ตอนที่ 10
ชายหนุ่มพาลักษิกามาส่งที่บ้าน แต่สวนกับรถของพรเทพไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด พวกเขาจึงไม่ได้เจอหน้ากัน ก่อนจะเลี้ยวเข้าบ้านของเธอ ชายหนุ่มเบรกมอเตอร์ไซค์กระทันหัน
ลักษิกาไม่ทันระวัง หน้าของเธอทิ่มกระแทกหลังของเขาอย่างแรง ชายหนุ่มแอ่นหลังด้วยความเจ็บ ลักษิกาก็เจ็บจมูก เธอเอามือกุมจมูกและตีเขาแรง ๆ
"จะบ้าเหรอ...ทำไมเบรกแบบนี้ล่ะ...ฉันเจ็บนะ"
"แล้วผมไม่เจ็บเหรอ คุณเล่นกระแทกหลังผมแบบนี้ แล้วยังจะตีผมอีก คนนะ...ไม่ใช่หุ่นกระป๋อง จะได้เจ็บไม่เป็นอ่ะ"
"ดีนะจมูกไม่หลุด"
"จมูกปลอมหรือไงคุณ ถึงหลุดได้ เสริมดั้งมาล่ะสิ"
ชายหนุ่มหัวเราะ
"บ้า...ของจริงย่ะ แล้วคุณเบรกทำไม ใกล้จะถึงบ้านฉันอยู่แล้วนะ เนี่ย...ข้างหน้าอีกนิดเดียวเอง"
ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ชี้ให้เธอดูรถคันหนึ่งที่มีผู้ชาย 3 คนนั่งรออยู่ในรถ ลักษิกาตกใจจนเอามือปิดปาก
"จะเอายังไงล่ะ พวกมันมาดักรอคุณถึงหน้าบ้านเลยเนี่ย"
ลักษิกานิ่งอึ้ง ไม่รู้จะทำยังไงดี เธอน้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วงพ่อกับแม่ ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกท่านจะเป็นยังไงบ้าง เธอคิดไม่ตกว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ชายหนุ่มเห็นเธอร้องไห้ก็ส่ายหัว
"ถ้าร้องไห้แล้วช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นได้...ก็ร้องเถอะ แต่ถ้าช่วยไม่ได้...ก็เงียบซะ แล้วคิดหาทางออกดีกว่านะ"
ลักษิกาเช็ดน้ำตา แล้วก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มมองงง ๆ
"จะทำอะไร"
"ฉันจะเข้าบ้านเอง ขอบคุณนะคะ ที่คุณมีน้ำใจช่วยฉัน แล้วยังพามาส่งอีก ฉันไม่อยากให้คุณต้องเดือดร้อนมากไปกว่านี้...คุณกลับไปเถอะค่ะ"
ลักษิกาเปิดกระเป๋า ในนั้นมีมือถือกับกระเป๋าเงิน เพาเวอร์แบงก์ และเครื่องสำอางนิดหน่อย เธอเอาเงิน 3000 บาทยื่นให้ชายหนุ่ม
"ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันก็มีเท่านี้แหละ ฉันให้คุณเป็นค่าเสียเวลาค่ะ"
ชายหนุ่มปัดมือเธอออก
"ไม่เอาอ่ะ ผมช่วยใคร...ไม่ใช่จะหวังค่าตอบแทนหรอกนะ"
"ฉันไม่ได้ดูถูกคุณนะคะ ฉันมีแค่นี้จริง ๆ"
"ผมไม่เอา...บาทเดียวก็ไม่เอา"
ลักษิกายิ้มให้เขา และทำท่าจะเดินไป เขาลงจากรถมาขวางหน้า
"คุณจะเข้าบ้านยังไง คุณก็เห็นว่าพวกมันดักรออยู่นั่น"
"บ้านฉันมียาม ถ้าฉันตะโกนให้ช่วย ยามต้องออกมาช่วยแน่ ๆ"
"กลัวแต่คุณจะไม่มีโอกาสตะโกนน่ะสิ แค่มันอุดปากคุณแป๊บเดียว... คุณก็สลบแล้ว พวกมันคงไม่โง่ให้คุณหลุดมือไปได้อีกหรอก"
ลักษิกาก้มหน้าคิดหนัก
"เราไปที่อื่นก่อนดีไหม แล้วดึก ๆ ค่อยย้อนกลับมา ไปคุณ...เดี๋ยวพวกมันจะมาเห็นเราเข้า"
ลักษิกาพยักหน้า ขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์...ให้เขาพาไปจากตรงนั้นก่อน ชาย 3 คนนั้นเฝ้ามองแต่บ้านของพรเทพ จึงไม่เห็นว่าลักษิกามาแอบดูบ้านตัวเอง
ขวัญตาเดินไปเดินมา เธอรอคำตอบจากคนของเธอ...ที่จ้างให้ไปจัดการกับลักษิกา เธอสั่งพวกนั้นว่า ถ้าฆ่าไม่ได้ก็จับตัวมาเรียกค่าไถ่ แต่จนป่านนี้ก็ยังเงียบ ๆ อยู่ ไม่มีโทรมาเลยสักสาย
"คุณแม่คะ...เลิกเดินเถอะค่ะ โรสเวียนหัว"
"ไม่รู้พวกไอ้ชีพทำสำเร็จไหมน่ะสิ ป่านนี้ยังไม่โทรมาแจ้งข่าวเลย"
"คงยังไม่ได้เรื่องมังคะ ถ้าได้เรื่องแล้ว...ก็คงโทรมาเองแหละ"
ขวัญตามองลูกสาวแล้วถอนใจ
"แม่ว่าแกน่าจะแต่งตัวสวย ๆ ไปหาลูกชายคุณพรพรรณดีกว่านะ"
"โอ๊ย...ไม่เอาหรอกค่ะคุณแม่ หยิ่งซะปานนั้น ดูเหมือนแม่เขาอยากดองกับอาเทพมากกว่านะคะ"
"ทำไม...แกจะยอมแพ้นังขิมหรือไง แกจะยอมให้นังขิมแต่งงานมีความสุขแซงหน้าแกงั้นเหรอ"
ระรินหันขวับมามองหน้าแม่ ขวัญตาทำเป็นเมิน
"ไม่ค่ะ...โรสไม่ยอม โรสต้องได้ดีกว่าอีขิม โรสสวยกว่ามันตั้งเยอะ เรื่องอะไรจะให้มันได้ดีกว่า"
ระรินเชิดหน้าบอกแม่
"มันต้องอย่างนี้สิลูก ไป...ไปแต่งตัวให้สวย ๆ แล้วไปหาคุณภัทรพล ไปทำให้เขาถอนหมั้นังขิมให้ได้ระ"
"ค่ะคุณแม่"
ระรินยิ้มหวาน เดินนวยนาดขึ้นข้างบน ขวัญตาบ่นลูกเบา ๆ
"ไม่ได้เรื่องเล๊ยยายโรสนี่ ต้องให้บอกต้องให้เตือนอยู่เรื่อย หื้มมม..."
ขวัญตาส่ายหัวให้ลูกสาว เธอกำลังใจดใจจอรอผลจากคนของเธอ ที่ไปจัดการกับลักษิกามากกว่า
