วิวาห์ร้อน ซ่อนกลรัก

151.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
94
บท
6.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อความรักใส่เกียร์วิ่งชนเข้าอย่างจัง พรหมลิขิตแบบเร่งด่วนทำให้เกิดพันธนาการหัวใจระหว่าง ปิติญาดา และ คณิน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานคนธรรมดาแต่งงานสายฟ้าแลบหนีแต่งงานรักแรกพบฟินๆโรแมนติก

บทที่ 1

รถยุโรปคันสวย แล่นไปตามถนนยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร ความที่บรรยากาศรอบข้างช่างเงียบเชียบจนน่าวังเวงชวนขนหัวลุก มือน้อยๆ ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่จับพวงมาลัยรถอยู่นั้นจึงเอื้อมไปเปิดวิทยุ นิ้วเรียวสวยจิ้มเลือกสถานีมาสักหนึ่งสถานีเพื่อฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่เจาะจง สายตาก็ไม่ได้ละไปจากท้องถนนตรงหน้า ก่อนที่หูจะสะดุดกับเพลงที่กำลังดังขึ้น จนหัวทุยๆ ที่จัดแต่งทรงผมมาอย่างสวยงาม แทบจะทิ่มไปกับพวงมาลัยรถ

‘งานแต่งที่ใด เป็นได้แค่แขกรับเชิญ อยากแต่งกับเขาเหลือเกิน ขัดเขินที่ยังไร้คู่…..’

ปิติญาดาอยากจะหักพวงมาลัยในมือชนต้นไม้ข้างทางให้รู้แล้วรู้รอด เพลงอะไรช่างเปิดได้ประจวบเหมาะกับชีวิตเธอตอนนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวละมือจากวิทยุมากำพวงมาลัยทั้งสองข้าง ไม่ได้เปลี่ยนสถานีหนีเพลงที่ดังขึ้นแต่เสียดแทงใจดำคนโสดแต่อย่างใด นั่งฟังไปอย่างนั้น ตอกย้ำคนโสดไร้คู่อย่างเธอให้ถึงที่สุดกันไปข้าง อายุอานามก็จะแตะเลขสามเข้าไปทุกขณะ ก็ยิ่งกลัวว่าคานทองนิเวศที่ไม่ต้องการจะหล่นตุ๊บลงมาบนตัก

“เฮ้อ!!” เสียงถอนหายใจของคนโสดดังออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะสำรวจตัวเองผ่านกระจกมองหลัง เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เสียหน่อย สมัยเรียนเป็นถึงอดีตดาวมหาวิทยาลัยเชียวนะ ฐานะทางบ้านก็ดีในระดับหนึ่ง เป็นลูกสาวคนเดียวเสียด้วย แต่ทำไมถึงไร้คู่ก็ไม่รู้ได้ หรือเธอจะต้องห้อยโหนบนคานทองจริงๆ หรือนี่ คิดแบบนั้นคนสวยถึงกับแยกเขี้ยวให้ตัวเองผ่านกระจก

ขณะที่คิดเรื่องนี้ สายตาก็เหลือบมองไปเห็นของชำร่วยชิ้นน่ารักกับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวที่วางไว้ตรงกระจกหน้ารถ สองชิ้นนี้เธอพึ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่ถึงสามชั่วโมงก่อน ในงานแต่งงานของภคมณเพื่อนสนิทกันมาเป็นสิบๆ ปี แต่ชิ่งตัดหน้า แซงทางโค้ง แต่งงานไปก่อนเธอ ทั้งๆ สมัยละอ่อนเคยสัญญากันไว้เสียดิบดี ว่าจะอยู่โสดๆ ในแบบฉบับสาวสวยๆ รวยๆ เริ่ดๆ ไปจนแก่

แถมงานแต่งงานคราวนี้เธอได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวแบบไม่ตั้งตัว ในงานจึงถูกแซวว่าจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป ซึ่งปิติญาดานั้นได้แต่ส่ายหน้าให้ เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าไม่ทางเป็นแบบนั้นได้แน่นอน พอคิดถึงเรื่องนี้ก็ชวนให้ย้อนคิดถึงอดีต

“เราสองคนจะอยู่กันแบบนี้ ถึงไม่มีผู้ชายก็ไม่แคร์” คำพูดและภาพในอดีตตอนที่ภคมณเอ่ยปฏิญาณด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาก็จริงจังประหนึ่งจะไปออกรบฉายเข้ามาในความคิดของปิติญาดา ก่อนที่ทั้งสองคนจะเกี่ยวก้อยสัญญา แต่ภาพต่อมาคือภาพที่ภคมณสวมชุดเจ้าสาวซะอย่างนั้น

“คุณเพื่อนขี้จุ๊ ชิชิ” ปิติญาดาทำปากยื่นปากยาวให้ภคมณ วันนี้ที่สวยเปล่งปลั่งสมเป็นเจ้าสาว ถึงจะหวิวๆ แต่ภาพนั้นก็ทำเอาเธอน้ำตาคลอ ปลื้มใจแทนเพื่อนรักที่ต่อไปนี้มีชายหนุ่มผู้แสนดีมาคอยดูแลไปตลอดชีวิต ส่วนเธอต่อไปนี้ก็คงใช้ชีวิตตามประสาคนโสดต่อไป แต่พอคิดแบบนั้นลูกศรของความโสดก็แล่นมาปักอกดังฉึก!

‘ตกลงสาวสวยอย่างเธอคือคนสุดท้ายของกลุ่มที่ยังไม่แต่งงานใช่ไหม’ คิดแล้วแค้นใจ มือสวยบีบพวงมาลัยรถจนแน่นริมฝีปากบางอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน ก่อนที่จะตั้งสติขับรถกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ใจนั้นเปลี่ยวเหงา ปีนี้ปิติญาดานั้นอายุย่างเข้ายี่สิบแปดแล้ว เป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวอารายานนท์ ซึ่งมีบิดาที่ชื่อศรชัยเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่หัวหน้าครอบครัวที่แท้จริงดูเหมือนจะเป็นภรรยาที่ชื่อผกามาศมากกว่า ผู้ซึ่งมีตำแหน่งมารดาของเธอพ่วงมาด้วย

เพราะดูเหมือนคุณนายผกามาศจะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของบ้าน เพราะสามีของคุณนายผกามาศหรือพ่อของปิติญาดานั้นอยู่สมาคมกลัวเมียมาตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ครอบครัวของปิติญาดาประกอบอาชีพด้านพลังงาน มีปั๊มน้ำมันอยู่หลายแห่งทั่วประเทศไทยเรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งก็ว่าได้ แม้จะไม่ใช่เศรษฐีเก่า แต่เรื่องเงินทองทรัพย์สมบัติเชิดหน้าชูตาก็มีไม่น้อยหน้าใคร

การมีลูกสาวคนเดียวแถมยังไม่ได้แต่งงานแต่งการหรือไม่มีข่าวเรื่องคบหาใครเป็นพิเศษ ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่กลัดกลุ้มไม่น้อย จนต้องปรึกษาหารือเรื่องนี้กันอยู่เนืองๆ อย่างเช่นตอนนี้เป็นต้น สองสามีภรรยานั่งจับเข่าคุยคล้ายปรับทุกข์กันในห้องนอน ต่างมองหน้าและถอนหายใจออกมาเฮือกๆ พวกเขามีแผนไว้ในใจแล้วว่าจะทำยังไงให้ปิติญาดาได้ลงจากคาน

เป็นแผนอันบ้าดีเดือดที่ทุกคนคิดไม่ถึงแน่นอน แต่ถ้าแผนไม่สำเร็จ ต่างก็กลัวว่าจะสูญเสียลูกสาวคนเดียวคนนี้ไปเพราะความโกรธเกรี้ยว ถึงจะเสี่ยงก็ต้องยอมเสี่ยงกันสักครั้ง

“แน่ใจนะคะคุณว่าจะได้ผล” น้ำเสียงของผกามาศดูหวาดหวั่นชอบกล ชักไม่แน่ใจว่าแผนคลุมถุงชนครั้งนี้จะได้ผลจริงๆ ถ้าพลาดขึ้นมาเธอแทบไม่อยากจะคิด

“ได้ผลสิ ถ้ายายน้ำมนต์ของเราได้แต่งงานนะ ไม่เกินปี เราตายายจะได้อุ้มหลานน่ารักน่าชังแน่นอน คุณไม่อยากอุ้มเหรอ” คำพูดของสามีทำเอาผกามาศปฏิเสธไม่ออกแต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี

“อยากน่ะมันอยากอยู่แล้ว แต่…”

“ไม่มีแต่แล้วคุณอ้อย เราต้องเดินหน้าลุยอย่างเดียว” ศรชัยเอ่ยอย่างมั่นใจ งานนี้มีแต่ลุยคำเดียวเท่านั้น สองสามีภรรยาพยักหน้าให้กันและกันอย่างแน่วแน่พร้อมเดินหน้าต่อเต็มกำลัง มั่นใจว่าสายตาผู้ใหญ่สี่คู่มองไม่ผิด ว่าหญิงสาวที่ชื่อปิติญาดาและชายหนุ่มที่ชื่อคณินนั้นต้องมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติเป็นแน่ แม้ตอนเริ่มต้นจะเศร้าสร้อยและไม่ค่อยสวยงามเหมือนในนิยายก็ตามที

ศรชัยและผกามาศมีนัดกับมงคลและเพ็ญแข ซึ่งทั้งสี่คนนั้นเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันตั้งแต่สมัยเรียนในวันรุ่งขึ้นเพื่อพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานของลูกๆ พวกเขาให้เสร็จสิ้นในพรุ่งนี้ ต่างฝ่ายก็ต่างมีแผนไว้จัดการกับคนของตัวเอง เรียกได้ว่าไร้ซึ่งหนทางปฏิเสธได้แน่นอน ใช่ว่าพวกเขาอยากจะใช้วิธีนี้ แต่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะพยายามนัดให้ลูกสาวลูกชายออกมาเจอกัน แต่ก็คลาดกันเสียทุกครั้งไป

เหตุที่พวกเขาต้องรีบจัดแจงคลุมถุงชนให้เกิดขึ้นเร็วๆ เพราะวันก่อนคณินเข้ามาเปรยๆ กับเพ็ญแข ถามเรื่องแหวนแต่งงานอะไรทำนองนี้ คนเป็นแม่จึงพอจะเดาได้ว่าลูกชายมีความคิดจะสร้างครอบครัวเสียแล้ว และถ้าเดาไม่ผิดอีกอย่าง หญิงสาวที่ลูกชายเธอจะแต่งงานด้วยนั้นต้องเป็นกิ่งดาวแน่นอน ซึ่งงานนี้เพ็ญแขไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เพราะสะใภ้ตระกูลภูมิภักดีเกียรติต้องเป็นปิติญาดาคนเดียวเท่านั้น