บทนำ
ปฐมบท
บ้านวงศ์สุพรรณ
งานแต่งงานระหว่างสองทายาทตระกูลดังถูกจัดขึ้น ณ ใจกลางห้องโถงใหญ่ของบ้านวงศ์สุพรรณ คฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนดอกไม้หลากหลายสายพันธ์ของเจ้าสัวสุนทร นายหน้าค้าที่ดินรายใหญ่ของประเทศที่มีภรรยาเป็นถึงหม่อมหลวงนิตยา แม้ว่าทั้งสองท่านจะล่วงลับไปแล้วแต่ชื่อเสียงและคุณงามความดีที่เคยมียังคงอยู่จนทำให้แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งวันนี้มีมากนับร้อยชีวิตไม่ว่าจะญาติทางเจ้าบ่าวหรือแม้แต่บรรดาเพื่อนๆ ของเจ้าสาวก็ล้วนแล้วแต่ยิ้มแย้มแสดงความยินดีให้กับคู่บ่าวสาวที่ไม่ว่าจะมองดูตรงไหนนั้นก็ดูเหมาะสมกันมากราวกับกิ่งทองใบหยกไม่ว่าจะหน้าตา..หรือฐานะทางสังคมก็ตามที่
ทว่านี่กลับเป็นวันแรก…ที่คู่บ่าวสาวมีโอกาสได้พบหน้ากัน!!
แพรชมพู ทายาทคนที่สองของคุณหญิงสายใจกับท่านไกรเงยหน้ามองเจ้าบ่าวสุดหล่อที่เธอรู้แต่เพียงว่าเขาเป็นถึงคุณหมอศัลยกรรมชื่อดัง แม้จะเคยเห็นรูปของเขามาบ้างแต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เจอตัวเป็นๆ เธอกลับรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อยกับงานแต่งสายฟ้าแลบที่ถูกจัดขึ้น ตามสัญญาพวกผู้ใหญ่ที่มีมาแต่สมัยรุ่นพ่อ
เรื่องราวทั้งหมดมันเป็นเพราะคำสัญญาที่พ่อเขาเคยได้ให้ไว้กับพ่อของเธอว่าหากทั้งคู่มีลูกชายและลูกสาวจะให้สองคนแต่งงาน มันคือคำพูดที่เป็นต้นเหตุของงานแต่งงานในวันนี้ซึ่งในตอนแรกเธอเองก็คัดค้านหัวชนฟ้าเพราะเพิ่งจะเรียนจบมหาลัยมาหมาดๆ เธอจึงอยากใช้ชีวิตอิสระเพื่อที่จะตามหาความฝันของตัวเองอีกสักหน่อย
แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปฏิเสธยังไงสุดท้ายก็ถูกผู้เป็นแม่บีบบังคับให้ต้องแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่ตั้งแต่เจอหน้าก็เอาแต่เงียบนิ่ง
ไม่ยอมพูดยอมจากันเลยสักคำเดียวจนได้!
“แม่ขอให้ลูกๆ ทั้งสองรักกันอย่างมั่นคง เราเองก็โตแล้วนะแพร อย่าเอาแต่ใจให้มากเข้าใจไหม แม่ฝากน้องด้วยนะตาอิฐ รายนี้อาจจะดื้อไปเสียหน่อยแต่ก็เป็นเด็กดีว่าง่าย” แพรชมพูเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นแม่น้ำตาคลอ ยิ่งเห็นหางตาของท่านซึมไปด้วยน้ำตาก็ยิ่งรู้สึกใจจะขาดที่ต่อจากนี้ไปเธอจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่กับสามีหน้านิ่งที่กระทั่งป่านนี้ก็ยังไม่มีวาสนาพอที่ได้ยินคำพูดใดๆ จากปากของเขาเลยแม้แต่คำพูดเดียว ไม่รู้เลยสักนิดว่าคนข้างกายนั้นนิสัยเป็นยังไง
“ครับคุณแม่ ผมจะดูแลน้องแพรให้ดีที่สุด คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ” นับว่าเป็นประโยคแรกเลยที่มันหลุดออกมาจากปากของนาวิน เขาหันไปมองเจ้าสาวของตัวเองพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉยเพราะยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ เขาเองก็เพิ่งจะทราบว่าต้องแต่งงานกับหญิงสาวข้างกายเมื่อไม่นานมานี้จากปากของแม่นม
ทุกๆ อย่างมันถูกจัดขึ้นโดยที่มีแม่นมของเขาที่เป็นคนจัดการทุกอย่างให้ตามคำสั่งเสียของคุณพ่อที่ไม่ว่ายังไงท่านก็อยากให้เขาแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนรักตามคำสัญญาเมื่อหมดทางจะปฏิเสธงานแต่งสายฟ้าแลบวันนี้จึงเกิดขึ้น…โดยที่เขาไม่ได้เต็มใจนัก
แถมเขายังได้เจ้าสาวที่ไม่เคยเจอหน้าเป็นของแถมอีกด้วย!
ทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วมารู้สึกตัวอีกทีแพรชมพูก็ยืนคว้างอยู่ในห้องนอนของว่าที่เจ้าบ่าวหน้านิ่งในเรือนหอซึ่งเป็นบ้านสองชั้นขนาดไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป นาวินให้เหตุผลกับแม่ของเธอว่าบ้านหลังนี้เขาเก็บเงินจากอาชีพหมอซื้อมันมาด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือ ‘ใกล้กับที่ทำงาน’ เธอจึงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่กับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่น่าเป็นกังวลมากกว่าอะไรทั้งหมดในตอนนี้มันกลับไม่ใช่เรื่องเรือนหอ แต่มันเป็นต่อจากนี้ไปต่างหากที่เธอกำลังกังวล ด้วยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในค่ำคืนนี้
เธอไม่รู้ และไม่คิดคาดเดาเพื่อทำให้ตัวเองตื่นเต้นจนเกินไป
“นอนเถอะครับ” แต่จู่ๆ เสียงเข้มของเจ้าของห้องก็ดังขึ้นนั่นทำให้คนที่กำลังยืนคิดอะไรอยู่เงียบๆ ตามลำพังถึงกับสะดุ้งขึ้นมา
“ค่ะ…คะ! คุณว่าอะไรนะคะ!” หญิงสาวทวนคำบอกกล่าวของเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่หมายถึงน้องแพรรีบเข้านอนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว คืนนี้พี่ต้องกลับไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล น้องแพรอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมครับ” นาวินอธิบายถึงความหมายในคำพูดโดยไม่ได้ติดใจเอาความภรรยาคนสวย ที่เธอใช้สรรพนามเรียกเขาด้วยคำพูดที่ห่างเหิน
“ค่ะ”แพรชมพูไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอขานรับออกไปแบบนั้น
อาจเป็นเพราะเธอกำลังอยู่ในช่วงตกใจที่สามีหมาดๆ ของตัวเองเพิ่งจะบอกว่าเขาจำต้องกลับไปทำงานต่อในคืนเข้าหอก็ได้ แม้อยากจะกลับคำแต่ก็คงไม่ทันแล้วเพราะอีกคนหมุนตัวก่อนจะพาตัวเองเดินออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อย….ทิ้งเธอไว้ที่นี่ตามลำพัง!!
หากเพื่อนซี้ตัวแสบรู้เรื่องนี้เข้ามีหวังเธอคงถูกล้อไปอีกนานแน่ ที่คุณหนูอย่างแพรชมพูถูกสามีป้ายแดงทิ้งให้เข้าหอตามลำพัง!!
