากเป็นเจ้าสาวที่ยืนอยู่บนเวทีโดยข้างกายไร้เจ้าบ่าว แม้หล่อนยังเด็กเกินกว่าที่จะเป็นเจ้าสาว และไม่เคยคิดอยากจะแต่งงานตอนอายุ 18 ปีมาก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนลึกของหัวใจนั้นหล่อนก็คาดหวังว่าจะมีเขายืนเคียงข้างในเวลานี้ เพราะตั้งแต่จำความได้ สายตาของหล่อนก็มีไว้แค่มองเขาคนเดียว
รอกว่า 10 นาทีคุณลุงแพทริคก็ยังไม่กลับมาจนพิธีกรเข้ามากระซิบถามคุณป้าสมาพรว่าเจ้าบ่าวไปไหนแล้วจะเอายังไงต่อ
คุณป้าสมาพรถอนหายใจเฮือกแต่สีหน้าก็ยังมีรอยยิ้มขยับปากน้อยๆ เหมือนพูดคุยในเรื่องสนุกสนาน แต่สิ่งที่พูดกับพิธีกรก็คือ
“ตาพีทน่ะสิ ติดคุยงานกับลูกค้าฝรั่ง ดันโทร.มาวันนี้เสียอีก เนี่ย! ฉันก็ให้พ่อเขาไปเร่งแล้ว”
“แต่จะนานไหมครับ จะไม่ทันฤกษ์ส่งตัวนะครับ”
“นั่นน่ะสิจะทำยังไงดี คุณช่วยคิดหน่อยมีวิธีไหนที่จะทำให้งานผ่านไปได้บ้าง”
เจ้าขากะพริบเปลือกตาถี่ พยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ ไม่ให้หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอไหลออกมา เพราะท่าทีของพิธีกรที่อึ้งไป แต่สายตามองหล่อนอย่างสงสาร นั่นทำให้หล่อนเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวที่ครอบครัวหล่อนตั้งใจจับเจ้าบ่าวนั้นคงไม่ใช่ความลับแค่แขกกลุ่มนั้นพูดคุยกันสนุกปาก
พี่พีทรังเกียจหล่อนถึงขนาดนี้
สุดท้ายพิธีกรก็แก้ปัญหาด้วยการประกาศบอกว่าเจ้าบ่าวติดธุระคุยเรื่องงานสำคัญอยู่ยังปลีกตัวมาไม่ได้ขอข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อนเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารต่อ
ดูเหมือนเรื่องราวจะผ่านไปด้วยดี แต่เจ้าขารู้ว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นเลยเพราะสายตาของทุกคนที่มองขึ้นมา เท่าที่หล่อนเห็นได้ผ่านม่านน้ำตาก็คือความสมเพชเวทนาที่หล่อนเป็นเจ้าสาวที่ถูกทิ้งอยู่บนเวทีเพียงลำพัง
“แกทำอย่างนี้ได้ยังไงเจ้าพีท”
แพทริคแผดเสียงลั่นในห้องพักผ่อนส่วนตัวสำหรับเจ้าบ่าวเพราะไม่ว่าอย่างไรพีทก็ไม่ยอมไปขึ้นเวที
“ใช่! พีทตั้งใจทำให้พ่อกับแม่เสียหน้า”
สมาพรเสียงเข้มเพราะไม่คิดว่าลูกชายคนเดียวจะกล้าทำแบบนี้
“แค่ผมแต่งให้ก็บุญแล้วนะครับ พ่อกับแม่อย่ามาเรียกร้องอะไรอีก ก็แค่งานแต่งงาน เจ้าบ่าวก็มีแล้ว เจ้าสาวก็มีแล้ว จะให้ไปประกาศความรักบนเวทีอีกทำไม อยากจะประจานให้คนอื่นรู้เหรอครับว่าเจ้าบ่าวถูกบังคับให้แต่งงาน”
“เจ้าพีท! แกจะทำอะไรแกคิดถึงหน้าตาพ่อแม่บ้าง”
“แล้วที่ทำอยู่นี่ไม่เรียกว่าคิดถึงหน้าตาหรอกเหรอครับ ถ้าผมไม่มีสิ่งนั้น ผมไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก ไม่มาใส่ชุดบ้าๆ แบบนี้ด้วย แล้วก็จะไม่ยอมให้ใครมาจับด้วย”
“เจ้าพีท! แกทำผิดแล้วแกยังจะกล้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ แกพูดได้ยังไงว่าน้องมันจับแก ในเมื่อแกเป็นคนลากน้องเข้าไปในห้องนอนของแกเอง ถ้าแกไม่ทำน้อง เหตุการณ์วันนี้มันจะเกิดขึ้นไหม!”
แพทริคตวาดลั่นอย่างเหลืออด ไม่เคยโมโหลูกชายมากขนาดนี้มาก่อน
“พ่อกับแม่จะให้ผมพูดกี่ครั้ง ผมบอกแล้วไงว่าผมเอาผู้หญิงมาเป็นร้อย ก็อีแค่แก้ผ้านอนกับผู้หญิงน่ะ มันไม่ได้แปลว่าผมเอาแล้วหรอกนะ แล้วถ้าผมเอาจริง ยัยคุณหนูเจ้าขาของพ่อแม่คงไม่นั่งสะดีดสะดิ้งอยู่บนเตียงได้แบบนั้นหรอก คงต้องหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้ว”
